อยุธยา 7 ม.ค.-อธิบดีกรมชลประทานลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ติดตามการบริหารจัดการน้ำ เพื่อรักษาระบบนิเวศในลุ่มน้ำแม่กลอง ท่าจีน และเจ้าพระยา รวมทั้งแก้ปัญหาความเค็มในน้ำประปา
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำ เพื่อรักษาระบบนิเวศในลุ่มน้ำแม่กลอง ท่าจีน และเจ้าพระยา ที่สถานีวัดน้ำท่า ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร และประตูระบายน้ำสิงหนาท 2 อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา และติดตามการตรวจวัดค่าความเค็มของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยที่สถานีวัดน้ำท่า ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร เช้านี้ ตรวจสอบค่าน้ำทะเลหนุนสูงเวลา 10.20 น. พบว่าค่าน้ำอยู่ที่ -418 เฉลี่ยอยู่ที่ 90 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สาเหตุที่ค่าติดลบเนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูง ส่วนค่าความเค็มของน้ำอยู่ที่ 0.16 กรัมต่อลิตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติ
อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ค่าความเค็มของแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นอยู่กับระดับน้ำทะเล หากวันใดที่น้ำทะเลหนุนสูง ค่าความเค็มของน้ำดิบจะเพิ่มขึ้น โดยน้ำทะเลจะหนุนสูงอีกครั้งในวันที่ 7-13 มกราคม ทำให้กรมชลประทานต้องผันน้ำจากแม่น้ำท่าจีนเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านคลองพระยาบันลือ ระยะทาง 42 กิโลเมตร มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 84 ชุด รวม 14 จุด เร่งระบายน้ำมาผลักดันน้ำเค็มให้เร็วที่สุด เพื่อใช้ในการผลิตน้ำประปาและภาคการเกษตร
ส่วนการแก้ปัญหาน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปาในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อธิบดีกรมชลประทานจะลงพื้นที่โรงน้ำดิบ การประปานครหลวง บ่ายวันนี้ เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่ใช้น้ำดิบจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่การผลิตน้ำประปา เพื่อใช้ในกรุงเทพฯ ปทุมธานี และสมุทรปราการ จากการวัดค่าความเค็มวานนี้ อยู่ที่ 1 กรัมต่อลิตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์สูงเกินมาตรฐาน และทำให้เกิดน้ำกร่อย จะต้องมีการตรวจสอบและแก้ปัญหาต่อไป.-สำนักข่าวไทย