นนทบุรี 6 ม.ค.-สามีเก่าหึงโหด จ้วงแทงสามีใหม่วัย 32 ปี ของอดีตแฟนสาวเสียชีวิตริมทางเท้าหน้าหมู่บ้านย่าน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สารภาพเป็นคนลงมือจริง เนื่องจากโกรธแค้นที่แอบมามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแฟนของตน
เมื่อเวลา 21.30 น. วันนี้ (6 ม.ค.) ร.ต.อ.อภิศักดิ์ นิยมสุข รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งเหตุใช้อาวุธมีดแทงกันเสียชีวิตบริเวณริมทางเท้าภายในหมู่บ้านกฤษดานคร ซ.22 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตนอนหงายจมกองเลือดอยู่ข้างรถยนต์ซูซูกิ สวิฟท์ สีขาว ซึ่งเป็นของผู้ตาย ทราบชื่อต่อมาคือ นายเอกชัย ศรีประสิทธิ์ อายุ 32 ปี อาชีพช่างกระจก สภาพศพถูกแทงด้วยอาวุธมีดบริเวณข้อมือขวา 1 แผล แขนขวา 1 แผล ใต้รักแร้ขวา 1 แผล และต้นขาขวา 2 แผล รวมทั้งหมดจำนวน 5 แผล
จากการสอบสวนทราบว่ามือมีดคือ นายทรงสิทธิ์ กลิ่นบานชื่น ซึ่งเป็นสามีเก่าของ น.ส.นับดาว กัญญโส อายุ 26 ปี และเคยเป็นเพื่อนร่วมงานกับผู้ตาย ก่อนเกิดเหตุนายทรงสิทธิ์ได้มาหาลูกสาวที่บ้านของอดีตแฟน ขณะที่อดีตแฟนได้ออกไปข้างนอกบ้าน โดยมีนายเอกชัย แฟนใหม่ มารับไปซื้อของ หลังจากนั้นได้ขับรถมาส่ง แต่ทาง น.ส.นับดาว ได้บอกให้นายเอกชัยจอดรถส่งที่บริเวณปากซอย เนื่องจากไม่อยากให้รู้ว่าอดีตแฟนเก่ามาหาที่บ้าน เผอิญแฟนเก่าได้ขี่รถจักรยานยนต์เพื่อจะไปซื้อของกิน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบอดีตแฟนยืนอยู่ และจำได้ว่าเป็นรถของนายเอกชัย จึงจอดรถโต้เถียงกัน ทาง น.ส.นับดาว เห็นท่าไม่ดีได้เข้าไปบอกผู้ตายให้กลับบ้าน แต่ผู้ตายไม่ยอมกลับ เดินลงมาจากรถตรงเข้าชกหน้านายทรงสิทธิ์ ก่อนที่จะถูกนายทรงสิทธิ์ใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวมาจ้วงแทง จากนั้นได้นำมีดไปโยนทิ้งในป่าภายในซอยที่เกิดเหตุ และกลับไปรอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บ้านของอดีตแฟน
นายทรงสิทธิ์รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือแทงนายเอกชัยเสียชีวิต เนื่องจากโกรธแค้นที่นายเอกชัยแอบมามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแฟนของตน ทั้งที่เป็นเพื่อนและทำงานที่เดียวกัน จนตัวเองต้องยอมลาออกจากงาน พร้อมทั้งเลิกรากับแฟน ตนทราบว่านายเอกชัยจะพกอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลา และชอบท้าตนว่าถ้าแน่จริงให้มาเจอกัน ตนจึงได้หามีดมาพกไว้เพื่อป้องกันตัว จนวันนี้มาเจอกัน นายเอกชัยก็เข้ามาทำร้ายตนก่อน ด้วยความแค้น ตนจึงใช้อาวุธมีดที่พกมาจ้วงแทงไปหลายครั้ง และกลับไปรอมอบตัวกับตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนจะนำตัวผู้ก่อเหตุส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย