สื่อสภาตั้งฉายาสภาเป็นดงงูเห่า และให้ชวนเป็นใบมีดโกนขึ้นสนิม

รัฐสภา 28 ธ.ค.-สื่อสภาฯ
ตั้งฉายาสภาผู้แทนฯ
ดงงูเห่า” –
ชวน” ฉายา ใบมีดโกนขึ้นสนิม” – “ปิยบุตรคว้าดาวเด่นสภา ปารีณาดาวดับ – สภาทหารเกณฑ์ ฉายา ส.ว. – “พรเพชรค้อนยาง” – ยกวันสภาล่มซ้ำซ้อน
เป็นเหตุการณ์แห่งปี


 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อมวลชนประจำรัฐสภา
ตั้งฉายาประจำรัฐสภา เพื่อสะท้อนการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ประจำปี 2562


โดยตั้งฉายาสภาผู้แทนราษฎรในปีนี้ว่า
“ดงงูเห่า”

เพราะการหายไปของสภาผู้แทนราษฎรกว่า
5 ปี ทำให้สภาฯ เป็นที่คาดหวัง จะเป็นที่พึ่งให้กับประชาชน
แต่จะด้วยผลกระทบจากรัฐธรรมนูญ ทำให้รัฐบาลขาดเสถียรภาพ หรือเป็นนิสัยส่วนบุคคล
ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “งูเห่า” ทั้งการประกาศตัวเป็น
“ฝ่ายค้านอิสระ” แต่เมื่อเวลาผ่านไป ฝ่ายค้านอิสระ กลับลงคะแนนสวนทางมติของพรรคร่วมฝ่ายค้านหลายครั้ง
เช่น การสวนมติ พ.ร.ก.โอนย้ายอัตรากำลังพล
และการแสดงตนร่วมเป็นองค์ประชุมให้รัฐบาลในการนับคะแนนญัตติการตั้งกรรมาธิการศึกษาผลกระทบจากคำสั่ง
คสช.ใหม่ เป็นต้น

 


ฉายาประธานสภาผู้แทนราษฎรปีนี้
สื่อมวลชน ตั้งฉายาให้กับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า
“มีดโกนขึ้นสนิม” แม้จะมีความตั้งใจจะให้ประชาชนกลับมาศรัทธาสภาฯ
แต่มีดโกนอาบน้ำผึ้ง ที่เคยบาดลึกดูกำลังขึ้นสนิม
หลังไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสภาได้
ทั้งการวินิจฉัยเรื่องการนับคะแนนใหม่ในญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษามาตรา
44 จนนำมาสู่เหตุการณ์สภาล่ม ไปจนถึงการพยายามลอยตัวกับปัญหา
โดยเฉพาะความขัดแย้งในคณะกรรมาธิการสามัญฯ ทั้งที่เป็นผู้นำสูงสุดของสภา
แต่ถึงจะมีสนิม ที่อาจฟันอะไรไม่ขาดทีเดียว แต่หากใครได้โดนแล้ว ยังต้องรู้สึกเจ็บ
และต้องรีบฉีดยากันบาดทะยัก เพราะวาจาของนายหัวเมืองตรัง ยังเจ็บจี๊ดไม่เปลี่ยนแปลง

 

ฉายานายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์
ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร 
ได้รับฉายาว่า “ขนมจีนไร้น้ำยา” โดย นายสมพงษ์
ก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านฯ
ในภาวะที่ฝ่ายค้านไม่ได้เป็นลูกไล่รัฐบาลเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะมีเสียงในสภาที่สูสีกัน
และฝ่ายค้าน
เคยชนะโหวตรัฐบาลมาแล้วในการพิจารณาญัตติตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาผลกระทบจากประกาศ
และคำสั่งของ คสช.ตามมาตรา 44 แต่ผู้นำฝ่ายค้านฯ ยังไม่อาจแสดงบทบาท
และศักยภาพในการตรวจสอบรัฐบาลให้เป็นที่ประจักษ์ เมื่อเทียบกับผู้นำฝ่ายค้านฯ
ในอดีต อีกทั้งยังไม่ปรากฎบทบาทการเป็นผู้นำเพื่อให้การทำงานของสภาฯ
เกิดความสมานฉันท์ และเป็นที่จดจำ จึงไม่ต่างอะไรกับขนมจีน ที่ดูน่ารับประทาน
แต่เมื่อไร้น้ำยารสเลิศ ก็ทำให้ขนมจีนจานนั้น ไม่ได้อยู่ในสายตา

 

สำหรับดาวเด่นปีนี้ ได้แก่
นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เหตุผลหลักที่ทำให้นายปิยบุตร
ได้รับตำแหน่งดังกล่าว คือ
การเปิดประเด็นเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนายกรัฐมนตรี
ที่ไม่ครบถ้อยคำตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด จนนำมาสู่การเปิดประชุม
เพื่ออภิปรายทั่วไปของสภาผู้แทนราษฎร และตลอดการทำหน้าที่อภิปรายในสภา
ก็ไม่ได้ใช้แต่เพียงวาทะศิลป์เท่านั้น เพราะล้วนมีเหตุผลทางวิชาการ
และกฎหมายรองรับ

 

ส่วนดาวดับแห่งปี หนีไม่พ้น นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ส.ส.ราชบุรี
พรรคพลังประชารัฐ ที่ได้สร้างกระแสในแง่ลบผ่านทางสื่อออนไลน์เป็นระยะ
แม้จะแสดงบทบาทตรวจสอบการถือครองที่ดินของมารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
แต่กลับเป็นคนที่ไม่ยอมรับการตรวจสอบการถือครองที่ดินในจังหวัดราชบุรีของตนเอง
ทั้งที่มีตำแหน่งกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ
ซึ่งทุกครั้งที่ถูกผู้สื่อข่าวสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว กลับพยายามบ่ายเบี่ยง
ถึงขนาดที่กล่าวอ้างว่า ได้ทำ
MOU กับนักข่าว
เพื่อยุติการสัมภาษณ์โดยไม่มีหลักฐาน สื่อมวลชนจึงหวังว่า นางสาวปารีณา
จะมีการปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในอนาคตหลังได้รับตำแหน่งนี้

 

สำหรับคู่กัดแห่งปี 2562
ได้แก่
ปารีณา และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์แม้ว่าจะต่างวัยกันแต่ก็เป็นมวยถูกคู่ นางสาวปารีณา ถูกพรรคพลังประชารัฐ
ส่งมาเป็นกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ
เพื่อปกป้องพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ภายหลังพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธิ์ พยายามเรียกนายกรัฐมนตรี มาชี้แจงปมการถวายสัตย์ฯ
ต่อคณะกรรมาธิการฯ 
แต่ปารีณาพยายามขัดขวางทุกวิถีทาง
ถึงขั้นมีการล็อบบี้สมาชิกในพรรคพลังประชารัฐ
ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบกันเองภายในคณะกรรมาธิการ จนงานอื่น ๆ
ของคณะกรรมาธิการไม่เดินหน้า ดังนั้น การปะทะของนางสาวปารีณา และพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์
จึงมีแต่เพียงวิวาทะที่หาแก่นสารไม่ได้

 

สำหรับเหตุการณ์แห่งปี 2562
นี้ คือเหตุการณ์ “สภาล่ม
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึง
2 ครั้ง 2
วันติดต่อกันระหว่างการพิจารณาญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบจากประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ตามมาตรา 44 ปฐมเหตุเริ่มมาจากการที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลแพ้โหวตให้กับฝ่ายค้าน
แต่ปรากฎว่า ส.ส.รัฐบาลใช้สิทธิขอนับคะแนนใหม่ จนนำมาสู่การลงคะแนนใหม่
โดยก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนดังกล่าวจะต้องมีการนับองค์ประชุมก่อน
ทว่าในคืนประชุมแรกเหลือ ส.ส.ร่วมเป็นองค์ประชุมเพียง 92 คนเท่านั้น
และหลังมีการนัดประชุมครั้งใหม่ แต่ก็ยังมีส.ส.เพียง 240 คนไม่ครบองค์ประชุม
นับเป็นปรากฎการณ์ที่สร้างภาพลักษณ์ที่เสื่อมเสียให้กับสภาฯ
สะท้อนสภาวะการณ์ปัญหาเสียงปริ่มน้ำระหว่างฝ่ายค้่น และฝ่ายรัฐบาลอย่างชัดเจน

 

สำหรับวาทะแห่งปี 2562 คือ
“ตัดพี่ตัดน้อง” เกิดขึ้นในวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐบาล
ระหว่างที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ในฐานะหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยอภิปรายโจมตีรัฐบาลดุเดือด กล่าวหาว่า
โกงเลือกตั้งจนได้กลับสู่ตำแหน่งโดยไม่สุจริต จนเกิดวาทะดังกล่าว ที่พลเอกประยุทธ์
พูดกลางที่ประชุมรัฐสภา เพื่อตอบโต้พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธิ์ ว่า
เรารู้จักกันมานาน ท่านเป็นรุ่นพี่ผม แต่งงานวันเดียวกัน
แต่วันนี้ไม่ถือว่าเป็นรุ่นพี่อีกแล้ว เพราะท่านไม่เกียรติผม
เคยพูดว่าจะชักปืนยิงผม ถ้ายิงจริง ท่านก็ติดคุกไปแล้ว ท่านพูดจาหยาบคาย
เหรียญรามาผมก็ได้ แต่ไม่เคยอวดอ้างอำนาจ และให้ไปทบทวนตัวเอง
จากการตัดพี่ตัดน้องในวันนั้น

 

ขณะที่ วุฒิสภา หรือ 250 ส.ว.
ได้รับฉายา “สภาทหารเกณฑ์” ตามกลไกที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
กำหนดให้มีวุฒิสภาแบบพิเศษใน 5 ปีแรกด้วยการคัดเลือกโดย คสช. และ
ส.ว.ชุดปัจจุบันจำนวนไม่น้อยมาจากบุคคลที่เคยเป็นสมาชิกสนช.ที่คสช.เคยแต่งตั้งอีกด้วย
ทำให้ ส.ว.เปรียบเสมือนเป็นทหารที่ถูก คสช.เกณฑ์เข้ามา
ที่ไม่เพียงมีหน้าที่ในระยะเปลี่ยนผ่าน 5 ปีแรกเท่านั้น แต่ยังมีภารกิจ
ในการเทคะแนนเลือกพลเอกประยุทธ์ ให้หวนกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
และในอนาคตกำลังจะมีหน้าที่ปกป้องรัฐธรรมนูญ ที่ฝ่ายค้าน
และพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคกำลังจองกฐินเตรียมแก้ไขไว้ด้วย

 

สำหรับฉายานายพรเพชร
วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ปีนี้ได้ฉายา “ค้อนยาง” จากเหตุที่ก่อนหน้านี้
เคยดำรงตำแหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ
สนช.ซึ่งเป็นประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติสมัย คสช. มาก่อน
แต่เมื่อมาทำหน้าที่เป็นประธานวุฒิสภา บทบาทและอำนาจหน้าที่ที่เคยมีนั้นหายไป
ทำให้สมาชิกรัฐสภา โดยเฉพาะ ส.ส.ฝ่ายค้านไม่ยำเกรงในบารมีของประธานวุฒิสภา
เห็นได้จากการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่ออภิปรายการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา
ของคณะรัฐมนตรีเมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา
เพราะทุกครั้งที่นายพรเพชรขึ้นทำหน้าที่ประธานการประชุม ในฐานะรองประธานรัฐสภา
จะถูกส.ส.ลองของ จนควบคุมการประชุมไม่ได้ โดยเฉพาะการปะทะคารมกันระหว่าง
พลเอกประยุทธ์และ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธิ์จนนำมาซึ่งความวุ่นวายกลางที่ประชุม
แม้ประธานวุฒิสภา จะประเดิมการใช้ค้อนทุบบนบัลลังค์ เพื่อให้เกิดความสงบ
แต่กลับสะท้อนผลตรงข้าม จึงสะท้อนให้เห็นว่า ค้อนที่นายพรเพชรถือไว้นั้นเป็นแค่
ค้อนยางเท่านั้น 

 

สำหรับตำแหน่ง คนดีศรีสภาฯ ปี 2562
นี้ สื่อมวลชนประจำรัฐสภา พิจารณา และลงมติร่วมกันแล้วว่า ยังไม่มีใครเหมาะสมที่จะได้ตำแหน่งดังกล่าว
โดยการตั้งฉายาสภาประจำปี ของสื่อมวลชนประจำรัฐสภา ได้ว่างเว้นวรรคไป 5 ปี
ซึ่งในปี 2562 ที่มีการเลือกตั้ง สื่อมวลชนประจำรัฐสภา ได้มีความเห็นร่วมกัน
ที่จะตั้งฉายาสภา เพื่อสะท้อนการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติในรอบปีที่ผ่านมา
โดยปราศจากอคติ และไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียทางการเมืองแต่อย่างใด. สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

วันเกิดอนุทิน

แกนนำรัฐบาลร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.- แกนนำรัฐบาล ร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น สส.อวยพร หลังเลือกตั้งขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 4 ปี พรรคภูมิใจไทยจัดงานวันเกิดครบรอบ 59 ปี ให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โดยมีพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ บุตรชายนายสันติ, พิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงบุคคลในครอบครัว เช่น ธนนนท์ นิรามิษ ภริยา, เศรณี และนัยน์ภัค ชาญวีรกูล บุตรชายและบุตรสาวของนายอนุทิน, ไตรศุลี ไตรสรณกุล อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์และเป่าเค้ก […]

Nepal President and Interim Prime Minister

เนปาลยุบสภา หลังได้นายกฯ เฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรก

กาฐมาณฑุ 13 ก.ย.- ทำเนียบประธานาธิบดีเนปาลออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวันศุกร์ว่า ประธานาธิบดีได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร และกำหนดให้จัดการเลือกตั้งในวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2569 หลังจากที่ได้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ ประธานาธิบดีรามจันทระ เปาเฑลของเนปาลสั่งยุบสภาและให้จัดการเลือกตั้งใหม่ดังกล่าว โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงเพิ่งแต่งตั้งนางสุชีลา การ์กี วัย 73 ปี อดีตประธานศาลฎีกา เป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ หลังจากที่ได้เจรจาหารือกันอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 2 วัน กับผู้บัญชาการทหารบกและแกนนำผู้ประท้วงกลุ่มเจเนอเรชันซีหรือเจนซี (Gen Z) เพื่อเดินหน้าประเทศที่เกิดการลุกฮือครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 51 คน ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,300 คน มีการเผาอาคารรัฐสภา ที่ทำการรัฐบาล และบ้านพักนักการเมือง ทำให้นายกรัฐมนตรีเค.พี. ชาร์มา โอลี ต้องลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 กันยายน ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียที่มีพรมแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับเนปาล โพสต์เอ็กซ์ (X) แสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อนางการ์กีที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลเฉพาะกาลเนปาล และว่าอินเดียมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่อสันติภาพ ความก้าวหน้า และความรุ่งเรืองของพี่น้องชาวเนปาล การประท้วงในเนปาลปะทุขึ้นในกรุงกาฐมาณฑุแล้วลุกลามไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็วเมื่อวันที่ 8 กันยายน ชนวนเหตุเกิดจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งไปโหมกระพือกระแสความไม่พอใจเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศที่ตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยในปี 2551 […]

“อนุทิน” เข้าพรรคฯ นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.-“อนุทิน” เข้าพรรคภูมิใจไทย วันเกิด นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย ก่อนแถลงต่อสภาฯ ขณะที่ภาคเอกชน-นักการเมือง-ข้าราชการ ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิด ครบ 59 ปี บรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทย เวลา 14.15 น. นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ส่งแจกันดอกไม้สีฟ้า-ขาว มาร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด ครบ 59 ปี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ขณะที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายยังมีบรรดานักการเมือง ข้าราชการ และภาคเอกชน ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิดและแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก อาทิ นายวราวุธ ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในสมัยรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พลเอกเทพพงษ์ ทิพยจันทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม นายกร ทัพพะรังสี อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย นอกจากนี้ยังมีแจกันดอกไม้ที่ส่งมาอวยพรนายอนุทิน ทั้งส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฯ […]

ธปท.เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือ 15 ก.ย.นี้

กทม. 13 ก.ย.-ธปท. เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือจันทร์นี้ หลัง กกร.ตั้งข้อสังเกตส่งออกทองคำไปกัมพูชาพุ่งสูงผิดปกติ กรณีนายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนสามสถาบัน (กกร.) ได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าแรงผิดปกติ สวนทางเศรษฐกิจปัจจุบัน จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบความผิดปกติของการส่งออกทองคำไปกัมพูชา มีตัวเลขสูงผิดปกติ ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่านั้น ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เรียกด่วนผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย เพื่อหารือถึงประเด็นดังกล่าวในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ด้านวงในให้จับตา “ทองคำ” ช่องโหว่เศรษฐกิจ เหตุเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล จนกระทรวงการคลัง-แบงก์ชาติ ต้องถกหาวิธีดูแลธุรกรรมทองคำเพื่อปิดช่องฟอกเงิน เผย 7 เดือนไทยส่งออกทองไปกัมพูชาแล้วกว่า 71,800 ล้านบาท ทั้งนี้ การส่งออกทองคำของไทยที่อยู่ในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับ ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 ตามตัวเลขของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) พบว่าไทยมีการส่งออกไปยังกัมพูชาอยู่ในอันดับ 3 รองจากการส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์ และอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งค้าทองคำที่สำคัญของโลก โดยตัวเลขการส่งออกไปยังกัมพูชา 7 เดือนแรกของปี 2568 […]