นนทบุรี 28 ธ.ค. – กรมการค้าต่างประเทศจัดทีมตรวจเข้มและกำกับดูแลการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด หวังดันราคาหัวมันสดรับฤดูกาลใหม่ และเทศกาลตรุษจีน
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดทีมเจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานสินค้าลงพื้นที่อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าและกำกับดูแลการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พบว่า ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยยังเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดจีนต้องการนำผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไปผลิตแอลกอฮอล์รองรับฤดูหนาวของจีนที่กำลังจะมาถึง รวมถึงเทศกาลตรุษจีนปลายเดือนมกราคม 2563
อย่างไรก็ตาม การกำกับดูแลการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง กรมฯ ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด ซึ่งจะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมการตลาดสินค้ามันสำปะหลังให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ ตลอดจนเป็นการผลักดันให้ผู้ประกอบการตลอดห่วงโซ่อุปทานผลิตสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ซึ่งจะเป็นการยกระดับราคาสินค้ามาตรฐาน และในที่สุดจะส่งผลให้ราคาหัวมันสำปะหลังสดที่เกษตรกรขายได้ปรับตัวสูงขึ้น สอดรับกับนโยบายประกันรายได้ของรัฐบาล กรมฯ จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ผลิตสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด เพื่อช่วยยกระดับราคาหัวมันสำปะหลังสดให้สูงขึ้น
สำหรับขณะนี้เป็นช่วงที่ฤดูกาลหัวมันสำปะหลังเริ่มออกสู่ตลาดจำนวนมาก โดยหัวมันสดส่วนหนึ่งจะเข้าสู่อุตสาหกรรมเพื่อผลิตเป็นแป้งมันสำปะหลัง และอีกส่วนหนึ่งจะเข้าสู่อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ได้แก่ มันเส้น มันชิ้น และมันอัดเม็ด ซึ่งจะส่งออกไปประเทศจีนเพื่อผลิตแอลกอฮอล์เป็นหลัก โดยสินค้าแป้งมันสำปะหลังดิบและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังถูกกำหนดให้เป็นสินค้ามาตรฐาน ซึ่งการส่งออกทุกล็อตจะต้องได้รับใบรับรองมาตรฐานสินค้า เพื่อใช้ประกอบพิธีการศุลกากรและเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานสินค้ามันสำปะหลังจากประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก จึงได้นำทีมออกตรวจสินค้ามันสำปะหลัง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด กำชับผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบมาตรฐานสินค้าให้เคร่งครัดปฏิบัติงานให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และมีความเป็นกลางในการตรวจสอบมาตรฐานสินค้า
อย่างไรก็ตาม ปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในภาพรวมทุกประเภทสินค้าปี 2562 ตั้งแต่ (ม.ค.-ต.ค.) เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 5.83 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 17 คิดเป็นมูลค่า 2,260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวลดลงร้อยละ 13 เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย