ตั้งกรรมการสอบ หนุ่มฝรั่งเศส อ้างถูก ตร.ทองหล่อรีดเงินแลกปล่อยตัว

กรุงเทพฯ 23 ธ.ค.-ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนุ่มชาวฝรั่งเศสร้องอ้างถูก ตำรวจ สน.ทองหล่อ รีดเงินหลังตรวจค้นและตรวจเลือดพบเพียงสารอนุมูลกัญชาเล็กน้อยที่ใช้รักษาอาการป่วย โดยให้รู้ผลภายใน 7 วัน ย้ำถ้าผิดจริงฟันไม่เลี้ยง


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผย จากกรณีที่สื่อนำเสนอข่าว นักท่องเที่ยวหนุ่มชาวฝรั่งเศส ถูกตำรวจ สน.ทองหล่อ รีดเงินกว่า 8 พันดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2.5 แสนบาท หลังถูกตรวจค้นยาเสพติด ขณะเดินอยู่ในซอยสุขุมวิท 43 แต่ไม่พบ เอาตัวไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลพบเพียงสารอนุมูลกัญชาเล็กน้อย ไม่ได้เกิดจากการเสพ แต่มาจากน้ำมันกัญชาที่ใช้รักษาอาการป่วย หลังเกิดเหตุเข้าร้องเรียนสถาน ทูตฝรั่งเศสนั้น


ได้รับรายงานจาก บก.น.5 ว่า เมื่อวันที่ 28 ต.ต.62 เวลาประมาณ 20.00 น. สน.ทองหล่อ ได้รับการร้องเรียนจากคอนโดริสมอนต์ พลาเลส ซ.สุขุมวิท 43 ว่าที่ห้องเลขที่ 26/80  มักมีชางต่างชาติมั่วสุมยาเสพติดและสันนิษฐานว่าอาจมีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด จึงได้ทำการตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบพบ  ผู้ต้องสงสัย ชาวฝรั่งเศส จึงเรียกทำการตรวจสอบ โดยจากการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอย่างใด จากนั้นได้สอบถามถึงหนังสือเดินทาง ปรากฎว่าไม่สามารถแสดงหนังสือเดินทางตัวจริงได้ จึงได้เชิญตัวมายัง สน.ทองหล่อ เพื่อขอทดสอบปัสสาวะหาสารเสพติด  ซึ่งจากการทดสอบปัสสาวะในเบื้องต้น พบสารเสพติดประเภทกัญชา ในปัสสาวะของ ผู้ต้องสงสัย ชาวฝรั่งเศส 

ผู้ต้องสงสัยชาวฝรั่งเศส ให้การว่าตนเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจากสวัสดีคลินิก ซึ่งเป็นคลินิกเฉพาะทางที่ได้รักษาผู้ป่วยโดยใช้น้ำมันกัญชาในการรักษา และ ได้ติดต่อให้มารดาของตน นำเอาตัวอย่างน้ำมันกัญชา และเอกสารเป็นใบเสร็จซึ่งแสดงว่าได้ซื้อน้ำมันกัญชามาอย่างถูกต้องจากคลินิก มาเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง พร้อมทั้งมารดาของผู้ต้องสงสัยชาวฝรั่งเศส ได้นำหนังสือเดินทางมาแสดงต่อ จนท.ตร.ด้วย ในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พา ผู้ต้องสงสัย ชาวฝรั่งเศส ไปยัง รพ.เทพธารินทร์  เพื่อตรวจยืนยันผลว่ามีสารเสพติดในปัสสาวะ หรือไม่ และจะมีจำนวนสารสอดคล้องกับการใช้น้ำมันกัญชา หรือได้มีการรับเข้าร่างกายโดยทางอื่นๆ ซึ่งผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งผลตรวจของ รพ.เทพธารินทร์ ยืนยันว่ามีสารเสพติดประเภทกัญชาในปัสสาวะ และไม่สามารถยืนยันถึงวิธีการรับเข้าสู่ร่างกายได้

จากการที่ผู้ต้องสงสัยชาวฝรั่งเศส มีเอกสารของคลินิกสวัสดี ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้น เป็นคลินิกมีชื่อเสียงในการรักษาเฉพาะทาง จึงสันนิษฐานว่าจะเป็นคลินิกที่อาจได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องและจากผลตรวจสารเสพติดของ รพ.เทพธารินทร์ ที่ไม่สามารถยืนยันได้ถึงวิธีการรับสารเสพติดเข้าสู่ร่างกายได้ จึงสันนิษฐานว่าสารเสพติดประเภทกัญชาที่ตรวจพบ ของผู้ต้องสงสัยชาวฝรั่งเศส รับเข้าสู่ร่างกายโดยการใช้น้ำมันกัญชาที่ได้รับอนุญาตให้ใช้อย่างถูกต้อง จึงทำการปล่อยตัว


ต่อมาได้มีนายปรัชญ์ จิตต์รุ่งเรืองชัย ได้ร้องเรียนว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ รับเงินจำนวน 250,000 บาท แลกกับการปล่อยตัว โดยผู้ต้องสงสัยชาวฝรั่งเศส เล่าให้ฟังขณะถูกควบคุมตัวเพื่อรอผลตรวจปัสสาวะที่ สน.ทองหล่อ นั้น มีเพื่อนคนไทยอ้างตัวว่าสามารถพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ปล่อยตัวได้ โดยต้องจ่ายเงินเป็นจำนวน 8,200 ดอลลาร์ ผู้ต้องสงสัยชาวฝรั่งเศส จึงทำการโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปยังบัญชีธนาคารของภรรยาของเพื่อนคนไทยคนดังกล่าว จากนั้นจึงได้รับการปล่อยตัว

ภายหลัง ได้รับเรื่องร้องเรียนในเรื่องที่เกิดขึ้น พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผบก.น.5 ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและมีผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รีบรายงานผล ภายใน 7 วัน

รองโฆษก ตร.กล่าวต่อว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ ภายใต้กรอบกฎหมาย ซึ่งหน่วยงานต้นสังกัด คงต้องทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยหากพบ ว่ามีข้อบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็น การใช้อำนาจหน้าที่ไม่เหมาะสม ข่มขู่ รีดไถ หรือเรียกรับหรือยอมที่จะรับ ผลประโยชน์อื่นใด ก็จะมีบทลงโทษทั้งทางวินัยและอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งคงต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ผิดก็ว่าไปตามผิดไม่มีการให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว

ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการลงโทษกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในลักษณะนี้มาโดยตลอด ทั้ง ไล่ออก ปลดออก ให้ออก ทุกพื้นที่ทั่วประเทศมาโดยตลอด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี

พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง และข้อบังคับที่กำหนด อย่างเคร่งครัด ส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นที่ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือปฏิบัติงานไม่สนองนโยบายของผู้บังคับบัญชา ก็จะไม่เข้าข้างอยู่แล้ว และหากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด

ด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่ายังไม่ทราบ รายละเอียดอยู่ระหว่างตรวจสอบ จึงได้สั่งการให้พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผบก.น.5 สอบข้อเท็จจริงอยู่ ถ้าพบว่ามีการกระทำความผิดก็ให้ดำเนินการตามกฎหมาย ใครมีข้อมูลก็ยินดีแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ถ้าพบความผิดก็จะไม่ปกป้อง ขอเวลาในการตรวจสอบรายละเอียดก่อน โดยวันนี้จะเชิญตัวผู้เสียหายมาพบ เพื่อให้ทราบรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร พร้อมสั่งการให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]