ตั้งกรรมการสอบ หนุ่มฝรั่งเศส อ้างถูก ตร.ทองหล่อรีดเงินแลกปล่อยตัว

กรุงเทพฯ 23 ธ.ค.-ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนุ่มชาวฝรั่งเศสร้องอ้างถูก ตำรวจ สน.ทองหล่อ รีดเงินหลังตรวจค้นและตรวจเลือดพบเพียงสารอนุมูลกัญชาเล็กน้อยที่ใช้รักษาอาการป่วย โดยให้รู้ผลภายใน 7 วัน ย้ำถ้าผิดจริงฟันไม่เลี้ยง


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผย จากกรณีที่สื่อนำเสนอข่าว นักท่องเที่ยวหนุ่มชาวฝรั่งเศส ถูกตำรวจ สน.ทองหล่อ รีดเงินกว่า 8 พันดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2.5 แสนบาท หลังถูกตรวจค้นยาเสพติด ขณะเดินอยู่ในซอยสุขุมวิท 43 แต่ไม่พบ เอาตัวไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลพบเพียงสารอนุมูลกัญชาเล็กน้อย ไม่ได้เกิดจากการเสพ แต่มาจากน้ำมันกัญชาที่ใช้รักษาอาการป่วย หลังเกิดเหตุเข้าร้องเรียนสถาน ทูตฝรั่งเศสนั้น


ได้รับรายงานจาก บก.น.5 ว่า เมื่อวันที่ 28 ต.ต.62 เวลาประมาณ 20.00 น. สน.ทองหล่อ ได้รับการร้องเรียนจากคอนโดริสมอนต์ พลาเลส ซ.สุขุมวิท 43 ว่าที่ห้องเลขที่ 26/80  มักมีชางต่างชาติมั่วสุมยาเสพติดและสันนิษฐานว่าอาจมีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด จึงได้ทำการตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบพบ  ผู้ต้องสงสัย ชาวฝรั่งเศส จึงเรียกทำการตรวจสอบ โดยจากการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอย่างใด จากนั้นได้สอบถามถึงหนังสือเดินทาง ปรากฎว่าไม่สามารถแสดงหนังสือเดินทางตัวจริงได้ จึงได้เชิญตัวมายัง สน.ทองหล่อ เพื่อขอทดสอบปัสสาวะหาสารเสพติด  ซึ่งจากการทดสอบปัสสาวะในเบื้องต้น พบสารเสพติดประเภทกัญชา ในปัสสาวะของ ผู้ต้องสงสัย ชาวฝรั่งเศส 

ผู้ต้องสงสัยชาวฝรั่งเศส ให้การว่าตนเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจากสวัสดีคลินิก ซึ่งเป็นคลินิกเฉพาะทางที่ได้รักษาผู้ป่วยโดยใช้น้ำมันกัญชาในการรักษา และ ได้ติดต่อให้มารดาของตน นำเอาตัวอย่างน้ำมันกัญชา และเอกสารเป็นใบเสร็จซึ่งแสดงว่าได้ซื้อน้ำมันกัญชามาอย่างถูกต้องจากคลินิก มาเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง พร้อมทั้งมารดาของผู้ต้องสงสัยชาวฝรั่งเศส ได้นำหนังสือเดินทางมาแสดงต่อ จนท.ตร.ด้วย ในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พา ผู้ต้องสงสัย ชาวฝรั่งเศส ไปยัง รพ.เทพธารินทร์  เพื่อตรวจยืนยันผลว่ามีสารเสพติดในปัสสาวะ หรือไม่ และจะมีจำนวนสารสอดคล้องกับการใช้น้ำมันกัญชา หรือได้มีการรับเข้าร่างกายโดยทางอื่นๆ ซึ่งผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งผลตรวจของ รพ.เทพธารินทร์ ยืนยันว่ามีสารเสพติดประเภทกัญชาในปัสสาวะ และไม่สามารถยืนยันถึงวิธีการรับเข้าสู่ร่างกายได้

จากการที่ผู้ต้องสงสัยชาวฝรั่งเศส มีเอกสารของคลินิกสวัสดี ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้น เป็นคลินิกมีชื่อเสียงในการรักษาเฉพาะทาง จึงสันนิษฐานว่าจะเป็นคลินิกที่อาจได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องและจากผลตรวจสารเสพติดของ รพ.เทพธารินทร์ ที่ไม่สามารถยืนยันได้ถึงวิธีการรับสารเสพติดเข้าสู่ร่างกายได้ จึงสันนิษฐานว่าสารเสพติดประเภทกัญชาที่ตรวจพบ ของผู้ต้องสงสัยชาวฝรั่งเศส รับเข้าสู่ร่างกายโดยการใช้น้ำมันกัญชาที่ได้รับอนุญาตให้ใช้อย่างถูกต้อง จึงทำการปล่อยตัว


ต่อมาได้มีนายปรัชญ์ จิตต์รุ่งเรืองชัย ได้ร้องเรียนว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ รับเงินจำนวน 250,000 บาท แลกกับการปล่อยตัว โดยผู้ต้องสงสัยชาวฝรั่งเศส เล่าให้ฟังขณะถูกควบคุมตัวเพื่อรอผลตรวจปัสสาวะที่ สน.ทองหล่อ นั้น มีเพื่อนคนไทยอ้างตัวว่าสามารถพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ปล่อยตัวได้ โดยต้องจ่ายเงินเป็นจำนวน 8,200 ดอลลาร์ ผู้ต้องสงสัยชาวฝรั่งเศส จึงทำการโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปยังบัญชีธนาคารของภรรยาของเพื่อนคนไทยคนดังกล่าว จากนั้นจึงได้รับการปล่อยตัว

ภายหลัง ได้รับเรื่องร้องเรียนในเรื่องที่เกิดขึ้น พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผบก.น.5 ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและมีผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง รีบรายงานผล ภายใน 7 วัน

รองโฆษก ตร.กล่าวต่อว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ ภายใต้กรอบกฎหมาย ซึ่งหน่วยงานต้นสังกัด คงต้องทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยหากพบ ว่ามีข้อบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็น การใช้อำนาจหน้าที่ไม่เหมาะสม ข่มขู่ รีดไถ หรือเรียกรับหรือยอมที่จะรับ ผลประโยชน์อื่นใด ก็จะมีบทลงโทษทั้งทางวินัยและอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งคงต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ผิดก็ว่าไปตามผิดไม่มีการให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว

ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการลงโทษกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในลักษณะนี้มาโดยตลอด ทั้ง ไล่ออก ปลดออก ให้ออก ทุกพื้นที่ทั่วประเทศมาโดยตลอด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี

พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง และข้อบังคับที่กำหนด อย่างเคร่งครัด ส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นที่ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือปฏิบัติงานไม่สนองนโยบายของผู้บังคับบัญชา ก็จะไม่เข้าข้างอยู่แล้ว และหากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด

ด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่ายังไม่ทราบ รายละเอียดอยู่ระหว่างตรวจสอบ จึงได้สั่งการให้พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผบก.น.5 สอบข้อเท็จจริงอยู่ ถ้าพบว่ามีการกระทำความผิดก็ให้ดำเนินการตามกฎหมาย ใครมีข้อมูลก็ยินดีแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ถ้าพบความผิดก็จะไม่ปกป้อง ขอเวลาในการตรวจสอบรายละเอียดก่อน โดยวันนี้จะเชิญตัวผู้เสียหายมาพบ เพื่อให้ทราบรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร พร้อมสั่งการให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]