นครนายก 17 ธ.ค.- ตำรวจยังไม่แจ้งข้อหา หญิง 2 คน อยู่กับศพ เชื่อลัทธิสวดมนต์รักษาอาการป่วยและสามารถฟื้นคืนชีพคนตาย ขณะที่ทั้งคู่เข้าให้ปากคำตำรวจ ลั่นไม่ได้กลิ่นศพ เพราะมีความคิดสะอาด
นางนวลลออ บัวบานศรี หรือ “หมออ้อย” และนางพุธนันท์ สดมณี ผู้หญิง 2 คนที่อ้างตัวเป็นหมอดูแลผู้ป่วย โดยใช้พลังพระเจ้าและอ้างความเชื่อตามหลักศาสนาคริสต์แบบดั้งเดิม ได้เรียกรถจักรยานยนต์รับจ้าง เดินทางมารับที่บ้านพักอีกหลังหนึ่ง ที่อยู่ถัดไปจากบ้านที่พบศพเพียงไม่กี่หลัง โดยทั้ง 2 คน ปฏิเสธให้ข้อมูล และขี่รถจักรยานยนต์ไปให้การกับพนักงานสอบสวน
หลังจากนั้นเมื่อถึงห้องสอบสวน สภ.เมืองนครนายก ทั้ง 2 คนได้ให้ข้อมูลบางส่วนกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ขอให้พวกคุณไปศึกษาศาสนากันเอง ทั้งนี้อยู่ที่ความเชื่อส่วนบุคคล ในเรื่องของกลิ่นศพนั้น ตนเองไม่ได้กลิ่น เนื่องจากมีความคิดที่สะอาดและมีความเชื่อในพระเจ้า และคนที่คิดไม่สะอาดถึงจะได้กลิ่น ส่วนในเรื่องของการฟื้นคืนชีพอยู่ที่พระเจ้าเท่านั้น และตนอยู่ได้ด้วยความเชื่อ
จากนั้นพนักงานสอบสวน ได้เชิญ “หมออ้อย” และนางพุธนันท์ เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนทีละคน ก่อนที่ พ.ต.อ.กล้าหาญ โชคพิพัฒน์ไพบูลย์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครนายก ออกมาให้ข้อมูลว่าได้สอบปากคำ “หมออ้อย” และ นางพุธนันท์ พร้อมเพื่อนบ้านที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน เบื้องต้นได้ข้อมูลจำนวนหนึ่ง และที่สำคัญต้องการสอบปากคำผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษา รวมทั้งเพื่อนบ้าน เพื่อนำมาประกอบ และพิจารณาดูว่ามีความผิดเรื่อง พ.ร.บ.การประกอบสถานพยาบาล รวมทั้งพ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย นอกจากนี้ได้เชิญสาธารณสุขจังหวัดฯ มาพูดคุยเกี่ยวกับพฤติการณ์ในการตรวจรักษาในลักษณะนี้ ว่าจะเข้าข่ายความผิดตามหรือไม่อย่างไร พร้อมทั้งมีการนัดหมายพยานเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติก่อน ว่าจะเข้าข่ายความผิดหรือไม่
จากการสอบปากคำเบื้องต้น “หมออ้อย” และนางพุธนันท์ บอกว่านายสรวุฒิ วัย 62 ปีที่พบเป็นศพภายในบ้าน เสียชีวิตจากการลื่นล้มในห้องน้ำ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2562 แต่ไม่ได้พาไปส่งโรงพยาบาล เนื่องจากมีความเชื่อว่าพระเจ้าจะทำการรักษา ซึ่งหลังจากที่นายสรวุฒิล้มในห้องน้ำ ได้มีอาการซึมลงไป ไม่พูดจา จากนั้นผ่านไปประมาณ 3-4 วันได้เสียชีวิต (คาดเสียชีวิตวันที่ 7 ธ.ค.) นอกจากนี้ทั้ง 2 คน ได้บอกอีกว่าหากตำรวจไม่เข้าไปในบ้านและนำศพออกมา นายสรวุฒิ จะฟื้นขึ้นมาในอีก 2-3 วัน ส่วนเรื่องทะเบียนราษฎร์นั้น หากพบศพหรือมีผู้เสียชีวิตในบ้านใน 24 ชม. ต้องมีการแจ้งเหตุให้กับเจ้าพนักงานทราบ ซึ่งจะมีโทษการเปรียบเทียบปรับ แต่ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาอำพรางศพ
ขณะที่เดียวกัน 1 ใน 2 คนนี้ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ได้มีการรักษาลูกชายของนางพุธนันท์ ในลักษณะเช่นนี้อยู่ด้วยเช่นกัน โดยใช้วิธีการนวดและสวดมนต์ โดยให้เหตุผลว่ามีความเชื่อในพระเยซู โดยไม่มีการย่อยในนิกายที่แยกออกมา เบื้องต้นตำรวจได้ประสานสาธารณสุขว่าทั้ง 2 คน ไม่เคยมีประวัติการรักษาทางจิตเวช รวมไปถึงประวัติการถูกดำเนินคดีอาญา
ในเรื่องของผลการชันสูตรศพของนายสรวุฒินั้น ได้ส่งไปทำการชันสูตรที่ รพ.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งต้องผลการเสียชีวิตแจ้งกลับมา และตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับทั้ง 2 คน ซึ่งหลังจากนี้ต้องขอระยะเวลาในการสอบสวนพยาน, ญาติ และผู้ที่รับการรักษาพยาบาล ซึ่งจะมีการนัดหมายกันต่อไปหลังจากนี้
ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบบาทหลวงสุทัษน์ เภกะสุต อายุ 63 ปี บาทหลวงประจำวัดมารดาพระศาสนาจักรนครนายก พร้อมกับให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตามหลักศาสนาคริสต์ นิกายคาทอลิก ไม่มีคำสอนว่าหากตายแล้วทำการสวดมนต์และสามารถกลับคืนชีพ.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• ตะลึง! หญิง 3 คนอยู่กับศพในบ้านเป็นสัปดาห์