สระบุรี 15 ธ.ค.-กรณีพบโครงกระดูกเซลส์สาวในเก๋งจมน้ำ หลังหายตัวนาน 3 ปี ด้านแม่เซลส์สาวเชื่อว่าตำรวจจะสามารถจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้
ความคืบหน้าคดีพบโครงกระดูก น.ส.กลิ่นเกษร วงษ์สิงห์ ในซากเก๋งที่จมน้ำในพื้นที่ หมู่ 1 ต.บ้านโปร่ง อ.หนองโดนหลังหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.59 ซึ่งครอบครัวแจ้งความไว้ที่ สภ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี วันนี้ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยได้รับการเปิดเผยจากนางลั่นทม วงษ์สิงห์ มารดาของน.ส.กลิ่นเกษร วงษ์สิงห์ ผู้ตาย ว่า วันนี้ตำรวจได้เรียกพยานในคดีเข้าให้ปากคำเพิ่มอีก 2-3 คน แต่ไม่ทราบรายละเอียด เพราะตำรวจไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม บอกเพียงว่าอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งตอนแรกครอบครัวจะนิมนต์พระมาทำพิธีสวดอัญเชิญดวงวิญญาณลูกสาวกลับบ้านในวันนี้ แต่เนื่องจากขณะนี้ยังได้ชิ้นส่วนกระดูกขึ้นมาไม่ครบ และการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่ยังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องยกเลิกไปก่อน ต้องรอให้ทุกอย่างเรียบร้อยจึงจะไปนิมนต์พระมาทำพิธีสวดอัญเชิญดวงวิญญาณลูกสาวกลับบ้านเพื่อประกิบพิธีทางศาสนา ซึ่งก็ได้จุดธูปบอกดวงวิญญาณลูกสาวทุกวัน ว่าขอให้ตำรวจทำคดีให้เรียบร้อยในเร็ววัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่วนกรณีที่พบชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์ซึ่งคาดว่าจะเป็นของบุคคลอื่นนั้นตนเองไม่ขอพูดถึง เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพียงต้องการชิ้นส่วนโครงกระดูกของลูกสาวที่หายไป 3 ปีเท่านั้น อย่างไรก็ตามมารดา น.ส.กลิ่นเกษร ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพราะหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่ในขณะนี้ก็น่าจะเพียงพอที่จะเอาผิดได้ หลังพบกระดูตนเองยังไม่มีโอกาสได้คุยกับเสี่ยเจ้าของโรงงานปุ๋ย เพราะตอนที่เขาโทรมาสอบถามหลังเจออยู่ระหว่างให้ปากคำกับตำรวจ
มารดา น.ส.กลิ่นเกษร ยังเผยอีกว่า หลังพบโครงกระดูกลูกสาว ญาติของตนเองซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของผู้ตายฝันว่า ผู้ตายเข้ามากอด และบอกว่าฝากเด็ก ๆ ด้วยนะ ซึ่งเด็ก ๆ ที่ลูกสาวของตนเองพูดถึงน่าจะหมายถึง เด็ก ๆ ในหมู่บ้าน ที่ปกติช่วงปีใหม่จะจัดงานเลี้ยง และเชิญชวนเด็กในหมู่บ้านทุกนมาร่วมกินเลี้ยง คาดว่าปีใหม่นี้ลูกสาวก็คงอยากจะให้จัดงานเลี้ยงเช่นเดียวกับตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
ขณะที่เมื่อวานชุดประดาน้ำ ของมูลนิธิร่วมกตัญญู 6 คน ลงค้นหาบริเวณที่พบรถจมน้ำท้องที่ หมู่ 1 ต.บ้านโปร่ง อ.หนองโดน พบโครงกระดูกมนุษย์จมใต้โคลนในรัศมีที่รถจมน้ำไม่เกิน 2 เมตร และพบโครงกระดูกมนุษย์เพิ่ม ทำให้เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะมีโครงกระดูกมนุษย์มากกว่า 1 ราย แต่ต้องรอผลพิสูจน์โดยละเอียดอีกครั้ง ซึ่งจะมีการพิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญ .-สำนักข่าวไทย