มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ 14 ธ.ค.-“ภูมิธรรม” เข้าใจพรรคอนาคตใหม่ จัดกิจกรรมชุมนุม ขอผู้มีอำนาจฟังเสียงประชาชน ยอมรับความเห็นต่าง ยันเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่ห่วงเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว
นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านและที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่างถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ออกมาเชิญชวนให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุม ที่บริเวณแยกปทุมวัน เย็นวันนี้ (14 ธ.ค.) ว่า ตนต้องขอแสดงความเสียใจ และเข้าใจพรรคอนาคตใหม่ที่ต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกับพรรคเพื่อไทยที่เคยประสบมา และมองว่าการออกมาแสดงความรู้สึกต่อสิ่งที่เกิดขึ้น สังคมที่เป็นประชาธิปไตย ต้องยอมรับว่าการแสดงความเห็น เป็นสิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญคุ้มครอง โดยอยากให้รัฐบาลและผู้มีอำนาจมองอย่างเข้าใจ อย่ามองผู้ที่มีความต่างเป็นศัตรู หรือความวุ่นวาย เพราะเชื่อว่าทุกคนอยากเห็นประเทศมีความอบอุ่น แต่เมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ต้องแสดงออก ขณะที่รัฐบาลควรมองให้ออกว่าสิ่งไหนที่ควรทำ สิ่งไหนไม่ควรทำ เพราะทำให้มองว่าเกิดการ 2 มาตรฐาน และขอให้ใส่ใจความเดือดร้อนของประชาชนให้มากขึ้น
ส่วน ส.ส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย จะสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้หรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นการแสดงออกที่มีเหตุผล และรัฐธรรมนูญรับรอง ถูกกฎหมาย เป็นสิทธิส่วนบุคคล สิ่งไหนเป็นประโยชน์ต่อสังคม ก็ทำได้ทั้งสิ้น ซึ่งสังคมไทยต้องฝึกความเป็นประชาธิปไตย และรับฟังการเห็นต่าง ๆ ในมุมมองที่หลากหลาย
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีกังวลว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีควรเป็นห่วงเรื่องอื่นด้วย เพราะมีหลายเรื่องที่จะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้ และบอกว่ากิจกรรมในวันนี้เป็นกิจกรรมระยะสั้นและไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมให้ฝ่ายกฎหมาย ช่วยเรื่องคดีความพรรคอนาคตใหม่ ที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าเป็นการครอบงำ ว่า นายวิษณุ อาจจะเคยชินกับการเป็นรัฐบาลมากเกินไป การที่ประชาชนจะช่วยกันภายใต้กฎหมาย ก็ไม่น่ามีอะไรน่ากังวล เพราะเป็นเรื่องที่ดี จึงขอให้มีใจที่กว้างขวาง อย่างมองให้กังวลใจ เพราะหากเริ่มต้นจากคิดลบมองเป็นปัญหาไปหมด ก็จะมีแต่ปัญหาตามมา
ส่วนที่พรรคอนาคตใหม่เตรียมสำรอง หากมีการยุบพรรคนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคอนาคตใหม่ที่ต้องหารือกัน แต่ยังยืนยันว่า 7 พรรคร่วมมีจุดมุ่งหมายร่วมกันให้สังคมมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และวันนี้ก็อยากทำอะไรที่เป็นเป้าหมาย ภายใต้กรอบประชาธิปไตย.-สำนักข่าวไทย