“ปิยบุตร” ชี้ รธน.60 ทำบ้านเมืองถอยหลัง

รัฐสภา 11ธ.ค.-“ปิยบุตร” อภิปรายเปิดญัตติตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทางแก้ไข รธน. ชี้รัฐธรรมนูญปี 2560 ทำบ้านเมืองถอยหลังเหมือนท่าเต้นไมเคิล แจ็กสัน ย้ำหากไม่แก้ไขอาจเกิดความขัดแย้งในอนาคต


หลังจากเสร็จสิ้นกระทู้ถามสดด้วยวาจาและกระทู้ถามทั่วไป สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่มีนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เป็นผู้เสนอ และญัตติที่เรื่องคล้ายกันที่ ส.ส.ทั้งจากฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ร่วมเสนอรวม 6 ญัตติ

นายปิยบุตร ในฐานะผู้เสนอญัตติ แถลงเปิดญัตติ โดยย้ำว่าญัตตินี้เป็นญัตติร่วมกันของพรรคฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรค เพราะมีความเห็นร่วมกันว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 มีปัญหาต้องแก้ไขโดยเร็ว แต่เข้าใจว่าเงื่อนไขการแก้ไขเพิ่มเติมทำได้ยาก จึงควรริ่เริ่มเสนอให้มีคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ด้วยหลักการเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่แท้จริง โดยกรรมาธิการที่มีองค์ประกอบจากบุคคลที่เห็นปัญหาจากการใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่ใช่ส่งตัวแทนฝ่ายผู้ที่มีอำนาจมาขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชักใบให้เรือเสีย จนแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ เพราะจะทำให้การตั้งคณะกรรมาธิการชุดนี้เป็นเพียงการซื้อเวลาหรือขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 


นายปิยบุตร กล่าวว่ารัฐธรรมนูญต้องเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของประชาชน และเป็นสัญลักษณ์ของการสร้างความสมานฉันท์ความปรองดอง เป็นฉันทามติของคนในสังคม ประชาชนจึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ หากรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมเอาไว้ ก็จะเป็นปัญหาและอาจนำไปสู่การรัฐประหาร ดังนั้นรัฐธรรมนูญจึงจำเป็นจะต้องมีหมวดที่ว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เพื่อต้องตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม เปิดโอกาสให้รัฐธรรมนูญสามารถแก้ไขได้ ขณะเดียวกันหากปล่อยให้แก้ไขง่ายจนเกินไป เสถียรภาพความมั่นคงของรัฐธรรมนูญก็จะไม่มีเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้เห็นว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 มีปัญหาความชอบธรรมทั้งในแง่ที่มา เนื้อหา และกระบวนการ ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ที่มีการวางกรอบไว้ตั้งแต่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 เป็นผลพวงจากการรัฐประหารของ คสช. อาศัยประชาชนสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเองภายใต้กระบวนการที่ชื่อว่าประชามติ แต่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล จึงไม่สามารถบอกได้ว่าการออกเสียงประชามติมีมาตรฐาน เพราะฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ไม่สามารถใช้เสรีภาพแสดงออกได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ในมาตรา 279 ที่ฝังระบอบรัฐประหารไว้ ด้วยการรับรองการใช้อำนาจของ คสช. ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน อนาคต มีการวางกลไกการสืบทอดอำนาจไว้ชัดเจนผ่านวุฒิสภา 250 คน ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. โดยมีหน้าที่หลักเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีใน 5 ปีแรก และพยายามโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นรัฐธรรมนูญปราบโกง ปฏิรูปการเมือง แต่เมื่อบังคับใช้แล้วพบความจริงว่าทำให้การเมืองไทยถอยหลัง


หลังเลือกตั้งการเมืองถอยหลัง กลับไปปี 2521 สมัยที่เรียกว่าประชาธิปไตยครึ่งใบ เพราะเลือกตั้งจะเสร็จแล้วต้องไปเชิญนายทหารมาเป็นนายกรัฐมนตรี และให้ข้าราชการประจำเข้ามามีบทบาทในการตรากฎหมาย ดังนั้นแทนที่ประเทศจะเดินหน้า แต่กลับถอยหลัง เหมือนท่าเต้นมูนวอล์คของไมเคิล แจ็กสัน

นายปิยบุตร ยังชี้ถึงปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองจากภาวะรัฐบาลเป็นเสียงปริ่มน้ำ บริหารประเทศได้ยากลำบาก ทำให้เกิดการใช้เงินซื้อเสียงในสภาฯ ตามที่เป็นกระแสข่าว ด้วยเหตุที่คณะรัฐประหารอยากสืบทอดอำนาจ แต่รู้ดีว่าหากลงเลือกตั้งแบบปกติโดยไม่มีกลไกพิเศษคงแพ้แน่นอน จึงต้องวางกลไกต่างๆ จนเกิดความพิสดาร ทำให้เกิดพรรคการเมืองจำนวนมากในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ตนเองไม่เคยโทษหรือตำหนิพรรคการเมือง เพราะเชื่อว่าเป็นผลจากกติกาและโครงสร้างทางการเมืองที่ไม่ดี ทำให้พฤติกรรมทางการเมืองของนักการเมืองถอยหลัง ดังนั้นรัฐธรรมนูญที่ดีควรมีเนื้อหาที่แบ่งแยกอำนาจของสถาบันการเมืองต่างๆ อย่างมีดุลยภาพ ต้องมีเนื้อหาประกันสิทธิเสรีภาพ

ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวข้องกับเรื่องปากท้องอย่างไรนั้น นายปิยบุตร ชี้แจงว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันทำให้เกิดการเมืองเสียงปริ่มน้ำ จนเกิดความกังวลถึงเสถียรภาพและการขับเคลื่อนนโยบาย เพราะเป็นนโยบายรัฐบาลผสมจากหลากหลายพรรค จึงกระทบต่อการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและปากท้อง ดังนั้นหากรัฐธรรมนูญดี ก็จะส่งผลให้ได้รัฐบาลที่ดีมีเสถียรภาพ และสามารถแก้ปัญหาปากท้องได้ ส่วนที่อ้างว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 มาจากการทำประชามตินั้น ก็เป็นการทำประชามติที่ไม่เป็นสากล ไม่แฟร์ และไม่เป็นธรรม พร้อมยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ในทางกลับกันหากไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญยิ่งจะทำให้เกิดความวุ่นวาย และทำให้คนอดทนไม่ไหว ออกมาเรียกร้องมากขึ้น จึงควรเปิดโอกาสให้มีการพูดคุยเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ

นายปิยบุตร กล่าวปิดท้ายการเปิดญัตติด้วยว่า ตอนใช้รัฐธรรมนูญปี 2550 มักมีการพูดกันว่านักการเมืองพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องมาคุยกันว่า นักการเมืองไม่ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง แต่ฝ่ายที่ไม่อยากให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจเป็นฝ่ายที่ไม่อยากให้แก้เพราะประโยชน์ตัวเอง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน

กทม.พาสื่อดูซากตึก สตง. คาดอีก 2-3 วัน ภารกิจเสร็จสิ้น

กทม.พาสื่อลงพื้นที่ดูซากตึก สตง. ขณะนี้เคลียร์ถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คาดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายและรื้อซากจะเสร็จสิ้นในอีก 2-3 วัน