“ปิยบุตร” ชี้ รธน.60 ทำบ้านเมืองถอยหลัง

รัฐสภา 11ธ.ค.-“ปิยบุตร” อภิปรายเปิดญัตติตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทางแก้ไข รธน. ชี้รัฐธรรมนูญปี 2560 ทำบ้านเมืองถอยหลังเหมือนท่าเต้นไมเคิล แจ็กสัน ย้ำหากไม่แก้ไขอาจเกิดความขัดแย้งในอนาคต


หลังจากเสร็จสิ้นกระทู้ถามสดด้วยวาจาและกระทู้ถามทั่วไป สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่มีนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เป็นผู้เสนอ และญัตติที่เรื่องคล้ายกันที่ ส.ส.ทั้งจากฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ร่วมเสนอรวม 6 ญัตติ

นายปิยบุตร ในฐานะผู้เสนอญัตติ แถลงเปิดญัตติ โดยย้ำว่าญัตตินี้เป็นญัตติร่วมกันของพรรคฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรค เพราะมีความเห็นร่วมกันว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 มีปัญหาต้องแก้ไขโดยเร็ว แต่เข้าใจว่าเงื่อนไขการแก้ไขเพิ่มเติมทำได้ยาก จึงควรริ่เริ่มเสนอให้มีคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ด้วยหลักการเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่แท้จริง โดยกรรมาธิการที่มีองค์ประกอบจากบุคคลที่เห็นปัญหาจากการใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่ใช่ส่งตัวแทนฝ่ายผู้ที่มีอำนาจมาขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชักใบให้เรือเสีย จนแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ เพราะจะทำให้การตั้งคณะกรรมาธิการชุดนี้เป็นเพียงการซื้อเวลาหรือขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 


นายปิยบุตร กล่าวว่ารัฐธรรมนูญต้องเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของประชาชน และเป็นสัญลักษณ์ของการสร้างความสมานฉันท์ความปรองดอง เป็นฉันทามติของคนในสังคม ประชาชนจึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ หากรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมเอาไว้ ก็จะเป็นปัญหาและอาจนำไปสู่การรัฐประหาร ดังนั้นรัฐธรรมนูญจึงจำเป็นจะต้องมีหมวดที่ว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เพื่อต้องตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม เปิดโอกาสให้รัฐธรรมนูญสามารถแก้ไขได้ ขณะเดียวกันหากปล่อยให้แก้ไขง่ายจนเกินไป เสถียรภาพความมั่นคงของรัฐธรรมนูญก็จะไม่มีเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้เห็นว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 มีปัญหาความชอบธรรมทั้งในแง่ที่มา เนื้อหา และกระบวนการ ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ที่มีการวางกรอบไว้ตั้งแต่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 เป็นผลพวงจากการรัฐประหารของ คสช. อาศัยประชาชนสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเองภายใต้กระบวนการที่ชื่อว่าประชามติ แต่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล จึงไม่สามารถบอกได้ว่าการออกเสียงประชามติมีมาตรฐาน เพราะฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ไม่สามารถใช้เสรีภาพแสดงออกได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ในมาตรา 279 ที่ฝังระบอบรัฐประหารไว้ ด้วยการรับรองการใช้อำนาจของ คสช. ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน อนาคต มีการวางกลไกการสืบทอดอำนาจไว้ชัดเจนผ่านวุฒิสภา 250 คน ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. โดยมีหน้าที่หลักเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีใน 5 ปีแรก และพยายามโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นรัฐธรรมนูญปราบโกง ปฏิรูปการเมือง แต่เมื่อบังคับใช้แล้วพบความจริงว่าทำให้การเมืองไทยถอยหลัง


หลังเลือกตั้งการเมืองถอยหลัง กลับไปปี 2521 สมัยที่เรียกว่าประชาธิปไตยครึ่งใบ เพราะเลือกตั้งจะเสร็จแล้วต้องไปเชิญนายทหารมาเป็นนายกรัฐมนตรี และให้ข้าราชการประจำเข้ามามีบทบาทในการตรากฎหมาย ดังนั้นแทนที่ประเทศจะเดินหน้า แต่กลับถอยหลัง เหมือนท่าเต้นมูนวอล์คของไมเคิล แจ็กสัน

นายปิยบุตร ยังชี้ถึงปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองจากภาวะรัฐบาลเป็นเสียงปริ่มน้ำ บริหารประเทศได้ยากลำบาก ทำให้เกิดการใช้เงินซื้อเสียงในสภาฯ ตามที่เป็นกระแสข่าว ด้วยเหตุที่คณะรัฐประหารอยากสืบทอดอำนาจ แต่รู้ดีว่าหากลงเลือกตั้งแบบปกติโดยไม่มีกลไกพิเศษคงแพ้แน่นอน จึงต้องวางกลไกต่างๆ จนเกิดความพิสดาร ทำให้เกิดพรรคการเมืองจำนวนมากในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ตนเองไม่เคยโทษหรือตำหนิพรรคการเมือง เพราะเชื่อว่าเป็นผลจากกติกาและโครงสร้างทางการเมืองที่ไม่ดี ทำให้พฤติกรรมทางการเมืองของนักการเมืองถอยหลัง ดังนั้นรัฐธรรมนูญที่ดีควรมีเนื้อหาที่แบ่งแยกอำนาจของสถาบันการเมืองต่างๆ อย่างมีดุลยภาพ ต้องมีเนื้อหาประกันสิทธิเสรีภาพ

ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวข้องกับเรื่องปากท้องอย่างไรนั้น นายปิยบุตร ชี้แจงว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันทำให้เกิดการเมืองเสียงปริ่มน้ำ จนเกิดความกังวลถึงเสถียรภาพและการขับเคลื่อนนโยบาย เพราะเป็นนโยบายรัฐบาลผสมจากหลากหลายพรรค จึงกระทบต่อการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและปากท้อง ดังนั้นหากรัฐธรรมนูญดี ก็จะส่งผลให้ได้รัฐบาลที่ดีมีเสถียรภาพ และสามารถแก้ปัญหาปากท้องได้ ส่วนที่อ้างว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 มาจากการทำประชามตินั้น ก็เป็นการทำประชามติที่ไม่เป็นสากล ไม่แฟร์ และไม่เป็นธรรม พร้อมยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ในทางกลับกันหากไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญยิ่งจะทำให้เกิดความวุ่นวาย และทำให้คนอดทนไม่ไหว ออกมาเรียกร้องมากขึ้น จึงควรเปิดโอกาสให้มีการพูดคุยเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ

นายปิยบุตร กล่าวปิดท้ายการเปิดญัตติด้วยว่า ตอนใช้รัฐธรรมนูญปี 2550 มักมีการพูดกันว่านักการเมืองพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องมาคุยกันว่า นักการเมืองไม่ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง แต่ฝ่ายที่ไม่อยากให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจเป็นฝ่ายที่ไม่อยากให้แก้เพราะประโยชน์ตัวเอง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]