ชลบุรี 10 ธ.ค.-คนขับรถตู้กรุงเทพฯ-พัทยา ลืมผู้โดยสารทิ้งไว้ในปั๊ม ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ขับไปไกลกว่า 40 กม.จึงรู้ตัว ต้องให้รถตู้คันอื่นนำผู้โดยสารมาส่งคืนที่รถ พอเจอหน้า ลุงบอก “มาๆ กลับขึ้นรถเรา” ทำผู้โดยสารด่าไม่ลง
กรณีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ @Rachanoth โพสต์ข้อความเล่าเหตุการณ์โชเฟอร์รถตู้โดยสารกรุงเทพฯ-พัทยา แหลมบาลีฮาย ขี้ลืมทิ้งผู้โดยสารทั้งคันรถไว้ภายในปั๊มน้ำมัน ท่ามกลางอากาศเย็น ก่อนที่จะตีรถเปล่าไปไกลกว่า 40 กิโลเมตร รู้ตัวอีกทีเมื่อถึงจุดส่งจะจอดให้ผู้โดยสารลงรถ พอหันมาดูไม่เห็นผู้โดยสารสักคน สุดท้ายต้องให้รถตู้คันหลังจอดเพื่อรับผู้โดยสาร พอเปิดประตูจะตำหนิ ก่อนจะเห็นว่าโชเฟอร์เป็นชายสูงวัย จึงให้อภัย แถมบอก “มาๆ กลับขึ้นรถเรา” โดยเรื่องราวดังกล่าวถูกรีทวีตไปกว่า 53,000 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตจำนวนหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า ถ้าโชเฟอร์มีอายุมากจนเกินไปก็ควรจะเลิก และเปลี่ยนไปทำอาชีพอย่างอื่นจะเหมาะสมกว่า แต่ก็มีชาวเน็ตอีกจำนวนหนึ่งแสดงความเห็นใจและสงสารโชเฟอร์ ที่อายุมากก็ยังต้องประกอบอาชีพเลี้ยงดูตัวเอง
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายรัชชานนท์ มาตย์นอก อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต (RBAC) คณะสื่อสารมวลชน ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดช่วงคืนวันที่ 7 ธ.ค. ตนขึ้นรถตู้จากขนส่งเอกมัย กรุงเทพฯ เพื่อเดินทางมาพัทยา โดยมีคนขับชื่อนายทรงพล อายุประมาณ 60 ปี มีผู้โดยสารร่วมเดินทางมาด้วยประมาน 10 คน
กระทั่งเดินทางมาถึงปั๊มน้ำมันเขตพื้นที่ อ.ศรีราชา ลุงคนขับจอดรถเติมแก๊ส และถามผู้โดยสารว่า จะลงเข้าห้องน้ำหรือไม่ แต่ผู้โดยสารปฏิเสธ ลุงจึงเดินไปห้องน้ำคนเดียว ต่อมาไม่นานพนักงานปั๊มเปิดประตู แล้วบอกให้ผู้โดยสารลงจากรถให้หมด เนื่องจากเป็นกฎของปั๊ม ผู้โดยสารจึงลงมาจากรถทั้งหมด ยกเว้นผู้โดยสารด้านหน้า 2 คน ก่อนไปนั่งรอที่หน้าร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม เวลาผ่านไปสักพักจึงเอะใจว่า ทำไมคนขับหายไปเป็นเวลานาน เมื่อตรวจสอบดูจึงพบว่าไม่มีรถโดยสารของตนอยู่แล้ว จึงให้รถตู้คันอื่นภายในปั๊มพยายามติดต่อให้ จนกระทั่งทราบว่า ลุงคนขับรถเผลอขับออกจากปั๊มไปไกลกว่า 40 กม. เมื่อจอดส่งผู้โดยสารจึงพบว่าลืมผู้โดยสารทิ้งไว้ที่ที่ปั๊ม จากนั้นจึงประสานคนขับรถตู้ภายในปั๊มนำผู้โดยสารมาส่งขึ้นรถคันเดิม
นายรัชชานนท์ เล่าต่ออีกว่า เมื่อพบคนขับคิดว่าจะต่อว่าลุงสักหน่อย แต่เมื่อเห็นหน้า ลุงคนขับรถกลับพูดว่า “มาๆ กลับขึ้นรถเรา” ทำให้ตนเองและผู้โดยสารคนอื่นใจอ่อน ไม่สามารถตำหนิลุงได้ลงคอ และคิดเป็นเรื่องขำขันไป ก่อนลุงคนขับรถจะส่งถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ
จากนั้นตนจึงโพสต์ Twitter เพื่อแชร์เรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่คาดคิดว่าคนจะติดตามเยอะขนาดนี้ หลังจากเห็นกระแสข่าว ไม่อยากให้ต่อว่าลุงหรือตำหนิลุง เชื่อว่าลุงคงลืมจริงๆ และไม่มีเจตนาให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย