ขสมก.จัดรถบริการ 19 เส้นทาง ร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จเลียบพระนคร

กรุงเทพฯ 6 ธ.ค. – ขสมก.จัดรถให้บริการฟรี 19 เส้นทาง ร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562  วันที่ 12 ธันวาคม 2562 


นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีหมายกำหนดการจะเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในวันที่ 12 ธันวาคม 2562  ซึ่งรัฐบาลได้เชิญชวนประชาชนสวมใส่เสื้อสีเหลือง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เพื่อถวายพระพรชัยมงคลและแสดงความจงรักภักดี ณ สถานที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตลอดแนวเส้นทางการเสด็จพระราชดำเนิน  ขสมก.จึงจัดเดินรถโดยสารให้บริการฟรี 19 เส้นทาง วันที่ 12 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 22.00 น.  หรือจนกว่าจะส่งประชาชนออกจากพื้นที่หมด เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเดินทางเฝ้าฯ รับเสด็จ และชมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 

1.จัดรถโดยสารปรับอากาศชานต่ำ ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) และรถโดยสารปรับอากาศยูโรทู วิ่งในเส้นทางเดินรถเฉพาะกิจ (จอดรับ – ส่งทุกป้าย) จำนวน 6 เส้นทาง  เส้นทางที่ 1 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – สนามหลวง  จอดรับ – ส่ง บริเวณหน้าร้านอาหารสกายไฮ , เส้นทางที่ 2 สถานีขนส่งกรุงเทพ (จตุจักร) – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานพระราม 8 (ฝั่งพระนคร), เส้นทางที่ 3   วงเวียนใหญ่ – สนามหลวง    จอดรับ – ส่ง บริเวณสถานีรถไฟธนบุรี และบริเวณหน้าวัดกัลยาณมิตร, เส้นทางที่ 4   สนามศุภชลาศัย – สนามหลวง  จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์,  เส้นทางที่ 5  สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งธนบุรี) และเส้นทางที่ 6  สถานีรถไฟหัวลำโพง – สนามหลวง  จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งพระนคร)   


2.จัดรถโดยสารปรับอากาศชานต่ำ ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV)  และรถโดยสารปรับอากาศยูโรทู  วิ่งในเส้นทางเดินรถ Shuttle Bus (รับจากจุดจอด – จุดส่ง) จำนวน 11 เส้นทาง เส้นทางที่ 1 เมืองทองธานี, ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ – สนามหลวง  จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งพระนคร), เส้นทางที่ 2  สโมสรตำรวจ, ม.เกษตรศาสตร์ – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งพระนคร), เส้นทางที่ 3  สโมสรทหารบก, กทม.2 – สนามหลวง    จอดรับ – ส่ง บริเวณม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร  วิทยาเขตเทเวศร์, เส้นทางที่ 4  ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต – สนามหลวง  จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์, เส้นทางที่ 5  ที่จอดรถ MRT สำนักงานใหญ่, MRT ลาดพร้าว, ศาลอาญา,    จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.เทคโนโลยี สำนักงานอัยการสูงสุด, SCB สำนักงานใหญ่ – สนามหลวง ราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์, เส้นทางที่ 6  อีเกีย, เมกาบางนา, ไบเทคบางนา – สนามหลวง  จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์, เส้นทางที่ 7  ท่าเรือคลองเตย, โรงงานยาสูบ, จอดรับ – ส่ง บริเวณ ม.ธรรมศาสตร์ แอร์พอร์ต เรลลิ้งก์ มักกะสัน – สนามหลวง  ท่าพระจันทร์, เส้นทางที่ 8  สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า  จอดรับ – ส่ง บริเวณ  เจ้าคุณทหารลาดกระบัง – สนามหลวง  หน้าร้านอาหารสกายไฮ,  เส้นทางที่ 9  เซ็นทรัลพระราม 2, โรงเรียนบางมดวิทยา – สนามหลวง  จอดรับ – ส่ง บริเวณท่าเตียน ,  เส้นทางที่ 10  พุทธมณฑลสาย 4, เซ็นทรัลศาลายา, อู่บรมราชชนนี,   จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพาน  วิทยาลัยทองสุข – สนามหลวง พระราม 8 (ฝั่งธนบุรี) c และ เส้นทางที่ 11 เซ็นทรัลเวสเกต – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพาน  สมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งธนบุรี) 

3.จัดรถโดยสารธรรมดา วิ่งในเส้นทางเดินรถ Shuttle Bus แทนเรือข้ามฟาก (รับจากจุดจอด – จุดส่ง)  จำนวน  2  เส้นทาง  เส้นทางที่ 1 สะพานกรุงธน (หน้าโรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ์) – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานพระพุทธยอดฟ้า (ฝั่งพระนคร) และเส้นทางที่ 2  สะพานกรุงธน (หน้าสถานีดับเพลิงสามเสน) – สนามหลวง จอดรับ – ส่ง บริเวณใต้สะพานพระพุทธยอดฟ้า (ฝั่งพระนคร) 

ด้านความพร้อมของรถโดยสาร  ขสมก.ได้นำรถโดยสารปรับอากาศชานต่ำใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV)  ซึ่งเป็นรถพลังงานสะอาด มีความสะดวก สบายในการขึ้น-ลง  และรถโดยสารปรับอากาศยูโรทู ซึ่งใช้น้ำมันดีเซล B 20  มาให้บริการประชาชน  เนื่องจากรถโดยสารดังกล่าว  มีอัตราการปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ค่อนข้างต่ำ  จึงช่วยลดมลพิษในอากาศ  นอกจากนี้ ได้ประสานบริษัทเหมาซ่อม ตรวจเช็ครถโดยสารให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน  รวมถึงการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองต่าง ๆ  ตรวจเช็คระบบไอเสีย และตรวจวัดควันดำ ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน  พร้อมทั้งให้พนักงานขับรถโดยสาร ตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารและอุปกรณ์ส่วนควบ  ก่อนนำรถออกวิ่งให้บริการประชาชน  


ด้านความปลอดภัย  กำชับพนักงานขับรถโดยสาร ให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด  พร้อมทั้งตรวจใบอนุญาต ตรวจวัดแอลกอฮอล์  ตรวจความพร้อมด้านร่างกายของพนักงาน ก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร 

ส่วนพนักงานเก็บค่าโดยสาร  ให้อำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการในการขึ้น – ลงรถอย่างใกล้ชิด  บริการด้วยความสุภาพเรียบร้อย  และคอยสังเกตพฤติกรรมต้องสงสัย หากพบเห็นสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที   นอกจากนี้ ขสมก.ได้จัดหัวหน้างาน  เจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษ และพนักงานจิตอาสา คอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่เดินทางมาร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จ ณ จุดรับ – ส่งรถ Shuttle Bus  และป้ายหยุดรถโดยสารที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น  เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทาง เข้าร่วมเฝ้าฯรับเสด็จ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย