นนทบุรี 4 ธ.ค. – พาณิชย์หารือเอกชน เร่งรัดการส่งออกปลายปีและต้นปีหน้า ทั้งสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมเพื่อเร่งรัดตัวเลขส่งออก ด้านเอกชนย้ำเงินบาทแข็งเป็นปัจจัยหลักดันส่งออกไทยพลาดเป้า
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุม War Room ด้านการส่งออกสินค้าร่วมกับภาคเอกชน หรือ กรอ.พาณิชย์ ประกอบด้วย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อติดตามสถานการณ์ส่งออกหลังติดลบต่อเนื่องและเร่งรัดการส่งมอบสินค้าในเดือนธันวาคมถึงต้นปี เพื่อเพิ่มตัวเลขการส่งออก
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการส่งออกในปีนี้ได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยทั้งเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว จากปัญหาสงครามการค้าและเงินบาทที่แข็งค่า ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้เร่งแก้ปัญหาโดยเร่งรัดการส่งมอบสินค้าหลายรายการ ทั้งสินค้าเกษตร และอุตสาหกรรม จากการทำบันทึกข้อตกลงหรือ เอ็มโอยู 35 ฉบับ กับประเทศต่างๆ มูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท รวมทั้งคำสั่งซื้อนอกเอ็มโอยูของเอกชนด้วย โดยระบุว่าที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ทำเต็มที่แล้วและเชื่อหากทุกฝ่ายร่วมมือจริงจังจะทำให้การส่งออกไทยปรับตัวดีขึ้น
นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานหอการค้าไทยกล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ปัญหาสงครามการค้าและเงินบาทที่แข็งค่า ส่งผลต่อการส่งออกไทยชะลอตัวมาก โดยคาดว่าจะติดลบร้อยละ 2.5 คิดเป็นมูลค่า 246,234 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนแนวโน้มการส่งออกในปีหน้า คาดว่าอาจจะขยายตัวได้เพียงร้อยละ 1 เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวก โดยมียอดส่งออกรวม 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ดังนั้น เสนอให้รัฐบาลดูแลค่าบาท เพื่อให้ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพ หากยังแข็งค่าจะฉุดเศรษฐกิจประเทศให้ชะลอตัวต่อเนื่องจะกระทบกับผู้ผลิตสินค้าส่งออก และเกษตรกรทั้งประเทศโดยตรง . – สำนักข่าวไทย