รัฐสภา 4 ธ.ค.- การประชุมคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. วันนี้ ถือเป็นนัดแรกที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ร่วมประชุม หลังจากเข้ามาแทนนายดล เหตระกูล ที่ลาออกจาก กมธ.ไป โดยวาระที่ต้องจับตาคือ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า จะมาชี้แจงเรื่องวุฒิการศึกษาต่อคณะกรรมาธิการ
การประชุมคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เป็นประธานกรรมาธิการ วันนี้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมประชุมเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการแต่งตั้งเข้าเป็นกรรมาธิการแทนนายดล เหตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนา ลาออกจากกรรมาธิการไป แต่ในช่วงเช้านี้ นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ และนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ยังไม่เข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการแต่อย่างใด ซึ่งทั้งสองคนนี้ ถือเป็นสีสันของคณะกรรมาธิการชุดนี้
โดยทันทีที่เริ่มการประชุมคณะกรรมาธิการในช่วงเช้า พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ รับหนังสือจาก นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ที่ขอให้ติดตามสอบสวนกรณีที่ดินของนายทวี ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี บิดาของนางสาวปารีณา กรณี รุกที่ ส.ป.ก. โดยขอให้สอบสวนอย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
นอกจากนี้ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังเตรียมเข้าชี้แจงกรณีวุฒิการศึกษาปลอมต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการด้วย
โดยระหว่างนี้ บรรยากาศในที่ประชุม เป็นการชี้แจงของนายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล หัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทย ต่อคณะกรรมาธิการฯ กรณีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอกที่มีการอ้างว่าเป็นวุฒิการศึกษาปลอม ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่า เป็นวุฒิการศึกษาจริง และตนเองเคยเป็นตำรวจน้ำดีอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เพราะเคยเป็นจ่า ที่จังหวัดอำนาจเจริญ สมัยพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เป็นรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งก็ได้สร้างความงุนงงให้กับกรรมาธิการบางคน
ขณะที่การประชุม 7 พรรคฝ่ายค้าน ยังยืนกราน จุดยืนเดิมที่ไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม หากมีการเสนอนับองค์ประชุมใหม่ เพราะเห็นว่ารัฐบาลทำไม่ถูก เชื่อว่าการตั้งกรรมาธิการศึกษาผลกระทบมาตรา 44 จะเป็นประโยชน์
โดยนายสุทิน ระบุว่า ถ้าวันนี้องค์ประชุมล่มอีกเป็นครั้งที่ 3 เชื่อว่า อย่างน้อยปรับ จะมีการปรับ ครม. และประเมินว่า มีโอกาสยุบสภาสูง เพราะสะท้อนว่ารัฐบาลเดินหน้าต่อไปไม่ได้.-สำนักข่าวไทย