สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระดำรัสวันพ่อแห่งชาติ

สำนักข่าวไทย 3 ธ.ค.-สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระดำรัสเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม เชิญชวนคนไทย เจริญเมตตาจิตต่อกันด้วยความจริงใจ สนองพระบรมราชปณิธานในหลวง รัชกาลที่ 9


วันนี้ (3ธ.ค.) เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช โพสต์ข้อความและภาพ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระดำรัสเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2562 ความว่า


“อภิลักขิตสมัยคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง ทางราชการได้กำหนดให้เป็นวันชาติ และเป็นวันพ่อแห่งชาติอีกด้วย จึงควรที่เราทั้งหลายผู้มีโอกาสได้พึ่งพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา จักน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และบำเพ็ญคุณงามความดี อุทิศถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระองค์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ แม้เสด็จสวรรคตล่วงลับไปแล้ว  หากแต่ยังทรงดำรงอยู่ด้วยพระคุณ เป็นดวงประทีปทางปัญญาของประชาชาติไทย เป็นดั่งพ่อแห่งชาติไทย ทรงสถิตสถาพร อยู่ในความสำนึกของคนไทยอย่างแน่นแฟ้นตลอดมาตราบเท่าทุกวันนี้ 


เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดำรัส ในการเสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ความตอนหนึ่งว่า ‘คุณธรรมข้อหนึ่ง ที่อุปถัมภ์และผูกพันคนไทยให้รวมกันเป็นเอกภาพ สามารถธำรงชาติบ้านเมืองให้มั่นคงเป็นอิสระยั่งยืนมาช้านาน คุณธรรมข้อนั้นก็คือไมตรี ความมีเมตตาหวังดีในกันและกัน คนที่มีไมตรีต่อกัน จะคิดอะไร ก็คิดแต่ในทางสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลกัน จะพูดอะไร ก็ใช้เหตุผลเจรจากัน ด้วยความเข้าอกเข้าใจกัน จะทำอะไร ก็ช่วยเหลือกัน ด้วยความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน’

วันนี้เป็นวาระบรรจบครบ 2 ทศวรรษ แห่งพระราชดำรัสนี้ แต่เมื่อพิจารณาไปในสังคมไทยทุกวันนี้ ทุกคนย่อมรู้อยู่แก่ใจได้ว่า เราทั้งหลายได้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสแล้วหรือไม่ เพียงใด 

เนื่องในวันชาติไทย อาตมภาพขอเชิญชวนคนไทย เจริญเมตตาจิตต่อกันด้วยความจริงใจ สนองพระบรมราชปณิธานในรัชกาลที่9 และในสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ผู้ทรงตั้งพระราชสัตยาธิษฐาน ในอันที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระบรมราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชบุพการีสืบมา ขอเราทั้งหลายจงคิดแต่ในทางสร้างสรรค์ ที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลกัน เจรจากันด้วยเหตุผล และความเข้าอกเข้าใจกัน พร้อมที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลกันให้สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า ‘โลโกปตฺถมฺภิกา เมตฺตา’ ‘เมตตาธรรมค้ำจุนโลก’ อันเป็นสัจจวาจาดังนี้เถิด 

ขออานุภาพแห่งคุณความดีที่สาธุชนทั้งหลายได้ร่วมกันบำเพ็ญ จงสำเร็จเป็นทิพยสุขแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเป็นเครื่องพิทักษ์รักษาคุ้มครองประชาชาติไทยให้ประสบความเกษมสุขสวัสดี มีกำลังพรั่งพร้อมในอันที่จะทำนุบำรุงราชอาณาจักรไทยให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นสืบไป เทอญ.”.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง