ผบ.ทร.ตรวจเยี่ยมความพร้อม มอบของขวัญปีใหม่นาวิกโยธิน

22 พ.ย. – ผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจเยี่ยมความพร้อม มอบของขวัญปีใหม่ ทหารนาวิกโยธินในพื้นที่ภาคใต้





วันนี้ (22 ..62) พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย นาวาเอกหญิง อุบลวรรณ รุดดิษฐ์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมความพร้อมหน่วยกองทัพเรือในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ประกอบด้วย หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ และ หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน เพื่อตรวจความพร้อมและมอบของขวัญปีใหม่แก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยใน เวลา 10.10 . ผู้บัญชาการทหารเรือและคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส โดยมี นาวาเอก อภิชาต ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธินและผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งนำผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ และเข้ารับฟังการบรรยายสรุปภารกิจหน้าที่ และอุปสรรคข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานพร้อมกันนี้ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ให้โอวาทแก่กำลังพลโดยเน้นย้ำ ให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง และให้ปฏิบัติต่อพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ให้เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เพราะทุกคนไม่ได้มีอคติอย่างเช่นผู้ก่อการร้าย หากปฏิบัติเช่นนี้แล้ว เชื่อว่า จะเป็นที่ไว้วางใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และเน้นย้ำให้กำลังพลอย่าได้เสียขวัญและมีกำลังใจ ในการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งขอให้ผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้บังคับบัญชาเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ดูแลกัน ซึ่งหากปฏิบัติเช่นนี้แล้วเชื่อว่าคนงานจะปรากฏเป็นที่ชื่นชมของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไป


ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเยี่ยมพวกเราอีกครั้งในวันนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผมได้ติดตามสถานการณ์และผลงานของพวกเรามาโดยตลอด ขอแสดงความชื่นชมกำลังพลทุกนายที่ได้ปฏิบัติงานด้วยความมุ่งมั่นอุตสาหะ ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจและสติปัญญาจนทำให้ปรากฏผลงาน อันมีชื่อเสียงมาให้แก่กองทัพเรือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้เห็นพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือมีความเข้าใจ มีความสุขภายใต้การดูแลของพวกเราทุกคน การที่ผมและคณะมาวันนี้นอกจากเยี่ยมเยือนพวกเราแล้วยังได้ถือโอกาส มาพบปะรับทราบปัญหาข้อขัดข้องทั้งหลายทั้งปวง รวมทั้งมาเยี่ยมเยือนครอบครัวของพวกเราว่าอยู่ดีมีสุขประการใดด้วยความห่วงใย ว่าพวกเราอยู่ห่างไกลพื้นที่ส่วนกลาง นอกจากนี้แล้วยังฝากข้อคิดข้อเตือนใจบางประการ แก่พวกเรา ในการปฏิบัติงาน โดยขอให้ปฏิบัติงานด้วยความตั้งใจ จงระมัดระวังเตือนภัยตัวเองอยู่เสมอ รวมทั้งตระหนักว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่มิได้มีอคติกับพวกเราอย่างเช่นผู้ก่อการร้าย ขอให้คิดเป็นครอบครัวเดียวกับพวกเรา เป็นประชาชนคนไทยเหมือนกัน หากเป็นเช่นนี้ก็เชื่อได้ว่าพวกเราจะเป็นที่มั่น วางอยู่กลางใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบจังหวัดนราธิวาสทุกผู้ทุกคน อีกประการหนึ่งคืออยากจะฝากไว้ว่า การสูญเสีย เมื่อต้องระวังอย่างถึงที่สุดแล้ว ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่แล้วเกิดเหตุไม่คาดฝันร้าย จงอย่าได้เสียขวัญและกำลังใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักรบผู้กล้าทุกนายพึงเข้าใจดีว่าสูญเสียได้ แต่กำลังใจห้ามเสียหากทุกคนเสียกำลังใจ ทุกสิ่งทุกอย่างจะเสียหมดสิ้น ขอจงตระหนักให้เข้าใจตั้งแต่ผู้บังคับการจนถึงพลทหารคนสุดท้าย หากเข้าใจ เชื่อมั่น ตั้งแต่ผู้บังคับบัญชาและตัวผู้ใต้บังคับบัญชาเชื่อมั่นซึ่งกันและกันดูแลซึ่งกันและกันก็เชื่อได้ว่าผลงานจะปรากฏเป็นที่ชื่นชมของพี่น้องประชาชนนำมาซึ่งชื่อเสียงของกองทัพเรือในภายภาคหน้า



สำหรับการเดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ และหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสของผู้บัญชาการทหารเรือในครั้งนี้เป็นการเดินทางเยี่ยมบำรุงขวัญแก่กำลังพลเป็นครั้งแรกของผู้บัญชาการทหารเรือในปีงบประมาณ 2563 โดยทั้งสองหน่วยถือเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญหน่วยหนึ่งของกองทัพเรือในการดูแลความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชน เป็นหน่วยที่ต้องใกล้ชิดประชาชนอีกทั้งยังปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงกัน พลเรือเอก ลือชัย จึงได้เลือกมาเยี่ยมกำลังพลเป็นหน่วยแรกอีกทั้งเป็นการรับทราบถึงปัญหาอุปสรรค ขัอขัดข้อง และบำรุงขวัญในโอกาสใกล้วันขึ้นปีใหม่

ต่อมาในเวลา 14.00 . ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะได้เดินทางต่อไปยังกองบังคับการกรมทหารพรานนาวิกโยธิน ตำบลไพรวัน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยมี นาวาเอก สันติ เกศศรีพงษ์ศา ผู้บังคับการกรมทหารพรานนาวิกโยธิน ให้การต้อนรับ และเชิญผู้บัญชาการทหารเรือเข้ารับฟังการบรรยายสรุป และเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัย

สำหรับ กรมทหารพรานนาวิกโยธินกองทัพเรือ เป็นกำลังประจำถิ่นที่สำคัญอีกหน่วยหนึ่งของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และกองทัพเรือ ที่มีส่วนร่วมสำคัญในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ วิสัยทัศน์ของกรมทหารพรานหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน คือกรมทหารพรานหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินเป็นทหารของประชาชน ที่มีวินัย มีภาวะผู้นำ และยึดมั่นในความเสียสละกำลังพลของกรมทหารพราน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ทุกนาย ตั้งแต่ขั้นการฝึกจนกระทั่งถึงลงไปปฏิบัติงานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะได้รับการปลูกฝังความมีวินัย มีภาวะผู้นำ ยึดมั่นในความเสียสละ เพราะทุกคนคือทหารของประชาชน ทุกคนอาสามาเพื่อแก้ปัญหา มาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน กรมทหารพรานหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จึงได้น้อมนำหลักยุทธศาสตร์พระราชทานของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเข้าใจ เข้าถึง พัฒนามากำหนดเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานกล่าวคือเข้าใจ เข้าถึง ผู้บังคับบัญชาในทุกระดับ เพื่อแปลงนโยบายและเจตนารมณ์ พัฒนามาเป็นหนทางการปฏิบัติงานในพื้นที่เข้าใจ เข้าถึง พี่น้องประชาชนในพื้นที่ พัฒนา ความเป็นอยู่ และช่วยเหลืออย่างสุดกำลังความสามารถในทุกโอกาสเข้าใจ เข้าถึงกำลังพลและครอบครัวในทุกระดับพัฒนา สวัสดิการ สวัสดิภาพ ขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน

ปัจจุบัน กรมทหารพราน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นหน่วยขึ้นตรง หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ประกอบด้วย 1 กองบังคับการกรมทหารพรานนาวิกโยธิน และ 4 กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธิน พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทดแทนกำลังรบหลักที่มาจากนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในพื้นที่ อำเภอยี่งอ อำเภอบาเจาะจังหวัดนราธิวาส โดย กรมทหารพราน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน นับได้ว่าเป็นกำลังประจำถิ่นที่สำคัญอีกหน่วยหนึ่งของ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และกองทัพเรือที่มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกำลังพลของ กรมทหารพรานนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ทุกนาย จะได้รับการปลูกฝัง ระเบียบวินัย มีภาวะผู้นำ ยึดมั่นในความเสียสละ และทุกนายคือทหารของประชาชนทุกคนอาสามาเพื่อแก้ปัญหาและช่วยเหลือพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ว่าทหารเรือ ต้องเป็นกองทัพทหารของประชาชน หายใจ เชื่อมใจ และมีชะตาชีวิตร่วมกันกับประชาชน สู้เพื่อรับใช้ประชาชน ที่ใดมีศัตรู ที่ใดมีอันตราย ที่นั่นย่อมมีทหารของกองทัพเรือ ให้สมกับคุณค่าที่ส่งมอบให้กับสังคม เป็นกองทัพเรือ ที่ประชาชนเชื่อมั่น และภาคภูมิใจ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตรวจสอบบ้านลักลอบทำประทัดไล่นก บึ้มกลางชุมชน

สุพรรณบุรี 31 ก.ค. – จากเหตุบ้านที่ลักลอบทำประทัดไล่นก เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต วันนี้ตำรวจเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันว่าที่เกิดเหตุไม่ใช่โรงงาน แต่เป็นที่ลักลอบทำ ที่น่าตกใจคือหลังเกิดเหตุชาวบ้านโดยรอบบอกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าบ้านดังกล่าวลักลอบทำประทัดไล่นก จี้หน่วยงานตรวจสอบ กลัวว่าอาจจะมีบ้านที่ลักลอบทำอีก.-สำนักข่าวไทย

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์

ศรีสะเกษ 31 ก.ค. – ที่จังหวัดศรีสะเกษ มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จากการโจมตีของกัมพูชา ที่วัดมหาพุทธาราม หรือวัดพระโต พระอารามหลวง จ.ศรีษะเกษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และวางพวงมาลาพระราชทาน แก่ประชาชน รวม 7 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความความไม่สงบ ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นประชาชนเสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีษะเกษ และอีก 1 คนเสียชีวิตจากระเบิดลงบ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธี พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิต และมีพิธีการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมทุกคืน ถึงวันที่ 2 ส.ค.นี้ ก่อนจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ 3 สิงหาคมนี้ ด้านนายคมสันต์ […]

พบโดรนปริศนาหลายพื้นที่ คาดเป็นโดรนจารกรรม

บุรีรัมย์ 31 ก.ค. – แม้จะมีประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ในหลายพื้นที่ยังตรวจพบโดรนปริศนาขึ้นบิน เบื้องต้นคาดเป็นโดรนสอดแนม ขณะที่วิทยุการบินฯ วอนประชาชนร่วมมือ หากฝ่าฝืนจะใช้มาตรการทางทหารจัดการทันที เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยา จุด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ใช้โทรศัพท์บันทึกภาพโดรนที่บินเหนือ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ไว้ได้ และยังพบว่ามีโดรนบินเหนือบ้านตะโก, บ้านยายคำ, ตลาดตาเป๊กและบ้านเจริญสุข รวมทั้งหมด 4 แห่ง บินวนเวียนประมาณ 5 นาที จึงพยายามตรวจสอบโดยรอบพื้นที่ ก่อนจะพบรถตู้ยี่ห้อฮุนไดสีดำจอดอยู่ เชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าของโดรน เมื่อเข้าไปสอบถามคนในรถตู้ ที่เปิดกระจกลงมาพูดคุย เห็นภายในรถตู้มีคนประมาณ 3-4 คน มีอุปกรณ์คล้ายเครื่องควบคุมอะไรบางอย่างอยู่ในรถ จึงสอบถามว่าจะไปที่ไหน ได้รับคำตอบว่าจะไปสระแก้ว หลังจากนั้นรถตู้ได้ขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว แม้จะพยายามขับรถไล่ตามแต่ตามไม่ทัน เชื่อว่าเป็นโดรนของกัมพูชามาบินสอดแนมอย่างแน่นอน ส่วนที่ อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตรวจพบโดรนปริศนาหลายสิบลำ บินว่อนเหนือพื้นที่อำเภอบ้านกรวด ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล คือ ตำบลสายตะกู ตำบลจันทบเพชร […]

ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนรับฟังข้อเท็จจริงชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 31 ก.ค.- ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนร่วมหารือและรับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริง อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังตั้งทีมเฝ้าติดตามหยุดยิงชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ (31 ก.ค.68) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกโดยกรมข่าวทหารบก ร่วมหารือกับผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนประจำประเทศไทย นำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ณ อาคารศรีสิทธิสงคราม ภายในกองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พล.ท.กำชัย วงศ์ศรี เจ้ากรมข่าวทหารบก เป็นประธานในการหารือ การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการจัดตั้ง Interim ASEAN Defence Attaches Monitoring Team (Interim ASEAN DAs Monitoring Team) ในการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์สถานการณ์หยุดยิง (Ceasefire) ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งการหารือในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงหยุดยิง ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเห็นพ้องร่วมกันในการจัดตั้งทีมเฝ้าติดตามชั่วคราวของฝ่ายทูตทหารจากชาติสมาชิกอาเซียนโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นกลไกเบื้องต้นในการติดตามสถานการณ์และสร้างความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ในที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไก ASEAN Monitoring Team (AMIT) ในอนาคต […]