วัยเรียน ‘กระโดดเชือก’ เป็นประจำ ช่วยเพิ่มความสูง

สธ.22พ.ย. -กรมอนามัยกระตุ้นความสูงเด็กวัยเรียน ด้วยการกินอาหารมีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายด้วยการกระโดดเชือกเป็นประจำและพักผ่อนเพียงพอต่อวัน พร้อมจับมือเขตสุขภาพที่ 3 จัดมหกรรมกระโดดเชือก ย้ำพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม ส่งเสริมเด็กวัยเรียนสูงดี สมส่วน


วันนี้ (22 พ.ย.) นพ.อรรถพล  แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานมหกรรมกระโดดเชือกเด็กวัยเรียน เขตสุขภาพที่ 3 นครสวรรค์ ว่า จากระบบรายงาน Health Data Center กระทรวงสาธารณสุข ปี 2562 พบเด็กวัยเรียน 6-14 ปี มีภาวะเตี้ยร้อยละ 8.8 ซึ่งเป้าหมายของประเทศกำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 5 จึงเป็นข้อบ่งชี้ว่าการเจริญเติบโตของเด็กวัยเรียนยังไม่ดีเท่าที่ควร คือมีส่วนสูงน้อยกว่าเกณฑ์ในเด็กที่มีอายุเท่ากัน โดยตั้งเป้าหมายให้ปี 2564 เด็กผู้ชายอายุ 12 ปี มีส่วนสูงเฉลี่ย 154 เซนติเมตร เพิ่มจากค่าเฉลี่ยความสูงปัจจุบันคือ 148.6 เซนติเมตร ส่วนเด็กผู้หญิงอายุ12 ปี มีส่วนสูงเฉลี่ย 155 เซนติเมตร เพิ่มจากค่าเฉลี่ยความสูงปัจจุบันคือ 149.9 เซนติเมตร 


ขณะที่ข้อมูลส่วนสูงระดับเขตสุขภาพที่ 3 พบว่าเด็กผู้ชายมีความสูงเฉลี่ย 147.3 เซนติเมตร และเด็กผู้หญิงมีความสูงเฉลี่ย 148.6 เซนติเมตรตามลำดับ เนื่องจากช่วงเวลาทอง (Golden period) ของเด็กในการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว (Growth spurt) ของเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงจะแตกต่างกัน โดยเด็กผู้หญิงจะเริ่มในช่วงอายุ 9 – 10 ปี ความสูงจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงอายุประมาณ 12 ปี 


จากนั้นอัตราการเพิ่มของความสูงจะลดลงจนกระทั่งถึงอายุประมาณ 16 – 18 ปี ความสูงจะค่อนข้างคงที่ ส่วนเด็กผู้ชายจะเริ่ม    ในช่วงอายุ 10 – 12 ปี ความสูงจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงอายุประมาณ 14 ปี จากนั้นอัตราการเพิ่มของความสูง  จะลดลงจนกระทั่งถึงอายุประมาณ 18 – 20 ปี ความสูงจะค่อนข้างคงที่

“ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสูงคือการเจริญเติบโตของกระดูก โดยเฉพาะกระดูกกลุ่ม long bone และการปิดของบริเวณ growth plate การที่เด็กมีการเคลื่อนไหวร่างกายหรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะกระตุ้นให้มีการหลั่งของ growth hormone และ growth factor รวมทั้งการกระตุ้นโดยตรงต่อกระดูก ทำให้เพิ่มการสร้างกระดูกมากขึ้น จึงต้องส่งเสริมให้เด็กวัยเรียนดื่มนมจืด 2 แก้วทุกวัน ร่วมกับการกินอาหารในปริมาณที่เหมาะสมกับวัย ครบ 5 หมู่ เลือกประเภทที่มีแคลเซียมสูง เช่น ปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้ง เต้าหู้แข็ง ผักสีเขียวเข้ม เช่น คะน้า ตำลึง ผักกาดเขียว หมั่นออกกำลังกายชนิดที่ช่วยเพิ่มความสูง เช่น กระโดดเชือก โดยทำต่อเนื่องไม่น้อยกว่าครั้งละ 10 – 15 นาที ทุกวัน ๆ ละ 60 นาทีหรือทำแบบสะสมเวลา ร่วมกับการนอนหลับสนิทอย่างน้อยวันละ 8-10 ชั่วโมง จะทำให้เด็กมีการเจริญเติบโตเต็มศักยภาพและเพิ่มความสูงได้” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ด้าน พญ.ศรินนา แสงอรุณ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 3 นครสวรรค์ กล่าวว่า การกระโดดเชือกเป็นกิจกรรมแอโรบิกชนิดหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความอดทนของระบบไหลเวียนโลหิต พัฒนาศักยภาพของหัวใจ ช่วยลดไขมันในร่างกาย เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และเพิ่มมวลกระดูก เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย กรมอนามัย โดยศูนย์อนามัยที่ 3 นครสวรรค์ จึงได้ร่วมกับเขตสุขภาพที่ 3 จัดมหกรรมกระโดดเชือกเด็กวัยเรียนขึ้น เพื่อสร้างกระแส และสร้างความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนได้ร่วมกันส่งเสริมให้เด็กวัยเรียนสูงดี สมส่วน เติบโตอย่างเต็มศักยภาพ โดยมีนักเรียนในพื้นที่สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 600 คน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จับหมอดังฟอกเงิน

ออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน”

ตำรวจออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คนข้อหา “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ล่าสุดจับได้แล้ว 6 คน ส่วนอีก 3 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว เบื้องต้นมีข้อมูลว่า “หมอดัง” หนีออกนอกประเทศตั้งแต่ ก.ย.ที่ผ่านมา

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า