กู้ครบแล้ว 7 ศพ เหยื่ออาคารก่อสร้างถล่มภูเก็ต พบไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้าง

ภูเก็ต 21 พ.ย.-เจ้าหน้าที่นำร่างคนงานติดใต้ซากอาคารกำลังก่อสร้างพังถล่มภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ออกมาได้ครบแล้วทั้งหมด 7 ราย เป็นชาวไทย 4 ราย และชาวเมียนมา 3 ราย พบผู้ประกอบการไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างอาคารกับทางเทศบาล

นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์กระทั่งถึงตอนนี้สรุปเป็นเวลาร่วม 6 ชั่วโมง ที่เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามอย่างหนักในการช่วยเหลือผู้รอดชีวิตและนำร่างผู้ที่เสียชีวิตออกจากใต้ซากอาคารที่พังถล่มลงมาทับคนงานในพื้นที่ก่อสร้างปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งของตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดย 2 รายที่รอดชีวิต เจ้าหน้าที่ช่วยได้ตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา เป็นชายชาวไทย 1 ราย และหญิงชาวเมียนมา 1 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตขณะนี้ชัดเจนแล้วว่ามีทั้งหมด 7 ราย เป็นชาวไทย 4 ราย และชาวเมียนมา 3 ราย


แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะนำร่างของผู้เสียชีวิตรายที่ 7 ซึ่งเป็นรายสุดท้าย ออกมาจากใต้ซากอาคารที่พังถล่มลงมาแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ในพื้นที่ที่เกิดเหตุก็ยังคงมีเจ้าหน้าที่ ทั้งจากทีมกู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต และจากอีกหลายหน่วยที่มาช่วยกัน

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยใช้ความพยายามทุกวิถีทางในการที่จะนำร่างผู้ติดอยู่ใต้ซากแผ่นปูนซีเมนต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตัวอาคารที่ถล่มลงมา เริ่มตั้งแต่การใช้เครื่องมือตรวจสอบหาสัญญาณชีพ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีผู้รอดชีวิตแล้วทั้ง 7 ราย เจ้าหน้าที่จึงใช้วิธีนำเครื่องมือเจาะและค่อยๆ ตัดแผ่นปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีความหนากว่า 20 เซนติเมตร ไล่ไปทีละจุดที่พบว่ามีร่างผู้เสียชีวิตติดอยู่ใต้ซาก ทำแบบนี้มาตั้งแต่ในช่วง 14.00 น.ที่ผ่านมา กระทั่งผู้เสียชีวิต 2 รายแรกที่ถูกนำออกมาจากใต้ซากได้เป็นชายชาวเมียนมาทั้งคู่ สามารถนำออกมาได้ในเวลาราวๆ 16.00 น.ที่ผ่านมา ทั้งคู่ถูกพบติดอยู่บริเวณด้านข้างขอบแผ่นปูนซีเมนต์ หลังจากนั้นถัดมาอีกราวชั่วโมงสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตรายที่ 3 และรายที่ 4 ออกมาได้ ส่วนรายที่ 5 และ 6 และ 7 ล่าสุดถูกนำร่างออกมาได้ในเวลาไล่เลี่ยกัน เมื่อเวลาราวๆ 19.00 น.เศษที่ผ่านมา

ส่วนชื่อผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้ทราบชื่อแล้วคือ นายจีระชัย วงศ์หาจักร อายุ 35 ปี นางสาวพรพิมล แวววงศ์ อายุ 21 ปี นายธวีรัตน์ เดชพันธ์ และนายกฤษณะ ขันบุตร ทั้ง 4 รายนี้เป็นคนไทย ส่วนที่เหลือ 3 รายเป็นชายชาวเมียนมา

ส่วนผู้บาดเจ็บที่ถูกช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลถลางไปแล้วก่อนหน้านี้ 2 ราย ประกอบด้วยชาวไทย 1 รายคือ นายจตุรวิทย์ หมวดสิงห์ และนางเมียว เมียว ยี ชาวเมียนมา


นายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร ระบุว่าจุดที่เกิดเหตุการณ์อาคารพังถล่ม ทางเทศบาลตำบลศรีสุนทรได้เคยส่งหนังสือให้ระงับการก่อสร้างไปแล้วเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังตรวจสอบพบว่าผู้ประกอบการในนามของบริษัท ทรายสีน้ำเงิน ไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างอาคารกับทางเทศบาลแต่อย่างใด ทั้งในส่วนของตัวอาคารที่พังถล่มทับคนงาน รวมถึงอาคารอีกหลังที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และบริเวณจุดที่มีการสร้างเป็นปั๊มน้ำมันก็ไม่ได้มีการขออนุญาตจากทางพลังงานแต่อย่างใด

ขณะที่ข้อมูลจากประธานสภาเทศบาลตำบลศรีสุนทร นายไตรรงค์ คำวิเศษ บอกว่าบริเวณที่มีการก่อสร้างอาคารและพังถล่มลงมาทับคนงานในวันนี้ เป็นอาคารส่วนที่ผู้ประกอบการกำลังดำเนินการสร้างเป็นร้านกาแฟ โดยในอดีตพบว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีลักษณะเป็นร่องน้ำ จึงตั้งข้อสังเกตว่าหากการก่อสร้างพื้นที่ดังกล่าวไม่มีการตอกเสาเข็มที่แข็งแรงและมั่นคง อาจจะเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการทรุดตัวและพังถล่มลงมาทับคนงานจนเกิดเป็นโศกนาฏกรรมขึ้นในครั้งนี้

ด้านพันตำรวจเอกธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรถลาง ยืนยันจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐาน และผู้เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ ไว้แล้ว หากตรวจสอบพบว่าโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นครั้งนี้เกิดจากความประมาทเลินเล่อของใคร ผู้นั้นจะต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นผู้รับเหมาหรือเจ้าของกิจการ เบื้องต้นทราบว่าพื้นที่เกิดเหตุเป็นของบริษัท ทรายสีเงิน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อาคารกำลังก่อสร้างที่ภูเก็ตพังถล่ม ช่วยได้ 2 คน ไม่ทราบชะตากรรม 7 คน
กู้แล้ว 3 ศพ เหยื่ออาคารถล่มภูเก็ต เร่งกู้อีก 4


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยินดีเขมรขนคนเที่ยวโบราณสถานไทย เตือนเคารพกฎ

20 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 ฮึ่มป่วน “ปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย” เจอมาตรการเบาไปหนัก ยินดีเขมรขนคนมาชมสองโบราณสถานของไทย ส่วนโซเชียลรณรงค์คนไทยเจ้าบ้านใส่เสื้อไทยร่วมต้อนรับ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีกัมพูชาขนประชาชนกัมพูชาหลายรถบัสขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ว่า รู้สึกยินดีและขอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาและประเทศอื่น ๆ ที่มาท่องเที่ยว เยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กองทัพภาคที่ 2 กำหนดไว้ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่ก่อความวุ่นวาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนเข้าเยี่ยมชมได้ตามปกติ ทั้งนี้ ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญของไทยและมีประวัติศาสตร์มายาวนาน “หากนักท่องเที่ยวคนใดก่อเหตุวุ่นวาย เจ้าหน้าที่มีมาตรการจากเบาไปหาหนักดำเนินการ ดังนั้นขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนเข้ามาเยี่ยมชมโบราณสถานของไทย ต้องเคารพกฎระเบียบของไทย” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพคนไทย พร้อมข้อความภาษาไทยและภาษากัมพูชา ระบุว่า “รวมใจคนไทย ใส่เสื้อไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวกัมพูชา ด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพจากเจ้าของบ้านตัวจริง” -สำนักข่าวไทย

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย

จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือน “ตาเมือนธม”

สุรินทร์ 20 ก.ค.- จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือนปราสาท “ตาเมือนธม” ด้านทหารไทย-ฝ่ายปกครอง จัดกำลังดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวไทยใกล้ชิด บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ ถูกจับตามองเป็นพิเศษ หลังมีรายงานว่าทางกัมพูชาเตรียมเกณฑ์นักท่องเที่ยวชาวเขมรขึ้นมาเยือนปราสาทตาเมือนธม ซึ่งขณะนี้ทราบว่า มวลชนมาด้วยรถโดยสารประจำทางของฝั่งกัมพูชาเกือบ 23 คันรถ โดยจอดอยู่ข้างล่างฝั่งกัมพูชาและเริ่มทยอยขึ้นมายังปราสาทตาเมือนธมอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศภายในตัวปราสาทฯ ยังคงเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและกัมพูชา ท่ามกลางการดูแลอำนวยความสะดวกของเจ้าที่ทหารไทยเป็นอย่างดี ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาเกิดขึ้นแต่อย่างใด -สำนักข่าวไทย