นนทบุรี 19 พ.ย. – รัฐบาลเดินหน้ารักษาเสถียรภาพราคาข้าว คู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกร
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือร่วมกับผู้ประกอบการค้าข้าว ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กรมส่งเสริมสหกรณ์ สมาคมธนาคารไทย องค์การคลังสินค้า เพื่อประเมินสถานการณ์ราคาข้าวเปลือก ซึ่งมีแนวโน้มอ่อนตัวลงขณะนี้ พบว่า มีสาเหตุมาจากผลผลิตข้าวนาปี 2562/2563 โดยเฉพาะข้าวเปลือกหอมมะลิกำลังทยอยเก็บเกี่ยวออกสู่ตลาดจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม จากการประเมินของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่า ผลผลิตข้าวเปลือกหอมมะลิภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีปริมาณลดลงจากเป้าหมาย เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้ง อุทกภัย และการระบาดของโรคไหม้คอรวงข้าว
นายวิชัย กล่าวว่า เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขณะนี้ คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ได้เห็นชอบกรอบการใช้เงินงบประมาณปี 2563 จำนวน 4,289.86 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังอนุมัติการใช้เงินแล้ว โดยเป็นมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2562/2563 (คู่ขนานกับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2562/63 รอบที่ 1) วงเงิน 2,572.50 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก โดยให้สินเชื่อเกษตรกรรายบุคคล และสถาบันเกษตรกร เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง เป้าหมาย 1 ล้านตันข้าวเปลือก โดยให้ค่าใช้จ่ายในการฝากเก็บตันละ 1,500 บาท วงเงิน 1,500 ล้านบาทและชดเชยดอกเบี้ยให้เกษตรกรเป็นระยะเวลา 5 เดือน
2.โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโดยสถาบันเกษตรกร โดยสนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร เพื่อรวบรวมข้าวเปลือก เพื่อจำหน่าย และ/หรือ เพื่อการแปรรูป โดยสถาบันเกษตรกรรับภาระดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี รัฐบาลรับภาระดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี วงเงิน 562.5 ล้านบาท และ 3.โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวเก็บสตอก เป้าหมายให้ผู้ประกอบการค้าข้าวที่เข้าร่วมโครงการฯ รับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรแล้วเก็บเป็นระยะเวลา 2 – 6 เดือน โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 วงเงิน 510 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ราคาที่มีการปรับตัวอ่อนลงเล็กน้อยเป็นผลส่วนหนึ่งมาจากคุณภาพข้าว แต่ข้อเท็จจริงปริมาณข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวน้อยลงกว่าเป้าหมายการผลิต และรัฐได้มีมาตรการดังกล่าวออกมา เชื่อว่าจะทำให้ราคามีเสถียรภาพมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย