นนทบุรี 18 พ.ย.-หนุ่มถูกลอตเตอรี่ 6 ล้านบาท เปิดใจโกรธญาติเข้ามายุ่งทำภรรยาเปลี่ยนไป ยกให้ภรรยาเป็นคนจัดการลอตเตอรี่ ไม่ขอตอบเรื่องความสัมพันธ์ ตัดสินใจแบ่งเงินกันคนละ 3 ล้านบาท เพื่อตัดปัญหา
กรณี น.ส.พรธิดา ชำนาญเวช อายุ 23 ปี พร้อมพี่สาวและญาติ เข้าแจ้งความว่าสามี คือนายวิจักร วรรณประสิทธิ์ อายุ 34 ปี ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 จึงไปแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.พระประแดง พร้อมกับเซ็นลายมือชื่อของตนและสามีไว้ที่ด้านหลังของสลากที่ถูกรางวัล แต่ต่อมาสามีบอกว่าจะแบ่งให้เพียง 2 ล้านบาท และมีปากเสียงกัน ก่อนที่สามีจะบอกว่าอยากได้ก็ไปฟ้องเอา จึงเข้ามาแจ้งความนั้น
ล่าสุดนายวิจักรได้เดินทางไปยังกองสลากฯ สนามบินน้ำ พร้อมเปิดเผยว่า ตอนนี้จะให้ภรรยาเป็นคนจัดการลอตเตอรี่ เพราะสลากอยู่ที่เขา แล้วให้เป็นคนโอนมาอีกที ตนไม่ได้หนีไปไหน เราคุยกันตลอดเวลา แค่อารมณ์ชั่ววูบ ผ่านไปแค่ 4-5 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ทะเลาะกันแล้วสุดท้ายก็กลับมาบ้าน ไม่ได้มีทำร้ายร่างกายอะไรกัน แค่เตะขวดน้ำด้วยความโมโห ตอนแรกตั้งใจจะให้เขา 2 ล้านบาท เพื่อไปจัดการเรื่องสร้างบ้านของแม่เขา ส่วนอีก 4 ล้านบาท จะเอาไปซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน ส่วนเรื่องญาติพี่น้องค่อยว่ากันอีกที ตอนแรกที่ตกลงกันเป็นแบบนั้น แต่อยู่ๆ น้องไปคุยกับญาติแล้วก็กลับมาบอกว่าจะขอ 3 ล้านบาท ตนเลยโมโหว่าที่เราตกลงกันไม่ใช่แบบนั้น ทำไมต้องให้คนอื่นมาบงการแบบนี้ ทุกอย่างมันสามารถคุยกันได้ เขาอาจจะไม่พอใจคิดว่าเราเอาเปรียบเขา แต่เราไม่ได้เอาเปรียบ เพราะคุยกันไว้แล้วว่าจะทำยังไงกับเงิน
นายวิจักรกล่าวต่อว่า จริงๆ แล้วไม่คิดว่าจะมีปัญหา และไม่คิดว่าภรรยาจะไปแจ้งความ โดยก่อนหน้านี้ญาติพี่น้องไม่เคยมายุ่งกับเรา ไม่คิดจะโทรหา ตอนลำบากไม่มีใครคิดจะสนใจ ตอนนี้ไม่ขอบอกอะไรกับความสัมพันธ์ว่าจะอยู่ด้วยกันต่อไปหรือไม่ ตอนนี้ตัดสินใจแบ่งเงินกัน เพื่อตัดปัญหา เพราะเหมือนตนโดนอยู่คนเดียวเลย 
น.ส.พรธิดา ชำนาญเวช ภรรยาของนายวิจักร เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้ให้ทางผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่ายตกลงพูดคุยกันแล้ว ได้ข้อสรุปว่าจะแบ่งเงินรางวัลกันคนละครึ่ง หรือคนละ 3 ล้านบาท ตามที่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่ต้น หลังจากนั้นต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันไปใช้ชีวิตกันเอง ส่วนตนจะนำเงินที่ได้มาดูแลครอบครัวให้อยู่สบายต่อไป
น.ส.พรธิดา กล่าวว่า เหมือนเป็นโชคบนทุกขลาภ เพราะได้เงินก้อนโตมาแต่ต้องเลิกรากับสามี เสียดายเวลาที่เคยอยู่ด้วยกันมา ตกทุกข์ได้ยาก ลำบากกันมาก็ดูแลช่วยเหลือกันมาตลอด ส่วนตนเชื่อว่าสาเหตุของปัญหาเกิดจากที่สามีเป็นคนใจร้อน เขาเป็นเสาหลักของครอบครัว รับภาระไว้เยอะ เลยคาดหวังอะไรไว้เยอะเกินไปจนเกิดปัญหาขึ้น เสียดายเวลาและความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กัน
น.ส.พรธิดา กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าที่จะถูกรางวัลที่ 1 ยังวางแผนการใช้ชีวิตร่วมกันเป็นอย่างดี ไม่มีปัญหาอะไร เรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้เราทั้ง 2 ฝ่ายได้รับบทเรียนกัน จากนี้ไปหลังเคลียร์เรื่องเงินรางวัลเสร็จ ตนจะกลับไปทำงานประจำตามเดิม 
ส่วนเรื่องน้า พี่สาว เราอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว แค่คุยกันปรึกษา เพราะเราเป็นเด็ก อย่างเรื่องบ้านถ้าจะซื้อเป็นชื่อเราสองคน เราก็ดีใจว่าจะมีอะไรเป็นของตัวเอง แต่สามีบอกว่าจะเป็นชื่อแม่ เราก็คิดว่าจะโอเคไหม แล้วจะไม่ให้เราคิดบ้างเหรอว่าวันข้างหน้าเราจะมีหลักประกันอะไรในชีวิตบ้าง ตอนที่เขาบอกว่าจะให้เรา 2 ล้านบาท ก็คิดว่าจะเก็บไว้ 1 ล้านบาท จะทำบ้านให้พ่อแม่ อีกล้านคิดอยู่ว่าจะพอไหม แต่เขาบอกว่าจะเอาไปซื้อบ้าน จะไม่ทิ้งเรา ก็ดีใจแต่ก็มาผิดใจกัน ยอมรับว่าเป็นเราที่ไม่หนักแน่น เพราะเครียดหลายอย่าง อยากให้เข้าใจที่ไปแจ้งความเพราะตกใจ แค่อยากรักษาสิทธิ ไม่ได้จะทำร้ายเขา เคยคุยกันมาก่อนว่าถ้าถูกรางวัลเราสองคนก็อยากทำให้พ่อแม่สบายที่สุด วันนี้คงต้องไปทำให้ครอบครัว.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• สาวน้ำตาตก แจ้งความแฟนหนุ่มหอบรางวัลที่ 1 หนี
