ปักหมุดพื้นที่เสี่ยงคุกคามทางเพศกว่า 600จุดทั่วกรุง-ปริมณฑล

กทม.16 พ.ย.-ประชาชนร่วมปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการคุกทามทางเพศ ในเมืองกรุงและปริมณฑล รวมกว่า 600 จุด “มธ.รังสิต 280 หมุด เขตลุมพินี สะพานเขียว ซอยร่วมฤดี ซอยโปโล 114 หมุด” องค์กรเมืองปลอดภัยเพื่อผู้หญิง เดินหน้าร่วมมือตำรวจ ภาคีเครือข่าย และประชาชน สร้างเมืองที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน  


วันนี้ (16พ.ย.) ที่ลานกิจกรรมเดอะ มาร์เก็ตแบงคอก ราชประสงค์ ภาคีเครือข่ายเมืองปลอดภัยเพื่อผู้หญิง เปิดข้อมูลพื้นที่เสี่ยงต่อการคุกคามทางเพศ 600 จุดในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ในโครงการFirst Pin “ปักหมุดจุดเผือก” พร้อมประกาศความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจและภาคีเครือข่ายในการสร้างเมืองที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน  รวมทั้งจัดเสวนาในหัวข้อเปิดดาต้าปักหมุดจุดเสี่ยงต่อการคุกคามทางเพศ 600 จุด รอบ กทม.และปริมณฑล สู่การแก้ไขปัญหาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นรูปธรรม


น.ส.วราภรณ์ แช่มสนิท ผู้แทนเครือข่ายเมืองปลอดภัยเพื่อผู้หญิง กล่าวว่า โครงการปักหมุดจุดเผือกทำงานรณรงค์เพื่อกระตุ้นให้คนในสังคมตระหนักถึงปัญหาความไม่ปลอดภัยทางเพศที่เกิดขึ้นในพื้นที่สาธารณะและร่วมกันสอดส่องดูแลเพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน โดยร่วมมือกับหลายหน่วยงาน เช่น NECTEC ให้ใช้แอปพลิเคชัน Traffy Fondue ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปร่วมสำรวจพื้นที่สาธารณะและแจ้งจุดเสี่ยงภัยคุกคามทางเพศ โดยตั้งแต่เริ่มโครงการถึงปัจจุบัน ระยะเวลา 2 เดือน จากเป้าที่ตั้งไว้ 500 หมุด มีประชาชนปักหมุดเข้ามา 611 หมุด เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต 280 หมุด ,เขตลุมพินี สะพานเขียว ซอยร่วมฤดี ซอยโปโล 114 หมุด ,พื้นที่บริเวณเพชรบุรีซอย 5 เพชรบุรีซอย 7 , เขตบางขุนเทียน 33 หมุด, พื้นที่บริเวณ ชุมชนเคหะ ธนบุรี 3  บริเวณพระราม 2 ซอย 60 และสถานีรถไฟรางสะแก เขตมักกะสัน 32 หมุด , เขตสะพานควาย 10 หมุด ,เขตประชานิเวศน์-ประชาอุทิศ  6 หมุด เป็นต้น

ลักษณะพื้นที่ที่มีคนปักหมุดจุดเสี่ยงต่อการคุกคามทางเพศมากที่สุด คือทางเดินและซอย 39 % สะพาน 16 % ริมถนน 15 %  ใต้ตึก 13 % อาคารร้าง 7% ทางเดินริมคลอง 7 % สะพานลอย 3 % สวนสาธารณะ 1 % ทางจักรยาน 1%  ขณะเดียวกันยังประมวลผลพบ 7 อันดับจุดเสี่ยงต่อการคุกคามทางเพศมากที่สุด 1.จุดที่ขาดการบำรุงรักษา 23 % ไฟสว่างไม่เพียงพอ 23 % จุดอับสายตา 15 % ทางเปลี่ยว 14 % ทางแคบทางตัน 13 % ไม่มีป้ายบอกทาง 9 % ไกลจากป้ายรถเมล์ วิน สถานี 3 %


 “จากการรณรงค์ที่สะพานเขียว ได้รับความร่วมมือจากผู้กำกับ สน.ลุมพินีรับข้อมูลจุดเสี่ยงไปพิจารณา โดยรับจะเพิ่มความถี่ออกตรวจพื้นที่เสี่ยงและเพิ่มการทำงานเสริมศักยภาพอาสาสมัครตำรวจบ้านในชุมชนรอบๆ ให้สามารถตรวจตราเฝ้าระวังดูแลพื้นที่และประสานแจ้งเหตุกับตำรวจท้องที่ได้เร็วยิ่งขึ้น ในระยะยาวคาดหวังว่าหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ในการดูแลพื้นที่สาธารณะต่างๆจะมีมาตรการป้องกันเฝ้าระวังอย่างจริงจังมากขึ้น และมีช่องทางสื่อสารแบบถาวรที่ประชาชนจะสามารถช่วยแจ้งข้อมูลจุดที่มีความเสี่ยงมีอันตรายต่างๆเพื่อให้เข้ามาดูแลป้องกัน โดยไม่ต้องรอให้เกิดเหตุร้ายขึ้นเสียก่อน” น.ส.วราภรณ์ กล่าว 

นายยศพล บุญสม ผู้อำนวยการและผู้ก่อตั้ง Shma Company Limited กล่าวว่า การที่ในระยะเวลา 2 เดือน ทีมเผือกมีการปักหมุดจุดเสี่ยงไปกว่า 600จุดนั้น เริ่มเห็นถึงการขยับของภาคประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาพื้นที่เสี่ยงผ่านแอปพลิเคชัน ถือเป็นจุดสำคัญ เพราะเกิดความรู้สึกว่าไม่อยากให้เป็นหน้าที่หน่วยงานรัฐ การมีส่วนร่วมเป็นพลังที่ดีในการแก้ไขปัญหา ซึ่งมีด้วยกัน 2 มิติ คือทางกายภาพและสังคม ที่จะคู่ขนานกันไป ทางกายภาพคือลดความเสี่ยง เช่น ติดไฟส่อง ติดกล้องวงจรปิด หรือเพิ่มการตรวจตรา ในมิติสังคมทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาในระยะยาว คือกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนโดยรอบ ร่วมกันออกแบบว่าต้องการอะไร มีความเห็นอย่างไร เพื่อสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วม

 นายวสันต์ ภัทรอธิคม หัวหน้าทีมวิจัยระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) กล่าวว่าการใช้เทคโนโลยีช่วยระบุจุดเสี่ยง เพื่อไปสู่การแก้ไข เพื่อให้กรุงเทพฯเป็นเมืองปลอดภัยสำหรับทุกคน ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อทุกชีวิต โดยเฉพาะใช้ชีวิตของสตรี เด็ก คนชรา รวมถึงประชาชนทั่วไป  ซึ่งการดำเนินงานของทีมเผือกถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมเป็นอย่างมาก

พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวว่า ข้อมูลของโครงการมีประโยชน์มากในการวางแผน ดูแลรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนในสถานีตำรวจทุกแห่งทั่วกรุงเทพฯ โดยสน.ลุมพินีจะนำไปปรับแผนการรักษาความปลอดภัยและตรวจตราความเรียบร้อย  และบางจุดจะส่งสายตรวจ ตรวจความเรียบร้อย เฝ้าระวัง ตามช่วงเวลาที่มีการแจ้งเข้ามาให้มากขึ้น อีกทั้งเห็นว่าหน่วยงานอื่นของรัฐ เช่น กรุงเทพมหานคร สามารถให้ความร่วมมือเรื่องการให้เจ้าหน้าที่ช่วยสอดส่องดูแล ปรับภูมิทัศน์ หรือ ติดตั้งกล้องซีซีทีวี เพื่อป้องกันเหตุและสามารถติดตามคนร้าย ได้ทันท่วงที 

ผศ.ชุมเขต แสวงเจริญ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา มธ.ทำแผนส่งเสริมความปลอดภัยและสร้างความเข้าใจทางเพศ โดยตั้งคณะกรรมการที่มีผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในและต่างประเทศ ในหลากหลายสาขา พร้อมมีการประเมินพื้นที่เสี่ยงของมหาวิทยาลัยออกเป็น 4 สี 4 ระดับ คือ สีเขียว ไม่มีความเสี่ยง เหลืองจุดเฝ้าระวัง ส้ม จุดเสี่ยง และแดง จุดอันตราย ซึ่งในจุดสีเหลือง ส้ม และแดง จะมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น มีการตรวจตรา ติดตั้งไฟ และจะติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ไม่ให้มีจุดบอด หรือจุดลับสายตาผู้คน 

นอกจากนี้ยังเพิ่มช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนของนักศึกษา รวมทั้งยังมีระบบการดำเนินงานในกรณีก่อนเกิดเหตุ ช่วงเกิดหตุและหลังเกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุเน้นการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ช่วงเกิดเหตุได้พัฒนาระบบไอทีในการแจ้งขอความช่วยเหลือ มีสายด่วน เพื่อแจ้งเหตุฉุกเฉิน และหลังเกิดเหตุ จะมีการดูแลทั้งสภาพร่างกาย จิตใจ และคดีความ

น.ส.พิสชา ไทยศรีสุข สมาชิกทีมเผือก กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมเผือกนำเวลาที่ตัวเองว่างไปช่วยเหลือสังคมได้ โครงการปักหมุดจุดเผือกเป็นโครงการที่ดีนอกจากจะได้ดูแลตัวเอง ยังดูแลคนอื่นได้ด้วย เพราะทราบว่าพื้นที่ไหนเสี่ยงจะได้ระมัดระวัง โดยที่ผ่านมาตนได้ลงพื้นที่ปักหมุดจุดเผือกย่านสะพานเขียว ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้บ้าน ได้แจ้งเตือนและเป็นข้อมูลนำไปสู่การแก้ไขลดความเสี่ยงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]