หลายจังหวัดเริ่มแล้ว! ลอยกระทงคึกคัก เน้นไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

ภูมิภาค, กรุงเทพฯ 11 พ.ย.- หลายจังหวัดเข้าสู่เทศกาลลอยกระทงกันแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา บรรยากาศคึกคัก ประชาชนซื้อกระทงเน้นไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เลยลอยกระทงกะลา เพชรบูรณ์ลอยกระทงรอบโบสถ์บนเนินเขา ขณะที่ กทม.ตำรวจตรวจท่าเรือ เตรียมพร้อมดูแลความเรียบร้อยลอยกระทง


สุพรรณบุรีชาวบ้านซื้อกระทงคึกคัก เน้นไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม


ที่ จ.สุพรรณบุรี ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี บรรยากาศคึกคักมาก คนแห่ซื้อกระทงและวัสดุธรรมชาติ ใบตอง ดอกไม้ ขายดีจนแม่ค้าหยิบแทบไม่ทัน โดยบรรดาแม่ค้าเริ่มนำกระทงมาวางจำหน่ายบริเวณริมถนน มีทั้งกระทงที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ ประเภทใบตอง ต้นกล้วย จำหน่ายในราคาตั้งแต่ 50 บาท ขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ หลัก 100-200 บาท และกระทงที่ได้รับความสนใจก็จะเป็นกระทงประเภทขนมปังรูปสัตว์ต่างๆ ทั้งจระเข้ เต่า และกระทงขนมปังรูปถาดขนาดใหญ่ เพื่อเป็นอาหารปลา ขนาดใหญ่ราคา 150 บาท ซึ่งได้รับความสนใจมาก

ส่วนวัสดุธรรมชาติที่ใช้ประดิษฐ์กระทงก็ยังได้รับความสนใจ มีทั้งต้นกล้วย ราคาตั้งแต่ 5-30 บาท ตามขนาด ใบตองขายเป็นมัด ในราคา 20 บาท ดอกดาวเรือง ดอกละ 1 บาท ส่วนดอกบานไม่รู้โรย ขีดละ 15 บาท และมีอุปกรณ์การทำกระทงจำหน่ายครบชุด คนที่ซื้อวัสดุธรรมชาติไปทำกระทงเองส่วนใหญ่บอกว่า อยากทำกระทงเอง เพราะรู้สึกภูมิใจ เพื่อนำไปขอขมาพระแม่คงคาตามประเพณีที่มีมาช้านาน และเป็นการใช้วัสดุธรรมชาติที่ย่อยสลายเองได้ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม


ลอยกระทงกะลา แห่งเดียวใน จ.เลย

ส่วนที่วัดป่าสามัคคีธรรม บ้านห้วยทรายคำ ต.นาแขม อ.เมือง  จ.เลย เมื่อคืนที่ผ่านมา มีการจัดงาน “ลอยกระทงลอยเคราะห์ เนาะคนไทเลย” เป็นการลอยกระทงที่ทำจากกะลามะพร้าวเพียงแห่งเดียวของ จ.เลย เกิดจากแนวคิดของพระอธิการเอกสิทธิ์ กิตติคุตโต เจ้าอาวาสวัดป่าสามัคคีธรรม ที่เห็นว่าเศษกะลามะพร้าวน่าจะใช้ประโยชน์ได้ จึงได้ชักชวนชาวบ้านมาร่วมกันทำกระทงกะลา ลอยในแบบวิถีพุทธ กระทงกะลาทุกกระทงจะได้รับการเจริญพระพุทธมนต์ก่อนที่จะนำไปลอย โดย 1 กระทง มีค่าเท่ากับอายุคน 12 ปี หรือ 1 รอบ ผู้ที่จะลอยต้องใช้กระทงกะลานับตามจำนวนอายุ ซึ่งถือเป็นการเสริมศิริมงคลแก่ชีวิต ต่อชะตาอายุไปด้วย และยังเป็นการลดขยะจากเศษวัสดุทำกระทง ลดมลภาวะทางน้ำ ขณะเดียวกันยังเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชุมชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ได้มารวมตัวเตรียมงาน

ส่วนสถานที่การจัดงานก็ประดับประดาอย่างสวยงาม โดยเฉพาะอุโมงค์ดาวหลากสี ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจกันทำ ระยะทาง 100 เมตร เป็นทางเดินไปสู่ท่าน้ำลอยกระทง นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการประกวดนางนพมาศ การแสดงศิลปวัฒนธรรมของชาวบ้านห้วยทรายคำด้วย โดยกำหนดจัดระหว่างวันที่ 10-11 พฤศจิกายน 2562

ระยองจัดงานสืบสานประเพณีลอยกระทง

สำหรับที่ จ.ระยอง บริเวณริมฝั่งแม่น้ำระยอง ถนนอดุลยธรรมประพาส ข้างสวนศรีเมือง เทศบาลนครระยอง ร่วมกับหอการค้าระยองและ ททท.สำนักงานระยอง จัดงานสืบสานประเพณีลอยกระทงขึ้น ประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมงานกันอย่างคึกคัก ในงานมีกิจกรรมมากมาย ทั้งการประกวดธิดานพมาศ เวทีการแสดงของสถานศึกษาต่างๆ ของสังกัดเทศบาลนครระยอง ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ถึงแม้จะยังไม่ถึงคืนเพ็ญเดือน 12 วันลอยกระทงก็ตาม แต่มีประชาชนและหนุ่มสาวควงคู่ไปลอยกระทงกันจำนวนมาก ชมการละเล่นต่างๆ ตลอดจนเลือกหาของกินที่นำมาเปิดบูธขายกันมากกว่า 100 บูธ

เพชรบูรณ์ลอยกระทงรอบโบสถ์บนเนินเขา

งานลอยกระทงรอบโบสถ์ที่สร้างอยู่บนเนินเขา ของวัดบรรพตาราม หรือวัดใต้ ต.ซับสมอทอด อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ เริ่มขึ้นแล้วเป็นคืนแรก โดยวัดจัดให้มีการลอยกระทงกันรอบพระอุโบสถที่สร้างอยู่บนเนินเขา นอกจากจะแปลกและสร้างสีสันให้สวยงามตื่นตาตื่นใจแล้ว ยังสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมความสวยงาม ทำให้มีผู้สนใจเดินทางมาลอยกระทงชมความสวยงามกันมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการจัดประกวดหนูน้อยนพมาศอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา การแสดงรำวงแบบย้อยยุค เพื่อสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงาม

การลอยกระทงรอบพระอุโบสถนี้ นอกจากจะช่วยลดมลภาวะไม่ทำให้แม่น้ำลำคลองเน่าเสียแล้ว ยังง่ายต่อการเก็บทำลาย และเป็นที่ชื่นชอบ สร้างสีสันไม่แพ้การลอยกระทงในแม่น้ำลำคลองอีกด้วย รวมทั้งเป็นช่วงที่เข้าสู่ฤดูหนาว ทำให้มีบรรดานักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาสัมผัสกับอากาศที่เริ่มจะหนาวเย็นตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของ จ.เพชรบูรณ์ ถือโอกาสมาร่วมลอยกระทงรอบโบสถ์ด้วย

ตร.เตรียมพร้อมดูแลความเรียบร้อยลอยกระทง กทม.

ส่วนที่ กทม. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิด “พิธีปล่อยแถวแสดงความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว เนื่องในเทศกาลลอยกระทง พ.ศ.2562” ลงเรือตรวจความเรียบร้อยที่ท่าเรือใต้สะพานพระราม 8 จากนั้นเดินทางโดยเรือ เพื่อตรวจความพร้อมในการจัดงานตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยา และไปขึ้นบกที่ท่าเรือ ณ ศูนย์การค้าเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์  เพื่อฟังบรรยายสรุปสถานการณ์และเดินตรวจความพร้อมจัดงาน โดยการสั่งการตำรวจท่องเที่ยว, กองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 เตรียมความพร้อมในทุกมิติ เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ออกตรวจตราเฝ้าระวังบุคคลต้องสงสัยบุคคลพ้นโทษและเยาวชนกลุ่มเสี่ยง และพร้อมอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ แก่นักท่องเที่ยว และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนร่วมดูแลและป้องกันปัญหาอาชญากรรม และอันตรายที่เกิดจากการเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด และโคมลอย

สำหรับมาตรการดูแลความปลอดภัยงานประเพณีลอยกระทงของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 3 ห้าม 3 ไม่ 3 ควร ดังนี้ 3 ห้าม 1.ห้ามเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด โคมลอยในลักษณะสร้างความเดือดร้อนรำคาญหรืออาจเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งมีโทษฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท 2.ห้ามยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันควร มีโทษทั้งจำทั้งปรับ 3.ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางในขณะขับขี่หรือโดยสารหรือบนรถ ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาตรา 42 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

3 ไม่คือ 1.ไม่ควรแต่งกายล่อแหลมต่อมิจฉาชีพ 2.ไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเที่ยวงานตามลำพัง 3.ไม่ควรไปเที่ยวในสถานอโคจรมั่วสุม 

3 ควร คือ 1.ควรระมัดระวังการใช้บริการโป๊ะ ท่าเทียบเรือโดยเฉพาะในที่ที่มีคนจำนวนมาก 2.ควรกำชับบุตรหลานให้ระมัดระวังการถูกล่อลวงไปในทางมิชอบ 3.ควรรื่นเริงบนพื้นฐานของการสืบสานประเพณีไทย 

สิ่งสำคัญคือหากประชาชนและนักท่องเที่ยวพบเห็นเหตุสิ่งของหรือบุคคลต้องสงสัยที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายและเป็นอันตรายสามารถแจ้งข้อมูลมายังสายต่วน 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]