โผล่อีก! เหยื่อถูกล่อซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูน”วันพีช” รีดเงิน 3 หมื่น

กรุงเทพฯ 10 พ.ย.- เหยื่อถูกล่อซื้อลิขสิทธิ์โผล่อีก หลังถูก ชายอ้างเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ซึ่งเป็นคนเดียวกับ ล่อซื้อกระทงเด็ก 15 ที่โคราช ล่อซื้อ ถุงใส่แก้วน้ำลายการ์ตูนวันพีช และกรรโชกทรัพย์ 3 หมื่นบาท 


นางสาวพรมหอม หลวงทิลาด อายุ 31 ปี สัญชาติลาว ผู้เสียหายซึ่งเคยถูกจับกุมในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น เข้าแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สน.พญาไท หลังถูกนายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ หรือนายนัน กิ่งเพชร ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ปราบปรามทรัพย์สินทางปัญญา ของบริษัท นิว สตาร์ มีเดีย จำกัด จับกุมและข่มขู่กรรโชกทรัพย์ ไปจำนวน 30,000 บาท หลังถูกล่อซื้อถุงใส่แก้วน้ำลายการ์ตูนเรื่องวันพีช จำนวน 10 ชุด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2561 

นางสาวพรมหอม กล่าวว่า ช่วงประมาณวันที่ 12 สิงหาคม 2561 ตนได้โพสต์ภาพแก้วเก็บความเย็นลายลิขสิทธิ์วันพีช ที่พี่มอบให้เป็นของขวัญวันเกิด จากนั้น 1-2 วัน มีผู้ใช้เฟซบุ๊กใช้รูปโปรไฟล์ขายเครื่องสำอางทักข้อความติดต่อขอซื้อ โดยระบุว่าต้องการลายการ์ตูนเรื่องวันพีช จำนวน 10 ชุด พร้อมโอนเงินมัดจำมา 500 บาท แต่ตอนนั้นยังไม่มีของเพราะไม่ได้ขายเป็นอาชีพ ทำเป็นรายได้เสริมเท่านั้น จึงติดต่อไปว่าจะขอโอนเงินคืน แต่ทางผู้ล่อซื้อต้องการสินค้า ญาติพยายามช่วยหาจนพบลายการ์ตูนเรื่องวันพีช ซึ่งลายที่ได้เป็นลายการ์ตูนตัวละคร “ลูฟี่” แต่เป็นคนละลายกับที่โพสต์ไว้ จึงได้ถ่ายภาพส่งไปให้ ก่อนจะนัดส่งมอบกัน โดยครั้งแรกนัดส่งมอบวันที่ 14 สิงหาคม 2561 ช่วงบ่าย แต่ทางนั้นขอเลื่อนนัดส่งมอบเป็นช่วงเช้าวันที่ 15 สิงหาคม 2561 โดยนัดส่งมอบกันที่อาคารใกล้เคียง บีทีเอสพญาไท ตนจึงว่าจ้างวิน จยย.มาส่งของ ก่อนจะถูกจับกุม โดยวิน จยย.ได้ติดต่อมาหาตนพร้อมบอกว่าถูกล่อซื้อ สำหรับของที่ถูกล่อซื้อเป็นแก้วเก็บความเย็นลายคิตตี้ ถุงใส่แก้วลายละครเรื่องวันพีช จำนวน 10 ชุด ราคาชุดละ 390 บาท โดยผู้ซื้อได้โอนมัดจำ 500 บาท ก่อนในวันจับกุมจะเอาเงินมาให้ 1000 บาท พร้อมยึดแก้วและถุงใส่แก้วเป็นของกลาง 


นางสาวพรมหอม กล่าวต่อว่า จากนั้นจึงเดินทางมาที่ สน.พญาไท พบนายนัน บุคคลที่เป็นข่าวล่อซื้อกระทงลายลิขสิทธิ์เด็ก 15 ปี ในพื้นที่จ.นครราชสีมา ได้พูดคุย โดยนายนันได้ให้เอกสารกระดาษ A4 เป็นปึกหนาๆ พร้อมอ้างเป็นตัวแทนบริษัท แต่ไม่ยินยอมให้ตนถ่ายภาพเก็บไว้ พร้อมเรียกเงินค่าลิขสิทธิ์จำนวน 60,000 บาท ก่อนพูดข่มขู่โดยอ้างกฎหมายว่าจะต้องอยู่ในห้องขังและจะติดคุก 5-6 เดือน หากไม่นำเงินมาจ่าย และจะต้องโดนยึดหนังสือเดินทาง แต่ตนไม่มีเงินจ่ายจริงๆ เพราะติดต่อญาติไม่ได้ ต่อรองขอจ่าย 10,000 บาท ก่อนที่นายนันและพวกจะพาตนไปพูดคุยด้านข้างสน.พญาไท โดยได้มีการพยายามพูดคุยต่อรองจนตนต้องจ่ายเงินจำนวน 30,000 บาท โดยได้มีการจ่ายเงินต่อหน้าพนักงานสอบสวนและได้มีการลงบันทึกไว้ ก่อนจะถอนแจ้งความนายนันให้ตนลบข้อมูลการติดต่อซื้อขาย รวมถึงภาพต่างๆ ออกจนหมดถึงจะยอมถอนแจ้งความ ทั้งนี้ขั้นตอนการเจรจาค่าลิขสิทธิ์ทางตำรวจไม่ได้เกี่ยวข้องให้ตนและนายนันไปพูดคุยตกลงกันเอง 

นางสาวพรมหอม กล่าวอีกว่า ตอนนั้นตนคิดว่าจ่ายเงินแล้วเรื่องจะได้จบ เพราะอีกฝ่ายพยายามอ้างข้อกฎหมายมาข่มขู่ กระทั่งเห็นภาพข่าวเคสน้องวัย 15 ปี ที่โดนล่อซื้อ จึงคิดว่าตนจะโดนเหมือนกันกับน้อง 15 ปี ที่โคราช หรือไม่ เพราะจำได้ว่านายนัน เป็นบุคคลที่เคยเรียกเงินกับตน จึงปรึกษากับหลายๆ คน แนะนำให้เข้าแจ้งความในวันนี้ 

ด้านตำรวจ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้ และรับเป็นคดีความในส่วนที่ผู้เสียหายร้องทุกข์ไว้ในข้อหากรรโชกทรัพย์ ส่วนข้อหาที่ผู้เสียหายอยากแจ้งเพิ่มเติมว่าถูกข่มขู่ด้วยนั้น จะมีการนัดมาสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว

เครื่องบินตกอะแลสกา

หน่วยยามฝั่งสหรัฐ พบเครื่องบินที่สูญหายในรัฐอะแลสกา-พบศพแล้ว 3

หน่วยยามฝั่งสหรัฐในรัฐอะแลสกาพบซากเครื่องบินเล็กที่ลดระดับความสูงอย่างกะทันหันและสูญหายไปเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ขณะนี้สามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้แล้ว 3 ราย จากจำนวนผู้ที่อยู่บนเครื่องทั้งหมด 10 คน