เปิดหลักฐานโจมตี ชรบ. เสียชีวิต 15 คน

ยะลา 8 พ.ย. – เหตุการณ์โจมตี ชรบ. เสียชีวิต 15 ศพ เป็นการก่อเหตุของกลุ่มบีอาร์เอ็นที่เคลื่อนไหวในพื้นที่รอยต่อ จ.ปัตตานี และสงขลา นอกจากนี้ยังพบว่า มีกลุ่มบีอาร์เอ็นที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.บันนังสตา อ.ยะหา อ.กาบัง จ.ยะลา มาร่วมก่อเหตุด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์ทราบจากหลักฐานที่คนร้ายทิ้งไว้มากมาย 


สภาพป้อมจุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านทางลุ่ม ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา เป็นรูพรุนด้วยแรงของอาวุธสงครามที่กลุ่มก่อความไม่สงบบีอาร์เอ็น ใช้โจมตี ชรบ.ที่ประจำป้อมแห่งนี้ จนเสียชีวิต 15 ราย


การเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทำให้ระบุถึงอาวุธที่กลุ่มคนร้ายใช้ และเชื่อมโยงได้ว่า กลุ่มไหนบ้างที่มาร่วมก่อเหตุอุกอาจในครั้งนี้ รวมถึงเส้นทางหลบหนี กลุ่มคนร้ายบุกเข้ามาทางตะวันตกเฉียงเหนือของป้อมจุดตรวจ อาวุธที่ใช้ เท่าที่เก็บพยานหลักฐานได้ มีปืนยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. ยิงปะทะเข้ากับแนวผนังบังเกอร์ แตกเป็นสะเก็ดเล็กๆ แล้วใช้ปืนอาก้าและเอ็ม 16 ระดมยิงเข้าไปในป้อมจุดตรวจ พบปลอกกระสุนตกเกลื่อนกว่า 100 ปลอก พวกเขายังใช้ระเบิดแสวงเครื่องโจมตีอีกด้วย ซึ่งเทียบกับอาวุธของ ชรบ.นั้นแตกต่างกันมาก มีเพียงปืนลูกซอง ปืนพกสั้น และเอ็ม 16 เพียงกระบอกเดียว จึงไม่มีทางที่จะสู้ได้ แต่การยิงตอบโต้ของนายสุนทร ยอดแก้ว ที่ยิงเอ็ม 16 ต่อสู้จนกระสุนหมด คาดว่าทำให้คนร้ายบาดเจ็บด้วย จากการที่เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดตามเส้นทางหลบหนีขึ้นเขานางจันทร์ รอยต่อจังหวัดยะลา-สงขลา


การตรวจปลอกกระสุน หัวกระสุน ทำให้พบว่า กลุ่มก่อเหตุเป็นกลุ่มของนายบูคอรี หลำโซ๊ะ และนายมะยาโก๊ะ ลาเต๊ะ ซึ่งเคลื่อนไหวก่อเหตุในพื้นที่รอยต่อปัตตานี-สงขลา คือ ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และ อ.สะบ้าย้อย อ.เทพา จ.สงขลา บีอาร์เอ็นกลุ่มนี้ค่อนข้างโหด เป้าหมายก่อเหตุทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2547 เฉพาะปีนี้ก่อเหตุร้ายแรงไว้ค่อนข้างมาก

นับตั้งแต่มกราคม 2562 เป็นต้นมา กลุ่มบีอาร์เอ็นที่ก่อการในเขตพื้นที่รอยต่อจังหวัดปัตตานี-สงขลา ได้ก่อเหตุอุกอาจมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากการบุกกราดยิงหน้าสถานีตำรวจภูธรนาประดู่ ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย

ก่อนหน้านั้น 5 วัน พวกเขาเพิ่งก่อเหตุฆ่าครูเกษียณราชการ ชิงรถไปทำคาร์บอมบ์ ในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา 

4 สิงหาคม 2562 วางระเบิดตู้ ATM ธนาคารอิสลาม หน้ามหาวิทยาลัยฟาฏอนี จ.ปัตตานี โดยจับ รปภ.มัดไว้

23 กรกฎาคม 2562 โจมตีชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) ปะกาฮะรัง จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 4 นาย

24 สิงหาคม 2562 ปล้นร้านทองที่ อ.นาทวี ได้ทองรูปพรรณ มูลค่ากว่า 85 ล้านบาท

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า คนร้ายทิ้งหลักฐานไว้เยอะมาก หลักฐานที่เก็บได้ ทำให้เห็นว่า ในจุดที่โจมตี คนร้ายใช้ปืนถึง 25 กระบอก พบเป็นปืนที่ปล้นจากเจ้าหน้าที่ 7 กระบอก นอกจากนี้ พยานหลักฐานยังชี้ให้เห็นว่า การก่อเหตุโจมตี ชรบ. เสียชีวิต 15 ศพ มีกลุ่มบีอาร์เอ็นที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.บันนังสตา อ.ยะหา อ.กาบัง จ.ยะลา มาร่วมก่อเหตุด้วย จากหลักฐานดีเอ็นเอที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ ซึ่งตรงกับเหตุการณ์วางระเบิด เผาสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.กาบัง เมื่อสิงหาคม 2561

หลักฐานอันมากมาย ยังทำให้เห็นว่า คนร้ายที่เข้าโจมตีมีไม่น้อยกว่า 12 คน มีกลุ่มแนวร่วมสนับสนุน คอยดูต้นทาง ตัดต้นไม้ขวางทาง โรยตะปูเรือใบ วางระเบิดเส้นทางหนี อีก 40-50 คน ซึ่งตอนนี้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นฝ่ายสนับสนุนวางระเบิด โรยตะปูเรือใบได้ 1 คน ขณะหลบหนีไป อ.ธารโต แต่ยังปฏิเสธ และเจ้าหน้าที่กำลังติดตามกลุ่มแนวร่วม 21 ราย ในเครือข่ายนายบูคอรี หลำโซ๊ะ ซึ่งหลังก่อเหตุมักหลบหนีกบดานตามป่าเขา จนเมื่อเหตุการณ์เริ่มซา จึงจะกลับมาใช้ชีวิตในหมู่บ้าน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

missile seen in Tel Aviv with indicated circle

อิหร่านระดมยิงจรวดใส่ 2 เมืองใหญ่ของอิสราเอล

เตหะราน 14 มิ.ย. – อิหร่านระดมยิงจรวดไปยังกรุงเทลอาวีฟ และเมืองเยรูซาเลม ซึ่งเป็น 2 เมืองใหญ่ที่สุดของอิสราเอล เมื่อคืนวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อตอบโต้ที่ถูกอิสราเอลใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยใช้กับอิหร่าน ทางการขอให้ประชาชนหาที่หลบภัย ในขณะที่เสียงเตือนภัยทางอากาศดังทั่วอิสราเอล กองทัพอิสราเอลแจ้งว่า อิหร่านระดมยิงขีปนาวุธไม่ถึง 100 ลูก และส่วนใหญ่ถูกอิสราเอลยิงตก เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยว่า กองทัพสหรัฐได้ช่วยยิงสกัดขีปนาวุธที่มุ่งหน้าไปยังอิสราเอล มีรายงานว่า เศษขีปนาวุธทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คน บาดเจ็บปานกลาง 8 คน และบาดเจ็บเล็กน้อย 34 คน อาคารหลายหลังในกรุงเทลอาวีฟเสียหาย ด้านสำนักข่าวอีร์นา (IRNA) ของทางการอิหร่านรายงานว่า อิหร่านระดมยิงขีปนาวุธทิ้งตัวหลายร้อยลูกไปยังอิสราเอล หลังจากอิสราเอลถล่มที่ตั้งนิวเคลียร์ใต้ดินในเมืองนาทันซ์ และสังหารผู้บัญชาการทหารหลายนายในวันเดียวกัน ทั้งนี้ชาติตะวันตกกล่าวหาอิหร่านมานานแล้วว่า เสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมที่โรงงานแห่งนี้ให้สามารถนำไปผลิตระเบิดนิวเคลียร์มากกว่าใช้งานทางพลเรือน แต่อิหร่านปฏิเสธ นายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการทบวงการงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอ (IAEA) ชี้แจงต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) ว่า โรงงานเสริมสมรรถนะนำร่องที่อยู่บนพื้นดินเสียหายทั้งหมด และกำลังรวบรวมข้อมูลความเสียหายที่โรงงานอีก 2 แห่งที่ถูกอิสราเอลถล่มประกอบด้วยโรงงานเสริมสมรรถนะเชื้อเพลิงฟอร์โดว์ในเมืองกอม และศูนย์วิจัยเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่เมืองอิสฟาฮาน นายอยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี […]

ประชุม JBC

จับตาประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” คลายปมร้อนชายแดน

14 มิ.ย. – จับตาการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” เจรจาลดความตึงเครียดชายแดน โดยฝ่ายไทยเดินทางถึงกรุงพนมเปญแล้ว มุ่งใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ขณะที่ “ภูมิธรรม” หวังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและมีข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย พร้อมคณะฝ่ายไทยเดินทางถึงกรุงพนมเปญ เพื่อเข้าร่วมการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 โดยมีนาย Khum Ponnaban อธิบดีกรม Technique of Border Affairs General Department หน่วยงาน State Secretariat of Border Affairs (เทียบเท่ากระทรวง) ของกัมพูชา ให้การต้อนรับที่ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงพนมเปญ นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หวังการประชุม JBC จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและมีข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อความเป็นมิตรและการรักษาประโยชน์ร่วมของไทยและกัมพูชาให้กลับมาสู่ภาวะปกติ .-สำนักข่าวไทย

เตือนไทยตอนบนฝนตกหนัก-พายุหวู่ติบ ขึ้นฝั่งจีนวันนี้

กทม. 14 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนลดลง ขณะที่พายุ “หวู่ติบ” ขึ้นฝั่งจีนวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “หวู่ติบ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในวันนี้ (14 มิ.ย. 68) โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]