กทม.-8 พ.ย.- ตำรวจตั้ง 4 ข้อหาหนุ่มเหี้ยมแทงอดีตแฟนสาวนักศึกษาเสียชีวิตหลังง้อขอคืนดีไม่สำเร็จและแม่ฝ่ายหญิงที่เข้าห้ามปรามก็ถูกแทงตาย ส่วนพ่อและพี่ชายเข้าจับผู้ก่อเหตุถูกแทงบาดเจ็บ
พันตำรวจเอกอภิรัฐ พุ่มกุมาร ผู้กำกับการ สน.บางมด เปิดเผยความคืบหน้าคดีหนุ่มวัยรุ่นบุกเข้าไปง้อแฟนสาวภายในบ้านพักแต่ไม่สำเร็จ ก่อนใช้มีดแทงแฟนสาวและมารดาเสียชีวิต 2 คน ขณะที่บิดาและพี่ชายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในอาคารพาณิชย์ย่านจอมทอง เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาว่า จากการสอบปากคำนายภฤศนันท์ หรือไอโฟน สุขสำราญ อายุ 21 ปี ผู้ก่อเหตุ รับสารภาพว่า แอบเข้าไปในอาคารที่เกิดเหตุ บริเวณประตูด้านหลังก่อนขึ้นไปชั้นที่ 2 ซึ่ง น.ส.ปุณพร ธนูธรณ์ อายุ 19 ปีนักศึกษา ชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ผู้เสียชีวิตพักอยู่ตั้งแต่เวลาประมาณ 03.00 น. และพยายามง้อขอคืนดีแต่ไม่สำเร็จ แล้วได้แย่งโทรศัพท์มือถือของผู้ตายมาดู พบข้อความบางอย่างทำให้บันดาลโทสะ ใช้มีดที่เตรียมมาแทงผู้ตายจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะเกิดเหตุมารดาผู้ตาย ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือพยายามเข้ามาห้ามปรามจนถูกแทงเสียชีวิตอีก 1 คน กระทั่งบิดาและพี่ชาย เข้ามาช่วยก็ถูกแทงได้รับบาดเจ็บทั้งสองคนก่อนจะสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้และเรียกตำรวจให้มาควบคุมตัว และส่งรักษาอาการบาดเจ็บ ที่ รพ.บางมด ล่าสุด พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหานายภฤศนันท์ หรือไอโฟนรวม 4 ข้อหา ประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่น, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ, บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน และพกพาอาวุธมีด ไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ
วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 2 คูหา เปิดเป็นโรงงานผลิตรองเท้า โดยญาติผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ยังคงอยู่ในอาการเศร้าเสียใจ
นายบุญหลาย หาสอน น้าชายของนักศึกษาสาวที่เสียชีวิตพาทีมข่าวสำรวจด้านหลังของอาคารซึ่งคาดว่าคนร้ายใช้เป็นช่องทางปีนเข้าที่พัก พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุตนพักอาศัยอยู่ชั้น 4 ได้ยิน เสียงร้องขอความช่วยเหลือจากชั้น 2 จึงวิ่งลงมาดูพบพี่สาวนอนหายใจรวยรินอยู่หน้าห้องนอน สภาพเลือดท่วมตัว ขณะที่ภายในห้องหลานสาว ก็มีเลือดท่วมตัวอาการร่อแร่เช่นกัน ส่วนบิดาและพี่ชายของหลานสาว กำลังปล้ำจับผู้ก่อเหตุ ที่ยังถือมีดอยู่ในมือและส่งเสียงร้อง เหมือนคนคุมสติไม่อยู่ ก่อนจะรีบโทร.แจ้งตำรวจและหน่วยกู้ชีพให้มาช่วยเหลือ ยอมรับ เคยเห็นผู้ต้องหามาคอยรับส่งหลานสาว โดยทั้งสองคนคบกันประมาณ 5-6 เดือน ก่อนหายหน้าไป 2-3 เดือน และว่าพ่อแม่ฝ่ายหญิงมาสนับสนุนการคบหากันของทั้งคู่เพราะยังอยู่ในวัยเรียน กระทั่งทราบว่า หลานสาวเลิกกับผู้ก่อเหตุแล้วแต่ยังถูกตามตื๊อไม่เลิกรา และไม่คิดว่าจะกลายเป็น ชนวนเหตุให้เกิดเรื่องเศร้าสลดเช่นนี้
ล่าสุดตึกที่เกิดเหตุ ญาติพี่น้องได้ช่วยกันเก็บล้างทำความสะอาดทั้งบริเวณชั้น 2 และชั้นลอย ซึ่งมีคราบเลือดจำนวนมาก ขณะที่เพื่อนบ้าน ที่เกิดเหตุต่างจับกลุ่มวิจารณ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นและสงสารครอบครัวของผู้เสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย
