พม.เตรียมจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด อีก 2 แสนราย

พม.7 พ.ย.-รมว.พม.เผยเตรียมจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดอีก 2 แสนราย เร่งตรวจหลักฐานสิทธิตกค้าง ย้ำไม่นิ่งนอนใจแต่ทุกอย่างมีระเบียบขั้นตอนราชการ


นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงฯถึงกรณีโครงการเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด ว่า ในที่ประชุมมีความเป็นห่วงเรื่องปัญหาการจ่ายเงินล่าช้า โดยขณะนี้ประมาณร้อยละ 60 ของผู้ได้รับสิทธิได้มีการจ่ายไปแล้ว และจะมีการจ่ายเพิ่มเติมภายในสัปดาห์หน้าอีกประมาณ 200,000 ราย 


ส่วนผู้ยังไม่ได้รับเงิน เนื่องจากข้อมูลที่คลาดเคลื่อนมีประมาณเกือบแสนราย เช่น เลขบัตรประชาชนไม่ตรง เลขบัญชีผู้รับโอนโดนปิด เลขบัญชีไม่ถูกต้อง เป็นต้น นั้น ต้องให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (สนง.พมจ.) ไปติดตามหาเจ้าของสิทธิในจังหวัดต่างๆ เช่น ใน จ.นครราชสีมา มีผู้ที่มีปัญหาประมาณ 9,000 ราย บางรายใช้โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่จะต้องลงพื้นที่ไปติดต่อด้วยตนเอง จึงทำให้เกิดความล่าช้า


นายจุติ กล่าวต่อไปว่า ตนได้สั่งการปรับระเบียบขั้นตอนในการลงทะเบียนขอรับสิทธิให้สั้นลง ในส่วนข้อมูลที่ต้องจัดเก็บตามระเบียบราชการ จำเป็นต้องมีความเข้มงวดเพื่อป้องกันการทุจริต ปัจจุบันการกรอกข้อมูลนับตั้งแต่วันที่เด็กเกิด จนถึงวันที่จะได้รับเงินอยู่ระหว่าง 7-12 สัปดาห์ โดยกระทรวงได้ขอปรับลดลงมา เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินการมากขึ้น ซึ่งกระทรวงไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามจะเอาเงินเหล่านี้จ่ายให้ถึงผู้ที่มีสิทธิได้เร็วที่สุด แต่ทุกอย่างมีระเบียบขั้นตอนของทางราชการ 

นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนกรณีผู้ที่ยังไม่ได้รับเงิน ขณะนี้มีสิ่งที่ต้องทำพร้อมกัน 2 เรื่อง คือเรื่องข้อมูลเกือบ 1แสนรายที่มีปัญหาในเรื่องของบัญชี นอกจากนี้มีข้อมูลเรื่องประวัติที่ไม่ตรง และในส่วนของข้อมูลเด็กเกิดใหม่ทุกเดือน เดือนละ 30,000 ราย ขณะเดียวกันโครงการนี้เดิมทีจะรับเด็กแรกเกิดจำนวนน้อย และภายหลังมาขยายสิทธิให้ทำให้ผู้มีสิทธิ มีปริมาณเพิ่มขึ้น 6 เท่าตัว การปรับระบบข้อมูลและระบบการทำงานต้องใช้เวลาพอสมควร โดยคาดว่า พมจ. จะทำข้อมูลให้แล้วเสร็จ ประมาณวันที่ 15 พ.ย.นี้ และประชาชนสามารถตรวจสอบสิทธิได้ที่ พมจ. ทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง