fbpx

‘อนุทิน’ รับโครงการรับยาร้านขายยา ยังเข้าร่วมน้อย

สธ.6 พ.ย.-‘อนุทิน’ รับ ประชาชน และร้านยา ร่วมโครงการรับยาที่ร้านยาลดความแอดอัดยังน้อยอยู่ เพราะอยู่ในช่วงทดลอง แค่ 1 เดือน 


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  กล่าวถึงโครงการลดความแออัดของหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือการให้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองใน 4 กลุ่มโรคหลัก ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง จิตเวช และหอบหืด ว่า โครงการนี้เพิ่งเริ่มดำเนินการได้ 1 เดือนยังเป็นลักษณะของการทดลองว่าจะเกิดผลดีหรือผลเสียต่อการให้บริการประชาชน 


อย่างไรก็ตามนโยบายที่ให้ไป  คือต้องการให้เกิดการกระจายการรับยาไปยังร้านขายยารายย่อยในพื้นที่ ไม่ให้กระจุกตัวอยู่เฉพาะร้านขนาดใหญ่ที่มีหลายๆ สาขาเท่านั้น และเชื่อว่าจะมีโรงพยาบาลและร้านขายยาในพื้นที่ต่าง ๆ เข้าร่วมโครงการนี้มากขึ้นในอนาคต เพราะเป็นโครงการที่ดี เป็นช่องทางหนึ่งของการเพิ่มรายได้ร้านขายยา ขณะที่ประชาชนได้รับความสะดวก โรงพยาบาลลดความแออัดและรัฐไม่ได้ใช้งบประมาณเพิ่มจำนวนมากมาย  


นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า จากการดำเนินโครงการลดความแออัดในโรงพยาบาล โดยใช้กลไกร้านยา ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มีโรงพยาบาลทั่วประเทศ เข้าร่วมแล้วจำนวน 45 แห่ง เป็นโรงพยาบาลชุมชน 5 แห่ง โรงพยาบาลทั่วไป(รพท.)9 แห่ง โรงพยาบาลศูนย์ (รพศ.) 23 แห่ง โรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ 3 แห่ง โรงพยาบาลสังกัดกรมสุขภาพจิต 3 แห่ง และโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ 2 แห่ง

สำหรับร้านยาแผนปัจจุบันประเภท ขย.1 คือร้านขายยาที่มีเภสัชกรอยู่ประจำร้านที่เข้าร่วมโครงการแล้ว จำนวน 403 แห่ง แยกเป็นร้านยาเดี่ยว(Stand-alone store) 345 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 85.61 และร้านยาที่มีหลายสาขา(Chain store) 58 แห่ง คิดเป็น ร้อยละ 14.39   

ขณะที่ ในส่วนของผู้ป่วย มีผู้ที่แสดงความจำนงขอเข้าร่วมโครงการฯ    เพื่อรับยาที่ร้านยาแล้วประมาณ 40,000 คน แต่ในส่วนของจำนวนการเบิกค่าใช้จ่ายค่าบริการที่ร้านยายังมีไม่มากจำนวน 376 คน เนื่องจากยังเป็นช่วงเริ่มต้นโครงการ.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย