กรุงเทพฯ 6 พ.ย.- ตม.รวบหนุ่มไทยและต่างด้าว เปิดเว็บไซต์โชว์หุ่นหล่อล่ำ รับบริการนวดสปาและมั่วสุมเสพยาเสพติด
พลตำรวจตรีอิทธิพล อิทธิสารรณชัย รองผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลจับกุมหนุ่มต่างด้าวหล่อล่ำลักลอบนวดสปาหาลูกค้าออนไลน์แสดงมั่วสุมและเสพยาเสพติด โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาเป็นสัญชาติพม่า กัมพูชา และคนไทยรวมเก้าคน ภายในสถานบริการแห่งหนึ่งในซอยสวนพลู ถนนสาทร เมื่อวานที่ผ่านมา (5 พ.ย.)
สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหาคือเปิดบริการสถานบริการร้านสปาสำหรับผู้ชายโดยมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ร้านผ่านสื่อออนไลน์และช่องทางต่างๆเพื่อให้ลูกค้านัดหมายเวลาเข้าใช้บริการ ด้วยแผนการประชาสัมพันธ์จะมีการลงรูปถ่ายของพนักงานซึ่งเป็นหนุ่มหล่อ หน้าตาดี กว่า 60 คน เปลือยท่อนบน หรือบางคนสวมเพียงกางเกงใน ผ่านใบโฆษณา ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ
จากการสืบสวนของตำรวจพบว่าหนุ่มหล่อเกือบทั้งหมด. ถูกคัดเลือกรูปร่างหน้าตาเพื่อใช้เป็นการดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะมีทั้งชายและหญิง ทั้งต่างชาติและคนไทย โดยมีการจัดห้องไว้บริการอย่างหรูหราและเป็นส่วนตัว ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจึงนำกำลังเข้าจับกุม พนักงานชายกว่า 20 คน ในจำนวนนี้สามารถจับกุมดำเนินคดีได้จำนวน 9 คน ประกอบด้วยผู้ต้องหาชาวเมียนมา และกัมพูชา ทั้งหมดถูกดำเนินคดีฐานเป็นคนต่างด่าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตและ โอเวอร์สเตย์. ส่วนผู้ต้องหาชาวไทยอีกสองคนถูกดำเนินคดีฐานเสพสารเสพติด
ส่วนคดีที่ 2 เป็นการจับกุมสาวไทย เครือข่ายแก๊งหลอกลวงทำธุรกรรมออนไลน์โอนเงินข้ามชาติ 1 คน หลังพบพฤติกรรมเป็นหนึ่งในสมาชิกแก๊งหลอกโอนเงินข้ามชาติ หลังได้รับการประสานจากผู้เสียหายรายหนึ่ง ว่า ได้รับจดหมายเตือนว่าข้อมูลธนาคารและแอพพลิเคชั่นพิเคชั่น บัญชีหมายเลขธนาคารถูกบุคคลไม่ทราบกลุ่มเข้าไปใช้งานและขอให้ผู้เสียหายทำการเปลี่ยนรหัสผ่านโดยการกดลิงค์ แอดเดรสที่แนบมาพร้อมกรอกข้อมูลทั้งหมายเลขบัตรเครดิต รหัสผ่านสำหรับกดเงินสด รวมถึงหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลักและรหัสรับการทำทุรกรรม เบิกถอนเงิน กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อทำตามแต่หลังจากนั้นจะพบว่าเงินสดในบัญชีรวมห้าบัญชี ถูกโอนไปยังบัญชีปลายทางในประเทศมาเลเซีย 1 ล้านบาท ก่อนถูกถอนออกไป
จากการตรวจสอบพบว่าแก๊งนี้ มีผู้ต้องหาทั้งหมด 6 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ สามารถจับกุมได้แล้วจำนวนสามราย และออกหมายจับสามรายโดยหญิงสาวคนไทยรายนี้ซึ่งถูกจับกุมได้ล่าสุดถือเป็นผู้ต้องหาคนที่ 4 เหลือผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 2 ราย .-สำนักข่าวไทย
