นครราชสีมา 5 พ.ย.-ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ปัดมีส่วนได้ส่วนเสียกับตัวแทนอ้างจับลิขสิทธิ์กระทงเด็ก 15 ปี เตรียมตรวจสอบเอกสารมอบอำนาจให้ชัดเจน หลังบริษัทเอกชนปฏิเสธไม่รู้เห็นกับผู้อ้างจับลิขสิทธิ์รายนี้
ความคืบหน้ากรณีการล่อซื้อจับกุมกระทงละเมิดลิขสิทธิ์ของ “น้องเอ” (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นักศึกษา ปวช.วิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งในนครราชสีมา สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับคนในสังคม โดยชายคนดังกล่าว อ้างว่าเป็นตัวแทนบริษัทเอกชน ได้เรียกเงิน 50,000 บาทจากนักศึกษาคนนี้ พร้อมขู่ว่าหากไม่จ่ายจะถูกจำคุก 2 ปี แต่ยังดีที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ไกล่เกลี่ยเหลือ 5,000 บาท
ล่าสุดในวันนี้ (5 พ.ย.) กรรมการสภาทนายความ จังหวัดนครราชสีมา เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อหาทางช่วยเหลือทางคดี เบื้องต้นหากพิสูจน์ได้ว่า ตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์เป็นคนสั่งให้ทำ อาจไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ และตัวแทนลิขสิทธิ์ที่เรียกร้องค่าเสียหาย อาจมีความผิดฐานกรรโชกทรัพย์
นอกจากนี้มีข้อมูลจากตัวแทนภาคประชาชน ให้ข้อมูลว่ามีนักศึกษาถูกจับกุมในลักษณะเดียวกันนี้ 2-3 ราย โดยพฤติการณ์คือจะมีการสั่งสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เอง ก่อนล่อซื้อจับกุม เพื่อเรียกเงินค่าปรับ ซึ่งไม่น่าจะถูกต้องตามกฎหมาย และเชื่อว่ามีการทำเป็นขบวนการโดยตัวแทนภาคประชาชนหลายคนได้แสดงความเห็นใจของเด็กสาวคนดังกล่าว พร้อมบอกว่าอยากขอซื้อกระทงใบละ 5,000 บาท เพื่อทดแทนค่าปรับที่ต้องจ่ายให้เจ้าของลิขสิทธิ์
ส่วนความเคลื่อนไหวของผู้ที่อ้างเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ หลังจากที่มีกระแสข่าวว่าจะคืนเงิน 5,000 บาทให้กับเด็กสาววัย 15 ปีรายนี้ที่เรียกไปตั้งแต่วันจับกุม ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ เด็กสาวคนดังกล่าวและครอบครัวยังไม่ได้รับการติดต่อ เพื่อคืนเงิน 5,000 บาทแต่อย่างใด ขณะที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ โพสต์ข้อความผ่าน Facebook “ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม” อีกครั้ง ระบุว่าเชิญผู้เสียหายที่ถูกกรรโชกลิขสิทธิ์กระทง พบกันที่ สภ.เมืองนครราชสีมา วันจันทร์ที่ 11 พ.ย. 2562 เวลา 10.00 น. เพื่อดำเนินคดีกับคนที่หากินบนหลังคน
ส่วนบริษัทเอกชนที่ถูกอ้างจากชายคนดังกล่าว ว่าได้รับมอบอำนาจจับลิขสิทธิ์ คือ บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC ในฐานะตัวแทนลิขสิทธิ์ของบริษัท San-X ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2560 ครอบคลุมไทย สิงคโปร์ มาเลเชีย กัมพูชา เมียนมาร์ ลาว และเวียดนาม ได้ออกประกาศชี้แจงผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของบริษัทว่า “ไม่ได้มอบหมายให้ผู้ใดทำการจับลิขสิทธิ์ผิดกฎหมายแต่อย่างใด ตามข่าวที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งตอนนี้ทางบริษัท ปรึกษาฝ่ายกฎหมายและมอบหมายให้ทนายความดำเนินการสืบหาความจริง ในกรณีที่เกิดขึ้นเพื่อจะได้ปฏิบัติอย่างถูกต้องและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย”
ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า จนถึงขณะนี้แม้บริษัทแม่ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ส่งตัวแทนมาไล่จับกุมผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ แต่เมื่อตรวจสอบจากหลักฐานใบรับรองที่ “นายประจักษ์” อ้างว่าผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท พอส์ อิงค์ จำกัด และ บริษัท ซาน-เอกซ์ จำกัด นำมาแสดงกับตำรวจ เบื้องต้นพบว่าเป็นเอกสารฉบับจริง มีชื่อบริษัทระบุชัดเจน แต่เป็นบริษัทลูกของบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์รายใหญ่ ซึ่งขอเวลาตรวจสอบจากบริษัทลูกดังกล่าวว่ามีการแต่งตั้งมอบอำนาจมาให้จับกุมผู้ละเมิดลิขสิทธิ์จริงหรือไม่ คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2 วันจึงจะทราบผล หากพบเป็นเอกสารปลอมจ่อดำเนินคดีแน่ พร้อมยืนยันว่าตำรวจไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเงินค่าเสียหายใดๆ เพราะคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายได้ไกล่เกลี่ยกันเอง
ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครราชสีมา ยืนยันว่าหากผู้เสียหายทั้งเด็กสาว 15 ปี หรือ มีผู้เสียหายอื่นๆ ต้องการเอาผิดกับ “นายประจักษ์” หรือกลุ่มตัวแทนลิขสิทธิ์ในฐานความผิดกรรโชกทรัพย์ ก็พร้อมดำเนินการทันที.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• BIG STORY : พฤติกรรมล่อซื้อลิขสิทธิ์กระทง อาจเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์
• เด็ก 15 ข้องใจถูกล่อซื้อจับกระทงละเมิดลิขสิทธิ์
• สภาทนายความยื่นมือช่วยเด็กวัย 15 ถูกจับขายกระทงละเมิดลิขสิทธิ์
• ล่อซื้อกระทงลิขสิทธิ์ บริษัทฯ แจงไม่ได้สั่งจับกุม