เอ็มกราบขอขมาญาติเศรษฐินี-สำนึกผิด

เชียงใหม่ 1 พ.ย.-คดีสยองฆ่าเศรษฐินีแล้วยัดศพในตู้เย็นที่เชียงใหม่ คลี่คลายและชัดเจนมากขึ้น หลังจับกุมนายเอ็ม ผู้ต้องหาที่ลงมือฆ่าเพียงลำพัง เพราะต้องการทรัพย์สินของผู้ตาย โดยบอกว่ารู้สึกเสียใจและสำนึกผิดแล้ว 


เมื่อเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายเอ็มมาในห้องแถลงข่าว นายเอ็มได้ก้มกราบขอขมาและร่ำไห้กับญาติของผู้เสียชีวิตบอกว่ารู้สึกเสียใจและสำนึกผิด แม้จะรู้ว่าไม่สามารถชดใช้ลบล้างเวรกรรมจากสิ่งที่ได้ทำลงไปได้ พร้อมเผยว่าสาเหตุที่ลงมือเพราะประสงค์ต่อทรัพย์ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเงิน โดยได้เงินไป 1.7 ล้านบาท และใช้ไปเหลือ 1.2 ล้านบาท


นายเอ็มรับสารภาพว่า ก่อนก่อเหตุได้มานั่งคิดทั้งคืนบริเวณหน้าวัดพระธาตุศรีจอมทอง จ.เชียงใหม่ ว่าจะก่อเหตุดีหรือไม่ ลังเลอยู่ทั้งคืนในการตัดสินใจ แต่ในที่สุดความชั่วก็ชนะเลยตัดสินใจไปหาผู้ตายช่วงเช้าตรู่ โดยไปเคาะประตูบ้านของผู้ตาย เมื่อผู้ตายเปิดประตูบ้าน จึงใช้กำลังบังคับให้ผู้ตายบอกรหัสบัตรเอทีเอ็ม จากนั้นทำร้ายผู้ตายจนสลบและไปทดสอบรหัสผ่านบัตรเอทีเอ็ม จนแน่ชัดว่าใช่ จึงย้อนกลับมาหาผู้ตายพบยังหายใจอยู่ จึงเอาถุงดำครอบศีรษะและใช้เทปใสพัน พร้อมมัดมือและเท้าผู้ตายไว้ ก่อนใส่ตู้เย็นและเทปูนซ้ำ

“ตอนเอาศพคนตายยัดตู้เย็น ผมกลัวมาก ไม่เคยทำมาก่อน ตอนแรกคิดว่าจะเอาศพไปทิ้งในป่า แต่ไม่กล้าเอาออกไป ผมได้ขอโทษญาติคนตายไปแล้ว รู้ว่าคำขอโทษไม่มีประโยชน์ก็เสียใจกับการกระทำ ตอนแรกผมคิดว่าจะขี่รถจักรยานยนต์มา จ.เชียงใหม่ เพื่อมาหาลูกเมียและจะเข้ามอบตัวกับตำรวจ แต่ก็มาถูกจับกุมก่อน ส่วนสาเหตุที่ต้องทำเพราะมีปัญหาเรื่องเงิน สำหรับรถของผู้ตายนั้นได้นำไปฝากเพื่อน บอกกับเพื่อนว่าเป็นรถของเจ้านาย และให้เพื่อนนำไปซ่อนไว้ให้ดี โดยโกหกว่าเจ้านายกลัวเมียหลวงจะมาเห็น เพื่อนจึงได้รับฝากรถไว้” นายเอ็มเปิดปาก


พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่าจากการสอบสวนนายเอ็มให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา สำหรับพฤติกรรมของนายเอ็มได้รู้จักกับผู้ตาย โดยผู้ตายมีความไว้เนื้อเชื่อใจจ้างให้ขับรถไปรับส่งซื้อของให้ เวลามาปฏิบัติธรรมที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง ก่อนเกิดเหตุนายเอ็มได้ไปหาผู้ตายที่บ้าน โดยได้ไปกดกระดิ่งและเคาะประตูหลายครั้ง แต่ผู้ตายไม่เปิด นายเอ็มจึงเดินอ้อมไปเคาะประตูข้างอาคาร เมื่อผู้ตายมาเปิดให้ นายเอ็มจึงชกเข้าที่หน้าของผู้ตายและบังคับให้เอาบัตรเอทีเอ็มมาให้พร้อมบอกรหัส เมื่อนายเอ็มได้บัตรเอทีเอ็ม 2 ใบและรหัส จากนั้นนายเอ็มได้ชกผู้ตายจนสลบและมัดมือมัดเท้าไว้ พร้อมปิดปากไม่ให้ส่งเสียง

เมื่อนายเอ็มได้บัตรเอทีเอ็ม จึงลองออกมากดเงิน เมื่อพบว่ากดเงินได้เลยย้อนกลับมาอีกครั้ง โดยก่อนมาถึงบ้านได้แวะซื้อถุงดำและปูนมาด้วย ตอนนั้นพบว่าผู้ตายยังหายใจอยู่ นายเอ็มจึงใช้ถุงดำครอบศีรษะผู้ตายและใช้เทปพันซ้ำบริเวณปากถุงจนผู้ตายเสียชีวิต จากนั้นนำศพผู้ตายใส่ในตู้เย็น โดยเอาของในตู้เย็นออกจนหมดแล้วเทปูนทับ พร้อมเสียบปลั๊กตู้เย็น เพื่ออำพรางศพ จากนั้นได้ขับรถหรูของคนตายไปตระเวนกดเงินรวมแล้วกว่า 1.7 ล้านบาท

ผู้บัญชการตำรวจภูธรภาค 5 ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่น เชื่อว่านายเอ็มลงมือเพียงลำพัง เพราะมุ่งหวังชิงทรัพย์ หลังฆ่าเหยื่อแล้วจึงคิดหาวิธีที่จะอำพรางศพเพื่อหลบหนีความผิด

หลังจากที่นำตัวสอบปากคำ อย่างละเอียดแล้วตำรวจได้นำตัว นายเอ็มไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพในส่วนของการใช้รถยนต์ของผู้ตาย ในการหลบหนี และตระเวนนำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตาย ไปกดเงินในพื้นที่ต่างๆ ก่อนจะนำไปฝากกับเพื่อน ที่รับจำนำไว้ อ้างว่าเป็นรถของเจ้านาย เมื่อเป็นข่าวดัง เพื่อนจึงนำรถไปจอดทิ้งไว้ในป่าละเมาะที่อำเภอสารภี และถอดป้ายทะเบียนไปทิ้งไว้ในห้องน้ำสถานีรถไฟเชียงใหม่ ส่วนตัวนายเอ็มขึ้นเครื่องบิน พาแฟนสาวไปเที่ยวเกาะเสม็ดก่อนหลบหนี ซึ่งตลอดการชี้จุดทำแผน มีพี่ชายของเจ๊วรรณ คอยติดตามการทำแผนอย่างใกล้ชิด จากนั้นตำรวจควบคุมตัวนายเอ็มไปฝากคุมขัง ที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ซึ่งนายเอ็มได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยอีกครั้ง โดยขอโทษญาติผู้เสียชีวิต รวมทั้งอดีตภรรยา ขอให้ดูแลลูกให้ดี ส่วนตัวเองยอมชดใช้กรรมกับสิ่งที่ได้ลงมือทำลงไป   

พ.ต.ท.สถิตชัย นิตยวัน สารวัตรฝ่ายป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจแม่ปิง จ.เชียงใหม่ บอกว่า ต้องเพิ่มความถี่ในการดูแลและให้ผู้ต้องขังช่วยดูแลนายเอ็มด้วย รวมทั้งมีกล้องวงจรปิด คอยสอดส่องตลอด เนื่องจากผู้ต้องขังเครียด คาดว่าตำรวจจะนำตัวนายเอ็ม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ในวันพรุ่งนี้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• คุม “เอ็ม” ทำแผนฯ หนี-ตระเวนกดเงิน หลังสังหารโหดเศรษฐินี

• “เอ็ม” มือฆ่าเศรษฐินียัดตู้เย็น สารภาพหมดเปลือก

• เปิดไทม์ไลน์คดีฆ่าเศรษฐินียัดตู้เย็น

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย