เอ็มกราบขอขมาญาติเศรษฐินี-สำนึกผิด

เชียงใหม่ 1 พ.ย.-คดีสยองฆ่าเศรษฐินีแล้วยัดศพในตู้เย็นที่เชียงใหม่ คลี่คลายและชัดเจนมากขึ้น หลังจับกุมนายเอ็ม ผู้ต้องหาที่ลงมือฆ่าเพียงลำพัง เพราะต้องการทรัพย์สินของผู้ตาย โดยบอกว่ารู้สึกเสียใจและสำนึกผิดแล้ว 


เมื่อเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายเอ็มมาในห้องแถลงข่าว นายเอ็มได้ก้มกราบขอขมาและร่ำไห้กับญาติของผู้เสียชีวิตบอกว่ารู้สึกเสียใจและสำนึกผิด แม้จะรู้ว่าไม่สามารถชดใช้ลบล้างเวรกรรมจากสิ่งที่ได้ทำลงไปได้ พร้อมเผยว่าสาเหตุที่ลงมือเพราะประสงค์ต่อทรัพย์ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเงิน โดยได้เงินไป 1.7 ล้านบาท และใช้ไปเหลือ 1.2 ล้านบาท


นายเอ็มรับสารภาพว่า ก่อนก่อเหตุได้มานั่งคิดทั้งคืนบริเวณหน้าวัดพระธาตุศรีจอมทอง จ.เชียงใหม่ ว่าจะก่อเหตุดีหรือไม่ ลังเลอยู่ทั้งคืนในการตัดสินใจ แต่ในที่สุดความชั่วก็ชนะเลยตัดสินใจไปหาผู้ตายช่วงเช้าตรู่ โดยไปเคาะประตูบ้านของผู้ตาย เมื่อผู้ตายเปิดประตูบ้าน จึงใช้กำลังบังคับให้ผู้ตายบอกรหัสบัตรเอทีเอ็ม จากนั้นทำร้ายผู้ตายจนสลบและไปทดสอบรหัสผ่านบัตรเอทีเอ็ม จนแน่ชัดว่าใช่ จึงย้อนกลับมาหาผู้ตายพบยังหายใจอยู่ จึงเอาถุงดำครอบศีรษะและใช้เทปใสพัน พร้อมมัดมือและเท้าผู้ตายไว้ ก่อนใส่ตู้เย็นและเทปูนซ้ำ

“ตอนเอาศพคนตายยัดตู้เย็น ผมกลัวมาก ไม่เคยทำมาก่อน ตอนแรกคิดว่าจะเอาศพไปทิ้งในป่า แต่ไม่กล้าเอาออกไป ผมได้ขอโทษญาติคนตายไปแล้ว รู้ว่าคำขอโทษไม่มีประโยชน์ก็เสียใจกับการกระทำ ตอนแรกผมคิดว่าจะขี่รถจักรยานยนต์มา จ.เชียงใหม่ เพื่อมาหาลูกเมียและจะเข้ามอบตัวกับตำรวจ แต่ก็มาถูกจับกุมก่อน ส่วนสาเหตุที่ต้องทำเพราะมีปัญหาเรื่องเงิน สำหรับรถของผู้ตายนั้นได้นำไปฝากเพื่อน บอกกับเพื่อนว่าเป็นรถของเจ้านาย และให้เพื่อนนำไปซ่อนไว้ให้ดี โดยโกหกว่าเจ้านายกลัวเมียหลวงจะมาเห็น เพื่อนจึงได้รับฝากรถไว้” นายเอ็มเปิดปาก


พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่าจากการสอบสวนนายเอ็มให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา สำหรับพฤติกรรมของนายเอ็มได้รู้จักกับผู้ตาย โดยผู้ตายมีความไว้เนื้อเชื่อใจจ้างให้ขับรถไปรับส่งซื้อของให้ เวลามาปฏิบัติธรรมที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง ก่อนเกิดเหตุนายเอ็มได้ไปหาผู้ตายที่บ้าน โดยได้ไปกดกระดิ่งและเคาะประตูหลายครั้ง แต่ผู้ตายไม่เปิด นายเอ็มจึงเดินอ้อมไปเคาะประตูข้างอาคาร เมื่อผู้ตายมาเปิดให้ นายเอ็มจึงชกเข้าที่หน้าของผู้ตายและบังคับให้เอาบัตรเอทีเอ็มมาให้พร้อมบอกรหัส เมื่อนายเอ็มได้บัตรเอทีเอ็ม 2 ใบและรหัส จากนั้นนายเอ็มได้ชกผู้ตายจนสลบและมัดมือมัดเท้าไว้ พร้อมปิดปากไม่ให้ส่งเสียง

เมื่อนายเอ็มได้บัตรเอทีเอ็ม จึงลองออกมากดเงิน เมื่อพบว่ากดเงินได้เลยย้อนกลับมาอีกครั้ง โดยก่อนมาถึงบ้านได้แวะซื้อถุงดำและปูนมาด้วย ตอนนั้นพบว่าผู้ตายยังหายใจอยู่ นายเอ็มจึงใช้ถุงดำครอบศีรษะผู้ตายและใช้เทปพันซ้ำบริเวณปากถุงจนผู้ตายเสียชีวิต จากนั้นนำศพผู้ตายใส่ในตู้เย็น โดยเอาของในตู้เย็นออกจนหมดแล้วเทปูนทับ พร้อมเสียบปลั๊กตู้เย็น เพื่ออำพรางศพ จากนั้นได้ขับรถหรูของคนตายไปตระเวนกดเงินรวมแล้วกว่า 1.7 ล้านบาท

ผู้บัญชการตำรวจภูธรภาค 5 ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่น เชื่อว่านายเอ็มลงมือเพียงลำพัง เพราะมุ่งหวังชิงทรัพย์ หลังฆ่าเหยื่อแล้วจึงคิดหาวิธีที่จะอำพรางศพเพื่อหลบหนีความผิด

หลังจากที่นำตัวสอบปากคำ อย่างละเอียดแล้วตำรวจได้นำตัว นายเอ็มไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพในส่วนของการใช้รถยนต์ของผู้ตาย ในการหลบหนี และตระเวนนำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตาย ไปกดเงินในพื้นที่ต่างๆ ก่อนจะนำไปฝากกับเพื่อน ที่รับจำนำไว้ อ้างว่าเป็นรถของเจ้านาย เมื่อเป็นข่าวดัง เพื่อนจึงนำรถไปจอดทิ้งไว้ในป่าละเมาะที่อำเภอสารภี และถอดป้ายทะเบียนไปทิ้งไว้ในห้องน้ำสถานีรถไฟเชียงใหม่ ส่วนตัวนายเอ็มขึ้นเครื่องบิน พาแฟนสาวไปเที่ยวเกาะเสม็ดก่อนหลบหนี ซึ่งตลอดการชี้จุดทำแผน มีพี่ชายของเจ๊วรรณ คอยติดตามการทำแผนอย่างใกล้ชิด จากนั้นตำรวจควบคุมตัวนายเอ็มไปฝากคุมขัง ที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ซึ่งนายเอ็มได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยอีกครั้ง โดยขอโทษญาติผู้เสียชีวิต รวมทั้งอดีตภรรยา ขอให้ดูแลลูกให้ดี ส่วนตัวเองยอมชดใช้กรรมกับสิ่งที่ได้ลงมือทำลงไป   

พ.ต.ท.สถิตชัย นิตยวัน สารวัตรฝ่ายป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจแม่ปิง จ.เชียงใหม่ บอกว่า ต้องเพิ่มความถี่ในการดูแลและให้ผู้ต้องขังช่วยดูแลนายเอ็มด้วย รวมทั้งมีกล้องวงจรปิด คอยสอดส่องตลอด เนื่องจากผู้ต้องขังเครียด คาดว่าตำรวจจะนำตัวนายเอ็ม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ในวันพรุ่งนี้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• คุม “เอ็ม” ทำแผนฯ หนี-ตระเวนกดเงิน หลังสังหารโหดเศรษฐินี

• “เอ็ม” มือฆ่าเศรษฐินียัดตู้เย็น สารภาพหมดเปลือก

• เปิดไทม์ไลน์คดีฆ่าเศรษฐินียัดตู้เย็น

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

รองเลขาธิการนายกฯ แจ้งความดำเนินคดี “ฮุนเซน”

กทม. 20 มิ.ย.-“สมคิด” รองเลขาธิการนายกฯ เข้าแจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดี “ฮุนเซน” กรณีคลิปเสียงหลุด ยันไม่ได้แก้เกี้ยวให้ “แพทองธาร” ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุนเซน กรณีคลิปเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ความยาว 17.6 วินาที ที่หลุดออกมาจากฝั่งเขา จนสร้างความแตกแยก จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับภัยความมั่นคง ยืนยันไม่ได้เป็นการแก้เกี้ยวให้กับนายกฯ และไม่ได้เรียนให้นายกฯ ทราบว่าจะมาแจ้งความ พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ยืนยันไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะเกิดขึ้นในหรือนอกราชอาณาจักร เป็นคนไทยหรือต่างชาติ หากทำลายความมั่นคง ก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้ โดยตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐาน สืบค้นแหล่งที่มาของต้นโพสต์ หารือกับอัยการสูงสุดและประสานสถานทูตประเทศนั้น เพื่อให้ส่งเอกสารไปยังประเทศปลายทางของผู้ที่ถูกออกหมายจับ ส่วนจะได้ตัวหรือไม่ ไม่อยากให้คาดการณ์.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

นายกฯ​ นั่งหัวโต๊ะประชุม 7 ผู้ว่าฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 20 มิ.ย.- นายกรัฐมนตรี​ นั่งหัวโต๊ะประชุม 7 ผู้ว่าฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา ลั่น​แม้รัฐบาลหวังหลีกเลี่ยงการปะทะ​ แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัย ทุกภาคส่วนต้องพร้อม ย้ำผู้บริหารมหาดไทย​ แม้มีการเปลี่ยนแปลง​ แต่อยากให้ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างเข้มแข็งไม่มีการเปลี่ยน บอก สัญญารัฐบาลไม่ทิ้งกระทรวงใด​ ขณะที่ช่วงบ่ายเตรียมบินไป จ.อุบลราชธานี พบแม่ทัพภาคที่ 2 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี​ เป็นประธานการประชุมติดตามดูแลการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดชายแดน ประกอบด้วย​ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ตราด จันทบุรี สระแก้ว โดยมี นางสาวธีรรัตน์​ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง และนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมการประชุม โดยนายกรัฐมนตรี​ […]

ปชป. ออกแถลงการณ์ร่วมรัฐบาลต่อ ขอทบทวนสัมพันธ์กัมพูชา

พรรคประชาธิปัตย์ 20 มิ.ย.- “ประชาธิปัตย์” ออกแถลงการณ์ยืนยันดำรงสถานะพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมขอให้ทบทวนท่าทีความสัมพันธ์กับกัมพูชา พรรคประชาธิปัตย์ออกแถลงการณ์ระบุว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือและพิจารณาร่วมกัน เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 มิถุนายน 2568 คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ มีความเห็นเป็นฉันทามติร่วมกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้