กทม. 31 ต.ค.-เครือข่ายเยาวชน จัดกิจกรรมวัน ‘ฮาโลวีน’ เตือนสติดื่มแล้วขับ หลังพบคนไทยยืนหนึ่งแชมป์อาเซียนสังเวยอุบัติเหตุบนท้องถนน วัยโจ๋เสี่ยงสุด ชวนสร้างวัฒนธรรมงานเลี้ยงใหม่ สนุกได้ไร้แอลกอฮอล์ ด้านพ่อผู้สูญเสียวอนเพิ่มโทษโชว์เฟอร์ดื่มขับ
วันนี้ (31ต.ค.) ที่ลานกิจกรรมเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กทม. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับเครือข่ายเยาวชนพัฒนาคุณภาพชีวิต เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมรณรงค์รับวันฮาโลวีน ภายใต้แนวคิด Halloween 2019 NO AL Party #หยุดผีซิ่ง ภายในงานมีกิจกรรมของกลุ่มเยาวชนตลอดทั้งวัน อาทิ แต่งกายเป็นผี กิจกรรมหยุดผีซิ่ง บูธรณรงค์ ส่วนช่วงเย็นมีเวทีการแสดงจากเครือข่ายเยาวชน อาทิ น้องมิกซ์ เดอะแรปเปอร์ ซิน เดอะวอยซ์ แดเนียล ไมค์ทองคำ วง PENTATONIC และ DS.RU Band
น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส.กล่าวว่า การเฉลิมฉลองฮาโลวีนมักมาพร้อมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นำไปสู่พฤติกรรมการดื่มแล้วขับ ขับเร็วขับซิ่ง เกิดอุบัติเหตุ บนท้องถนน โดยกระทรวงคมนาคมเคยศึกษาถึงมูลค่าความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน คนเสียชีวิตคนนึง ณ ปัจจุบัน มีมูลค่าความสูญเสียอาจจะอยู่ที่ 7-8ล้านบาท ส่วนคนพิการขยับไปอยู่ที่ 9-10ล้านบาท
นอกจากนี้บรรดาธุรกิจร้านเหล้าผับบาร์ใช้โอกาสนี้เรียกลูกค้า สุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ทั้งขายให้ผู้อายุต่ำกว่า 20ปี ขายให้คนเมาครองสติไม่ได้ ส่งเสริมการขายลดแลก แจกแถม ขายนอกเวลาที่กฎหมายกำหนด ความน่าเป็นห่วงของคืนฮาโลวีนจึงหนีไม่พ้นปัญหาเหล่านี้ เป็นเงามืดที่ติดตามมากับความสนุกสนานของเทศกาล
สำหรับกิจกรรมนี้เกิดขึ้นเพื่อแสดงทางเลือกงานปาร์ตี้ปลอดเหล้า เช่นงานคอนเสิร์ตของกลุ่มโคตรอินดี้ จ.สระบุรี มีคนเข้าร่วมนับหมื่น แต่ไม่เกิดปัญหาทะเลาะวิวาทหรือพฤติกรรมไม่เหมาะสม เป็นงานที่ยืนยันได้ว่าเราสามารถสนุกได้โดยไร้แอลกอฮอล์จริงๆ รวมถึงสถานประกอบการต้นแบบที่ทำสำเร็จมาแล้วอย่าง บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) สาขาลพบุรี ที่กำหนดให้ทุกกิจกรรมและงานเลี้ยงสังสรรค์ปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
“ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 24,000คน ปัจจัยร่วมหลักยังเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนปัญหาขับเร็วก็นำมาซึ่งความสูญเสียไม่แพ้กัน ด้วยความรุนแรงหรือแรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้นสามารถเทียบ เคียงได้จาก การชนที่ระดับความเร็ว 80กม/ชม. รุนแรงเท่ากับการตกตึก 8ชั้น,120กม./ชม. รุนแรงเท่ากับคนตกตึก 19 ชั้น และแน่นอนว่าในคืนฮาโลวีนที่มีการกินดื่ม จำนวนคนดื่มแล้วขับย่อมเพิ่มขึ้น ความไม่ปลอดภัยบนท้องถนนจะยิ่งมากขึ้นจากสถานการณ์ปกติ กิจกรรมหยุดผีซิ่ง จึงต้องการกระตุ้นเตือนให้ผู้ขับขี่ ไม่ดื่ม และใช้ความระมัดระวังในการขับขี่มากขึ้น” น.ส.รุ่งอรุณ กล่าว
ด้านนายพรหมมินทร์ กันธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ กล่าวว่า สถานการณ์อุบัติเหตุอยู่ในขั้นวิกฤตรุนแรง อัตราเฉลี่ยเสียชีวิต 50-70ราย/วัน ประเทศไทยติดอยู่ในอันดับ 9 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน สาเหตุดื่มแล้วขับอยู่ในอันดับต้น ๆ หากวิเคราะห์การใช้รถใช้ถนนในเมืองไทย พบว่ามีองค์ประกอบไม่สมดุล รถ คน ถนน สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะตัวคน คนอายุน้อยสามารถขับขี่ได้ ส่วนคนที่กระทำผิดซ้ำๆ ยังไม่มีวิธีการคัดออก รถถูกนำมาดัดแปลงต่อเติม โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นมักใช้ยานพาหนะเกินความจำเป็น บวกกับพฤติกรรมดื่ม ขับเร็ว สิ่งที่อยากแนะนำผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนคือการประเมินวิเคราะห์ความเสี่ยงไปตลอดเส้นทาง หรือมีสติเท่านั้น
ขณะที่นายนิพนธ์ ทับนิล บิดาผู้สูญเสียลูกสาวกล่าวว่า ครอบครัวเจ็บปวดกับความสูญเสียลูกสาวเพราะคนเมาแล้วขับเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดกระบวนการทางคดีทำให้ครอบครัวรู้สึกว่ายังไม่ได้รับความยุติธรรม ผู้กระทำผิดยังไม่ได้รับโทษ ทั้งที่เป็นเหตุทำให้คนเสียชีวิต หากรับสารภาพอาจจะได้รับการลดโทษลงอีก แต่ในฐานะพ่อที่สูญเสียมองว่านี่ไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ดื่มแล้วขับมีอันตรายเป็นเรื่องที่ทุกคนทราบ จึงเป็นเจตนาที่เล็งเห็นผลได้ ตนจึงอยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาบทลงโทษนี้ใหม่อีกครั้ง เพื่อความยุติธรรมต่อผู้เสียหาย .-สำนักข่าวไทย