กทม.30 ต.ค.-สตม.แถลงจับกุมผู้ต้องหาก่อคดีสำคัญรวม 4 คดี หนึ่งในนั้นเป็นชาวโอมาน ตามหมายจับตำรวจสากลหลอกเหยื่อผ่านธรกรรมออนไลน์
พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 4 คดี คดีแรก จับกุมชาวโอมานที่มีหมายจับของตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล ที่ก่อเหตุหลอกลวงเหยื่อนับสิบรายผ่านธุรกรรมออนไลน์ ทำธุรกิจซื้อขายสินค้าแต่ไม่ส่งสินค้าให้กับลูกค้า มีมูลค่าความเสียหายเกือบ 10 ล้านบาท ซึ่งแม้ว่าผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีออกจากประเทศโอมานแล้ว แต่ก็ยังหลอกลวงชาวโอมานด้วยกันอย่างต่อเนื่อง เงินที่ได้มาก็นำไปใช้จ่ายท่องเที่ยวในประเทศแถบภูมิภาคอาเซียน รวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งล่าสุดเข้ามากบดานอยู่ที่อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
คดีที่ 2 จับกุมนายเหอ ยีจุน ชาวจีน ที่หลบหนีคดีฉัอโกงที่หลอกเหยื่อให้นำเงินมาลงทุน แล้วเชิดเงินหลบหนีออกนอกประเทศ มูลค่าความเสียหาย 380 ล้านหยวน หรือเป็นเงินไทยประมาณ 1,900 ล้านบาท โดนใช้หนังสือเดินทางปลอมของประเทศอินโดนีเซียเดินทางไปประเทศไทย กัมพูชา และ สปป.ลาว สืบเนื่องจากการตรวจสอบข้อมูลชาวต่างชาติที่เข้าประเทศไทยจากระบบไบโอเมตริกซ์พบว่านายเหอ ยีจุน เคยใช้หนังสือเดินทางประเทศจีนและอินโดนีเซีย เข้าประเทศไทย ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นขาวจีนที่ใช้หนังสือเดินอินโดนีเซียปลอม จึงติดตามไปจับกุมได้ที่ย่านพัฒนาการ
คดีที่ 3 จับกุมนายโพน ซอน นายซกเมียน และเด็กชาย อายุ 14 ปี อีก 2 คน ซึ่งเป็นพระและเณรชาวกัมพูชา ที่หลบหนีเข้าเมือง อ้างว่าอยู่สำนักปฎิบัติธรรมพุทธชยันตี 2,600 ปี อาศัยผ้าเหลืองออกบิณฑบาต เรี่ยไรเงินจากชาวบ้านในอำเภอนครไชยศรี และอำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม แต่ไม่รับอาหารที่ชาวบ้านนำมาใส่บาตร เน้นรับเงินสดอย่างเดียว โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าเดินทางเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติทางจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเมื่อตรวจสอบกับระบบไบโอเมตริกซ์ จึงพบว่าไม่มีข้อมูลการเดินทางเข้าประเทศไทย
สุดท้ายเป็นการชี้แจงผลการจับกุมและผลักดันกลับประเทศ ของผู้ต้องหาชาวจีนเครือข่ายการพนันออนไลน์จำนวน 231 ราย ตั้งแต่วันที่ 15 ถึง 27 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมเปิดเผยสถิติผลการจับกุมชาวต่างด้าวกระทำผิดกฎหมายหรือมีพฤติกรรมเป็นภัยต่อความมั่นคง และกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ ห้วงระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนที่ผ่านมา มีการกระทำผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 จำนวน 71,589 ราย , พบเป็นบุคคลต้องห้าม หรือมีแบล็คลิสต์ ปฏิเสธการเข้าเมืองตามมาตรา 12 จำนนน 9,305 ราย , กระทำผิด พ.ร.บ.อื่นๆ จำนวน 2,991 ราย และกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา จำนวน 124 รายรวมยอดจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 84,009 รายด้วยกัน ถือเป็นการระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 35 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 4 พฤศจิกายนนี้.-สำนักข่าวไทย


