ดีเอสไอ ลั่นตามล่าเอาผิด “แม่มณี”ถึงที่สุด

ดีเอสไอ 28ต.ค.- ลูกแชร์แม่มณีกว่า 200 ราย บุกร้องดีเอสไอ เอาผิด แม่มณี  ดีเอสไอยืนยันหากคิด หนีจะตามล่าจนครบอายุความ และติดตามยึดทรัพย์ไม่หยุด


บ่ายวันนี้ผู้เสียหายแชร์ลูกโซ่ “แม่มณี” กว่า 200 คน เข้าร้องทุกข์กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ โดยมี นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยบริการประชาชน  เป็นตัวแทนรับเรื่อง เพื่อขอให้ดีเอสไอเอาผิดกับ แม่มณี หรือ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือ เดียร์ อดีตพริตตี้แม่ค้าออนไลน์ อายุ 30 ปี ชาว จ.อุดรธานี โดยมีพฤติกรรมหลอกให้ผู้เสียหายมาร่วมลงทุนเงินออมในลักษณะแชร์ลูกโซ่ อ้างผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 93  เบื้องต้นมูลค่าเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท


นายปิยะศิริ กล่าวว่า หลังดีเอสไอรับเรื่องร้องทุกข์จะเสนอให้ อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติการสืบสวน และลงพื้นที่สอบปากคำพยาน  เบื้องต้นจะให้ผู้เสียหายทุกรายบันทึกปากคำ และจะให้ส่งรายละเอียดข้อมูลแชร์ลูกโซ่ทางคิวอาร์โค้ด ขอยืนยันว่าดีเอสไอจะเร่งรัดการสืบสวน และจะประสานข้อมูลกับตำรวจ ปอท. ซึ่งทางกลุ่มผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ก่อนหน้านี้


สำหรับ แม่มณี รวมถึงกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้อง ขอให้แสดงความบริสุทธิ์ใจ และเข้าพบพนักงานสอบสวน เพราะขณะนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก กว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในสภาวะยากลำบากจากการถูกหลอก อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ที่เคยทำคดีแชร์ลูกโซ่มักจะมีผลตอบแทน ร้อยละ 15-20 ต่อเดือน แต่แชร์แม่มณี เป็นชร์ที่น่าตกใจมาก เพราะตี้งแต่ทำคดีมาไม่เคยเจอแชร์ลูกโซ่วงไหนให้ผลตอบแทน มากถึงร้อยละ 93 พร้อมคืนเงินต้น และเป็นการชักชวนให้ลงทุนผ่านสื่อออนไลน์ เมื่อลงทุนแล้วก็จะถูกดึงเข้ากลุ่มไลน์ พฤติการณ์ดังกล่าวไม่ใช่การประกอบธุรกิจ แต่เป็นการนำเงินมาจัดลำดับการจ่าย หรือนำเงินของผู้ลงทุนเงินรายใหม่มาจ่ายให้รายเก่า ทั้งนี้ขอให้ผู้เสียหายทั้งหมดมั่นใจได้ เพราะคดีนี้ดีเอสไอ จะตาม น.ส.วันทนีย์ ให้ถึงที่สุด

“ถ้าท่านไม่มาพบพนักงานสอบสวน ผมจะตามล่าจนถึงที่สุด จนกว่าคดีนี้อายุความจะหมด และจะตามยึดทรัพย์ไม่หยุด ถ้าหลบหนีไปต่างประเทศก็จะออกหมายจับ แต่เชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทย ส่วนทรัพย์สินที่ได้ไปจากการฉ้อโกงก็เชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทย คาดว่าภายใน 1 เดือนน่าจะได้ตัวแม่มณีมาดำเนอนคดี” นายปิยะศิริ กล่าว

ส่วนกรณี ผู้ที่เป็นแม่ข่ายชักชวนให้ผู้อื่นให้นำเงินมาลงทุน  นายปิยะศิริ กล่าวว่า ขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนด้วยหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับพฤติกรรมในการเชิญชวนนั้น ทำโดยสุจริตใจ หรือมีลักษณะเป็นข้อต่อแชร์ลูกโซ่  ซึ่งลักษณะการโอนเงินจะบ่งชี้ได้ 

รวมถึงปฏิเสธที่จะตอบข้อซักถามเกี่ยวกับ มะนาว หรือ น.ส.จุฑาทิพย์ นิ่มนวล ซึ่งเป็นแม่ข่ายชักชวนให้ร่วมลงทุนแชร์แม่มณี จนมีผู้ได้รับความเสียหายกว่า 70 ล้านบาท โดยระบุเพียงว่า ต้องรอให้ทราบข้อมูลในชั้นสืบสวนก่อนว่าใครเกี่ยวข้องอย่างไร

ด้านตัวแทนผู้เสียหายรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนเพิ่งจะเคยลงทุนกับแม่มณีเป็นที่แรก โดยทดสอบด้วยการลงทุนจำนวนน้อยก่อนและเห็นว่าคืนครบ-ตรงเวลา โดยแม่มณีจะดึงเข้ากลุ่มไลน์ทำให้เห็นข้อมูลการโอนเงินของคนอื่น มีทั้งหลักแสนบาทถึงหลักล้านบาท จึงเพิ่มเงินลงทุนและเมื่อตรวจสอบที่เฟซบุ๊ก ก็พบรูปโปรไฟล์เป็นเน็ตไอดอล และเป็นผู้จัดละครและสร้างภาพยนตร์ พร้อมทั้งมีธุรกิจอื่นอีกมาก ทำให้มีผู้ติดตามเป็นกลุ่มแม่ลูกอ่อนจำนวนมาก

โดยเชื่อว่าเป็นการระดมทุนเพื่อนำเงินไปสร้างหนัง ที่ผ่านมาสมาชิกถามว่าเอาเงินไปทำอะไรก็จะถูกด่า และย้ำว่าการออมกับแม่มณี ห้ามถามให้รอรับเงินอย่างเดียว ภายหลังจากแชร์วงแตก ตนเข้าไปสืบค้นข้อมูลพบว่าแม่มณีเพิ่งจะเริ่มระดมทุนเมื่อเดือนมีนาคม 62 และแตกวง ปิดเฟซบุ๊กในวันที่ 23 ต.ค.62 จากนั้นก็ขาดการติดต่อกับสมาชิก

ด้านผู้เสียหาย ที่มีลูกป่วยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนมีอาชีพค้าขายต้องเลี้ยงลูกที่ป่วยและมารู้จักกับแม่มณี ในวงการค้าผ้า โดยแม่มณีโอนเงินมาช่วยเหลือค่ารักษาลูก 1,000 บาท ตนจึงนำเงินดังกล่าวไปออมเมื่อครบเดือนก็ได้กลับคืนมา 1,930 บาท จึงมั่นใจว่าไม่ถูกหลอก และเพิ่มการออมไปเรื่อยๆ จนล่าสุดเทเงินออมหมดหน้าตัก 30,000 บาท เพื่อนำผลตอบแทนไปเปลี่ยนเครื่องช่วยหายใจให้ลูก แต่แชร์แม่มณีกลับวงแตก และติดต่อกับแม่มณีไม่ได้อีกเลย

ผู้เสียหายอีกรายเปิดเผยว่า ตนเคยเจอแม่มณีแบบตัวเป็นๆ ในงานมีตติ้งกลุ่มผู้ออมเงิน โดยสมาชิกที่ไปจะเป็นสมาชิกที่มีเงินฝากตั้งแต่หลักล้านบาท ส่วนตัวลงทุนไป 21 ล้านบาท ยอมรับว่าแม่ๆ ของแต่ละบ้านจะมีการชักชวนบุคคลภายนนอกให้เข้าร่วมลงทุน ส่วนจะชักชวนและหักผลตอบแทนจากสมาชิกอย่างไรตนไม่ทราบ

ด้าน คู่รักที่เป็นผู้เสียหาย โดนหลอกเงินไปกว่า 4 ล้านบาท ระบุว่า ติดตามเฟซบุ๊กของ น.ส.วันทนีย์ ต่อเนื่องนานถึง 2 ปี เห็นว่ามีอาชีพการงาน มีหน้ามีตาทางสังคม ไม่คิดว่าจะเอาชื่อเสียงตัวเองมาทิ้ง เมื่อเปิดให้ออมเงิน ที่บอกว่ามีผลตอบแทนถึง ร้อยละ 93 ตอนแรกก็ฉุกคิดว่าจะหลอกหรือไม่ ก็เลยลองใส่เงินก้อนแรกไป 1,000 บาท แล้วเดือนต่อมาก็ได้ผลตอบแทนตามที่บบอก จึงเพิ่มเป็นหลักหมื่น ก็ได้ผลตอบแทนตามที่บอก จึงไปชักชวนญาติๆเพื่อนบ้านมาลงทุน และตัวเองก็เอาบ้านไปจำนองด้วยได้เงินมา 2 แสนก็นำไปลงทุนรวมกัน เป็นเงิน 4 ล้านกว่าบาท สุดท้ายก็โดนหลอกเชิดเงิน ไม่คิดว่าเขาจะยอมทุบหมอข้าวตัวเองแบบนี้ และสุดท้ายตอนนี้ก็โนญาติๆเพื่อนบ้าน เตรียมฟ้องดำเนินคดีเอาผิดในข้อหาหลอกลวงฉ้อโกงด้วย ยอมรับว่าตอนนี้ขาข้างหนึ่งก้าวเข้าไปในคุกแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย