มี.ค.ปีหน้า ปั๊ม ปตท. 1,850 สาขา พร้อมขายดีเซลบี 10

กรุงเทพฯ 28 ต.ค. – โออาร์เร่งขยายจุดจำหน่ายน้ำมัน พีทีที อัลตร้าฟอร์ซ ดีเซล บี 10 ตั้งเป้าครบ 300 แห่งปีนี้  และ 1 มี.ค.ปีหน้า จะพร้อมจำหน่ายทั่วประเทศ 1,850 สาขา โดยให้ บี 10 เป็น “พลังงานทางเลือกที่เร่งสิ่งดี ๆ ให้ชีวิตและสังคม” 



นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) (ปตท.) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์) นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ โออาร์ และนายบรรพจน์ เต็งวงษ์วัฒนะ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสัมพันธ์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จํากัด  ร่วมประชาสัมพันธ์จุดจำหน่ายน้ำมัน พีทีที อัลตร้าฟอร์ซ ดีเซล บี10 แห่งใหม่ ณ สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น สาขาวิภาวดี 11 กรุงเทพฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มลูกค้ารถบรรทุก รถกระบะและรถตู้ 


นายชาญศิลป์ กล่าวว่า ปตท.สนับสนุนนโยบายกระทรวงพลังงานส่งเสริมการใช้ ไบโอดีเซลและเอทานอล ซึ่งมีส่วนช่วยเหลือยกระดับราคาพืชผลทางการเกษตรที่ไม่ดีให้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการบริหารจัดการอย่างต่อเนื่องและยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 10 ซึ่งปตท.ผลิตขึ้นภายใต้ชื่อ พีทีที อัลตร้าฟอร์ซ ดีเซล บี 10 เริ่มจำหน่ายภายในสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น แล้ว และจะขยายจำนวนสถานีบริการน้ำมันที่จำหน่ายเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยภายในสิ้นปีนี้จะมีมากถึง 300 สถานีบริการน้ำมัน  

ประเทศไทยมีจุดแข็ง มีพืชหลายชนิดที่สามารถนำมาผลิตพลังงานได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลซึ่งมีผลพลอยได้คือ กากน้ำตาล และยังมีมันสำปะหลังที่สามารถนำมาผลิตเอทานอลได้ รวมถึงปาล์มน้ำมัน ซึ่งโดยภาพรวมช่วยประหยัดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศได้คิดเป็นมูลค่าปีละ 50,000-60,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังช่วยลดฝุ่นควันร้อยละ 30-40 และลด PM 2.5 ได้อีกด้วย 

“ปกติแล้วประเทศไทยใช้มาตรฐานน้ำมัน EURO 4 ขณะนี้กลุ่ม ปตท.กำลังลงทุนเพื่อผลิตน้ำมันมาตรฐาน EURO 5 พร้อมกับมีการทดสอบไบโอดีเซลที่มีการเติมสารปรุงแต่งช่วยทำให้ฝุ่นควันลดน้อยลงได้กว่าร้อยละ 40 ช่วยลด PM 2.5 ได้” นายชาญศิลป์ กล่าว 


นายอรรถพล กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีน้ำมันปาล์มดิบหรือ CPO เหลือต้องส่งออกประมาณปีละ 400,000-600,000  ตัน หากการปรับการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล จาก บี 7 เป็น บี 10 ทำได้ตามแผน ก็จะสามารถดูดซับ CPO ส่วนเกินได้ ทำให้การผลิตและการใช้ปาล์มน้ำมันกลับเข้าสู่สมดุล และหลังจากนั้น จะมีการใช้จะเติบโตไปได้กับยอดการใช้น้ำมันที่โตปีละร้อยละ 1-2 ซึ่งจะช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มส่วนเกินได้ทั้งหมด  หนุนให้ราคาปาล์มน้ำมันปรับตัวดีขึ้น ที่สำคัญรัฐบาลจะต้องดูแลการนำเข้าและการลักลอบนำเข้า  สำหรับรถยนต์ที่ใช้ พีทีที อัลต้าฟอร์ซ ดีเซล บี 10 ไม่ได้ ก็มีน้ำมัน บี 7 เป็นทางเลือก บางสถานีบริการน้ำมันก็จะมีบี 20 สำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่ด้วย 

นางสาวจิราพร กล่าวว่า พร้อมสนับสนุนนโยบายกระทรวงพลังงานที่กำหนดให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 เป็นน้ำมันประเภทหลักสำหรับรถดีเซลทั่วไป โดยโออาร์ จะขยายจุดจำหน่ายน้ำมัน พีทีที อัลต้าฟอร์ซ ดีเซล บี 10 ภายในสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น จำนวน 300 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2562 และเตรียมความพร้อมให้สถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น ทุกแห่งสามารถจำหน่ายน้ำมันพีทีที อัลต้าฟอร์ซ ดีเซล บี 10 ที่เผาไหม้สมบูรณ์ ลดควันดำและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ จึงช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และยังมีราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลธรรมดาถึงลิตรละ 2 บาท พร้อมเติมสารเพิ่มค่าซีเทนที่ช่วยเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์และสารทำความสะอาดหัวฉีด ป้องกันการอุดตันของหัวฉีด อีกทั้งสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น(JAMA) ยังรับรองคุณภาพการใช้งาน โดยผู้ใช้รถดีเซลสามารถตรวจสอบรุ่นรถที่ใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 ได้ จากเว็บไซต์ของกรมธุรกิจพลังงาน 

“ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้สถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น จะมีน้ำมัน พีทีที อัลต้าฟอร์ซ ดีเซล บี 10 จำหน่ายรวม 100 สาขา และตามแผนภายสิ้นปีนี้จะมีจำนวนสถานีบริการน้ำมันจำหน่ายรวม 300 สาขา และวันที่ 1 มีนาคม 2563 สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ทั้งหมดทั่วประเทศ 1,850 สาขา จะมีความพร้อมจำหน่าย น้ำมัน พีทีที อัลตร้าฟอร์ซ ดีเซล บี10 และเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล  ทางพีทีทีโออาร์ ได้เตรียมความพร้อมมานานแล้ว ทั้งทางด้านซัพพลาย บี100 ได้เจรจากับผู้ผลิตตามปริมาณความต้องการของพีทีทีโออาร์ที่ได้วางแผนล่วงหน้าเอาไว้แล้ว และอีกด้านที่สำคัญการเตรียมคลังน้ำมัน ปัจจุบันมีที่โรงกลั่นจังหวัดระยองของ GC และที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดสงขลา ส่วนกรุงเทพมีคลังน้ำมันที่เขตพระโขนง ซึ่งเดือนธันวาคม 2562 ทุกคลังหลักของ พีทีทีโออาร์ พร้อมที่จะจำหน่าย น้ำมัน พีทีที อัลตร้าฟอร์ซ ดีเซล บี10” นางสาวจิราพร กล่าว. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]