กรุงเทพฯ 19 ต.ค. – นายกรัฐมนตรี พอใจภาพรวมการอภิปราย ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ย้ำว่า รัฐบาลศึกษาจัดทำอย่างรอบครอบ พร้อมรับฟังทุกความเห็น ยืนยันไม่ขัดแย้งกับใคร
วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงอาคารรัฐสภา เพื่อเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วันสุดท้าย ช่วง 10.44 น. โดยนายกรัฐมนตรี บอกว่า พอใจภาพรวมการอภิปราย ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ซึ่งสิ่งที่หลายคนพูดนั้นเป็นประโยชน์ ได้รับฟังทุกคน ทุกความเห็น ส่วนการตั้งงบกลาง 4 แสนล้านบาท เพื่อความจำเป็นในการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งกรณีช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย การบริหารจัดการน้ำ ช่วยเหลือภาคการเกษตร การแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง อีกทั้งการไปประชุม ครม.สัญจร บางครั้งมีการอนุมัติโครงการที่เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน หรือโครงการขนาดเล็ก ก็สามารถใช้งบกลางได้
ส่วนการตั้งงบกระทรวงกลาโหม 2.3 แสนล้านบาท นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บางคนอาจไม่ทราบว่าทหารทำอะไรบ้าง ขณะนี้มี 7 กองกำลังที่อยู่รอบชายแดนดูแลเรื่องความมั่นคง ซึ่งงบที่นำไปจัดซื้อยุทโธปกรณ์ มีเพียง 7 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมา แม้หลายคนมองว่ากองทัพมียุทโธปกรณ์เยอะแล้วแต่อยากให้มองเรื่องความทันสมัยด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการตั้งงบขาดดุล ที่ก่อให้เกิดหนี้สาธารณะ ด้วยการกู้เงิน ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบวินัยการเงิน การคลัง แม้ตัวเลขอาจทำให้ดูน่ากลัว แต่ต้องดูภาพรวมขีดความสามารถในการหาเงินมาพิจารณาควบคู่ด้วย ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน อยากให้มองว่าเป็นการลงทุนร่วมกัน เมื่อเอกชนลงทุนรัฐก็ได้ภาษี หรือผลพลอยได้ที่เกิดจากการลงทุนที่ทำให้เกิดการค้าขาย และการลงทุน
ส่วนการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ วันนี้ ฝ่ายค้านยังชี้จุดบกพร่องในการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาล โดยเฉพาะการเพิ่มงบด้านความมั่นคง พร้อมขอรัฐบาลให้ความสำคัญกับงบประมาณด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา และด้านการเกษตรให้มากกว่านี้
โดย นายวันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผิดหวัง กับ ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ เพราะมีการเรียงลำดับไม่ถูกต้องตามสถานการณ์ รัฐบาลจัดสรรงบดูแลเกษตรกรเพิ่มขึ้นในปีนี้ เพียงร้อยละ 1.1 ทั้งที่มีเกษตรกรถึงร้อยละ 38 ของประชากรทั้งประเทศ ส่วนงบประมาณด้านการศึกษาส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนเพียงร้อยละ 0.1 ขณะที่งบประมาณกระทรวงกลาโหมเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.74 อ้างว่าขยายตามจีดีพีของประเทศ
ขณะที่ นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ตั้งฉายา ว่า เป็นงบประมาณฉบับหอมหวาน แบบคาหนังคาเขา ทั้งไม่ชอบมาพากล ไม่รอบคอบ ไม่รัดกุม ไม่บูรณาการร่วมกันกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และไม่มีความร่วมมือกับนักวิชาการในมหาวิทยาลัยและประชาชน
ขณะที่นายสันติ กีระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 63 เชื่อว่าประเทศไทยมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง มีทุนสำรองระหว่างประเทศมากกว่า 2 แสนล้านดอลล่าสหรัฐ และเชื่อว่า GDP จะขยายตัวได้ร้อยละ 3 แต่สิ่งที่ต้องแก้ไขคือ การผลักดันให้รัฐวิสาหกิจสร้างรายได้ให้ประเทศมากขึ้น และต้องลดความเหลื่อมล้ำในสังคม .- สำนักข่าวไทย