ห้วยขวาง 19 ต.ค. – รวบ ป้ามหาภัย พบทำมานานกว่า 2 ปี ทำเพราะความชอบ มองไม่ใช่สิ่งผิด เพราะไม่ได้ขโมยของใคร
เจ้าหน้าที่ตำรวจห้วยขวาง ได้ทำการเชิญตัว น.ส.ยุพาพร พันธัง วัย 53 ปี หรือ ป้ามหาภัย เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อ 6 โมงเย็นวานนี้ ในข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้า โดยในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพาป้าไปเปรียบเทียบปรับที่ศาลต่อไป
จากการสอบปากคำ ป้ามหาภัย ให้การว่า ป้าได้ทำก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมานานกว่า 2 ปีแล้ว โดยส่วนตัวเป็นความย้ำคิดย้ำทำ และรู้สึกว่าไม่ใช่สิ่งที่ผิด เพราะไม่ได้ไปขโมยของของใคร ที่ทำไป ก็แล้วแต่คนจะให้ และมันคือความสุขที่ในทุกๆ เช้าจะต้องนั่งรถออกไปเรื่อยๆ และพบเจอผู้คนและก็ได้ขอความช่วยเหลือจากคนที่พบเห็น และในแต่ละวันที่ออกไปหาเงิน ก็จะมีเป้าหมายไว้ว่า วันนี้จะต้องได้เงินเท่าไร สำหรับเงินที่ได้นั้นป้าก็เอาไปใช้สอยตามปกติ
สำหรับประวัติของตัวป้า ป้าเรียนมาหลายคณะ แต่ในปัจจุบันเรียน เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ก่อนหน้านี้ยังทำงานเป็นนักสื่อสารองค์กร และยังเป็นโบรกเกอร์ ทำให้มีวิธีกระบวนการคิดที่ค่อนข้างซับซ้อน
ด้านพันตำรวจเอก ภูริส จินตรานันท์ ผู้กำกับ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า เบื้องต้นที่ได้พูดคุยกับคุณป้าก็พยายามปรับความเข้าใจให้ป้าทราบว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ผิด และให้ออกมาขอโทษสังคม และไม่อยากให้ป้าก่อเหตุแบบนี้อีก โดยในวันพรุ่งนี้จะทำการพาป้าไปเปรียบเทียบต่อไป
ย้อนไปเมื่อ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา น.ส.ธารีรัตน์ ศาสนะสุพิน อายุ 23 ปี นิสิตชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับป้ามหาภัยคนนี้ ที่หลอกขอเงินประชาชนตามสถานีรถไฟฟ้า อ้างว่าถูกคนร้ายกรีดกระเป๋า โทรศัพท์ ทรัพย์สินสูญหาย หลอกให้เหยื่อเห็นใจสงสาร ก่อนจะออกอุบายรบเร้าขอเงิน โดยก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2558 แต่ยังไม่มีใครมาแจ้งความดำเนินคดี วันนี้จึงตัดสินใจนำหลักฐานเป็นภาพถ่ายของคุณป้า อายุประมาณ 50 ปี สวมเสื้อผ้าสีดำ ในวันเกิดเหตุ วันที่ 13 ตุลาคม เวลาประมาณ 23.40 น. ที่บริเวณริมถนนรัชดา ทางเข้าที่ 3 ห้างสรรพสินค้าเดอะสตรีท มาแจ้งความข้อหาพยายามฉ้อโกง และหมิ่นประมาท เนื่องจากป้ามีความพยายามสร้างเรื่องรบเร้าขอเงิน อ้างว่าถูกกรีดกระเป๋า แต่ตนรู้ทันว่าป้าเป็นมิจฉาชีพ เพราะเห็นคนโพสต์ในโลกโซเชียลตั้งแต่ปี 2558 จึงบอกให้ป้ามาแจ้งความ แต่ป้าไม่ยอมมาแจ้งความ พร้อมกับด่าทอตนกลับด้วยคำหยาบคายเสียหาย เรื่องนี้อยากให้ดำเนินคดีเป็นเยี่ยงอย่าง ไม่อยากให้ป้าไปหลอกลวงคนอื่น และอยากให้ลูกหลานมารับป้าไปดูแล
พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยด้วยว่า เรื่องนี้ตำรวจไม่นิ่งนอนใจ เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เบื้องต้น ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว ขณะนี้ทราบชื่อ ที่อยู่ ของป้าคนนี้แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยหรือดำเนินคดีได้ ต้องรอให้ผู้เสียหายมาแจ้งความก่อน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า ถ้ามีการแจ้งความแล้วก็ประสานให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา โดยพิจารณาจากพฤติการณ์ ถ้าป้ารบเร้าออกอุบายขอเงินเหยื่อ ก็อาจจะเข้าข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญให้ประชาชน ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษ แต่ถ้ามีการด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายด้วย ก็อาจจะโดนข้อหาหมิ่นประมาท หรือดูหมิ่นซึ่งหน้า
เราไปดูเฟซบุ๊กของ :Miranda Taree ที่มีการแชร์เรื่องราวเตือนภัย กรณีที่คุณป้าคนหนึ่งซึ่งเป็นมิจฉาชีพ โดยป้าคนนี้จะชอบใช้มุกที่ว่าตนถูกกรีดกระเป๋า แล้วมาขอเงินเหยื่อ ซึ่งมีรายงานว่าพฤติกรรมของป้าคนนี้เคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วตั้งแต่ปี 2558 แต่รอบนี้เหยื่อซึ่งเป็นหญิงสาวกลับรู้ทัน และนำมาโพสต์เตือนภัยล่าสุด เล่าเหตุการณ์เตือนภัยซึ่งเธอระบุว่า เคยอ่านวีรกรรมของป้ารายนี้มาก่อน ทำให้จับไต๋ได้ทัน โดยป้าเล่าว่าตัวเองกระเป๋าโดนกรีดทั้งเงิน โทรศัพท์มือถือหายไปหมด ทำทีว่าจะขอเงิน เธอเลยแนะนำให้ไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้เผื่อคนร้ายเอาบัตรป้าไปทำไม่ดี และตำรวจจะช่วยป้าไปส่งบ้านหรือติดต่อญาติป้าให้ ซึ่งเธอแนะนำอย่างไรไป ป้าคนนี้ก็ไม่ยอมและปฏิเสธตลอด
เมื่อป้ารู้ตัวว่าคงไม่ได้เงินจากหญิงสาวผู้โพสต์ จึงทำท่าเหมือนจะเดินหนี หญิงสาวเลยพูดขึ้นว่า “หนูรู้นะป้า ป้ามาหลอกหาเงินแบบนี้ไม่ดีนะ คนเค้าแจ้งเตือนลงเฟซบุ๊ก โดนป้าหลอกมาหลายคน ทำมาเป็นกระเป๋าโดนกรีด” ทว่าหลังจากนั้นคุณป้ามหาภัยคนนี้ก็จัดการด่ากราดใส่สาวผู้โพสต์ชุดใหญ่
พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยกับ “คมชัดลึกออนไลน์” ถึงกรณีป้ามหาภัย หลังจากเข้าไปตรวจสอบห้องพัก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ภายในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ภายในซอยลาดพร้าว 80/2 โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้บุกเข้าไปค้นภายในห้องพัก แต่ได้ขอความร่วมมือกับทางเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ให้นำเอกสารภายในห้องพักของคุณป้าออกมาตรวจสอบ พบว่ามีเอกสาร หนังสือธรรมะ อยู่ภายในห้อง ซึ่งในสมุดโน้ตมีการเขียนคติธรรมะต่างๆ และยังเขียนข้อความเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย คาดว่าคุณป้าเป็นคนมีความรู้สูง สามารถแต่งประโยคเป็นภาษาอังกฤษได้ดี และยังพบลายมือเขียนลงในสมุดโน้ต ถึงคติประจำใจที่ระบุว่า ชีวิตเกิดมาเพื่อแบ่งปัน, คนเราควรจะมีความฝันที่มีคุณค่า
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ภูริส สันนิษฐานว่า คุณป้าคนดังกล่าวอาจมีอาการป่วย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำผู้ทีได้รับผลกระทบ รวมถึงมีการติดตามพฤติกรรม ซักประวัติคนในครอบครัว
ขณะเดียวกันทางผู้กำกับจึงอยากวอนสังคมอย่าเพิ่งตัดสินป้า เพราะเราต้องตรวจสอบก่อน ว่าก่อนหน้านี้คุณป้าไปอยู่ที่ไหนมา รักษาอาการป่วยอยู่หรือไม่ เพราะทางเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ให้ข้อมูลว่า ป้าเองชอบเก็บตัวอยู่แต่ในห้องมานานถึง 3 ปี ซึ่งวันสุดท้ายที่พบคุณป้าคือวันที่ 14 ตุลาคม 2562
ล่าสุดวันนี้ ทางผู้ที่ได้รับผลกระทบได้รวมตัวไปแจ้งความกับทาง สน.ห้วยขวาง ไว้เรียบร้อยแล้ว .- สำนักข่าวไทย