รวบ “ป้ามหาภัย” ออกอุบายขอเงินเหยื่อ ทำเพราะชอบ ไม่ใช่สิ่งผิด

ห้วยขวาง 19 ต.ค. – รวบ ป้ามหาภัย พบทำมานานกว่า 2 ปี ทำเพราะความชอบ มองไม่ใช่สิ่งผิด เพราะไม่ได้ขโมยของใคร





เจ้าหน้าที่ตำรวจห้วยขวาง ได้ทำการเชิญตัว ..ยุพาพร พันธัง วัย 53 ปี หรือ ป้ามหาภัย เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อ 6 โมงเย็นวานนี้ ในข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้า โดยในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพาป้าไปเปรียบเทียบปรับที่ศาลต่อไป


จากการสอบปากคำ ป้ามหาภัย ให้การว่า ป้าได้ทำก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมานานกว่า 2 ปีแล้ว โดยส่วนตัวเป็นความย้ำคิดย้ำทำ และรู้สึกว่าไม่ใช่สิ่งที่ผิด เพราะไม่ได้ไปขโมยของของใคร ที่ทำไป ก็แล้วแต่คนจะให้ และมันคือความสุขที่ในทุกๆ เช้าจะต้องนั่งรถออกไปเรื่อยๆ และพบเจอผู้คนและก็ได้ขอความช่วยเหลือจากคนที่พบเห็น และในแต่ละวันที่ออกไปหาเงิน ก็จะมีเป้าหมายไว้ว่า วันนี้จะต้องได้เงินเท่าไร สำหรับเงินที่ได้นั้นป้าก็เอาไปใช้สอยตามปกติ

สำหรับประวัติของตัวป้า ป้าเรียนมาหลายคณะ แต่ในปัจจุบันเรียน เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ก่อนหน้านี้ยังทำงานเป็นนักสื่อสารองค์กร และยังเป็นโบรกเกอร์ ทำให้มีวิธีกระบวนการคิดที่ค่อนข้างซับซ้อน

ด้านพันตำรวจเอก ภูริส จินตรานันท์ ผู้กำกับ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า เบื้องต้นที่ได้พูดคุยกับคุณป้าก็พยายามปรับความเข้าใจให้ป้าทราบว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ผิด และให้ออกมาขอโทษสังคม และไม่อยากให้ป้าก่อเหตุแบบนี้อีก โดยในวันพรุ่งนี้จะทำการพาป้าไปเปรียบเทียบต่อไป

ย้อนไปเมื่อ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ..ธารีรัตน์ ศาสนะสุพิน อายุ 23 ปี นิสิตชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับป้ามหาภัยคนนี้  ที่หลอกขอเงินประชาชนตามสถานีรถไฟฟ้า อ้างว่าถูกคนร้ายกรีดกระเป๋า โทรศัพท์ ทรัพย์สินสูญหาย หลอกให้เหยื่อเห็นใจสงสาร ก่อนจะออกอุบายรบเร้าขอเงิน โดยก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2558 แต่ยังไม่มีใครมาแจ้งความดำเนินคดี วันนี้จึงตัดสินใจนำหลักฐานเป็นภาพถ่ายของคุณป้า อายุประมาณ 50 ปี สวมเสื้อผ้าสีดำ ในวันเกิดเหตุ วันที่ 13 ตุลาคม เวลาประมาณ 23.40 . ที่บริเวณริมถนนรัชดา ทางเข้าที่ 3 ห้างสรรพสินค้าเดอะสตรีท มาแจ้งความข้อหาพยายามฉ้อโกง และหมิ่นประมาท เนื่องจากป้ามีความพยายามสร้างเรื่องรบเร้าขอเงิน อ้างว่าถูกกรีดกระเป๋า แต่ตนรู้ทันว่าป้าเป็นมิจฉาชีพ เพราะเห็นคนโพสต์ในโลกโซเชียลตั้งแต่ปี 2558 จึงบอกให้ป้ามาแจ้งความ แต่ป้าไม่ยอมมาแจ้งความ พร้อมกับด่าทอตนกลับด้วยคำหยาบคายเสียหาย เรื่องนี้อยากให้ดำเนินคดีเป็นเยี่ยงอย่าง ไม่อยากให้ป้าไปหลอกลวงคนอื่น และอยากให้ลูกหลานมารับป้าไปดูแล

...ภูริส จินตรานันท์ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยด้วยว่า เรื่องนี้ตำรวจไม่นิ่งนอนใจ เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เบื้องต้น ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว ขณะนี้ทราบชื่อ ที่อยู่ ของป้าคนนี้แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยหรือดำเนินคดีได้ ต้องรอให้ผู้เสียหายมาแจ้งความก่อน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า ถ้ามีการแจ้งความแล้วก็ประสานให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา โดยพิจารณาจากพฤติการณ์ ถ้าป้ารบเร้าออกอุบายขอเงินเหยื่อ ก็อาจจะเข้าข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญให้ประชาชน ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษ แต่ถ้ามีการด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายด้วย ก็อาจจะโดนข้อหาหมิ่นประมาท หรือดูหมิ่นซึ่งหน้า

เราไปดูเฟซบุ๊กของ :Miranda Taree ที่มีการแชร์เรื่องราวเตือนภัย กรณีที่คุณป้าคนหนึ่งซึ่งเป็นมิจฉาชีพ โดยป้าคนนี้จะชอบใช้มุกที่ว่าตนถูกกรีดกระเป๋า แล้วมาขอเงินเหยื่อ ซึ่งมีรายงานว่าพฤติกรรมของป้าคนนี้เคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วตั้งแต่ปี 2558 แต่รอบนี้เหยื่อซึ่งเป็นหญิงสาวกลับรู้ทัน และนำมาโพสต์เตือนภัยล่าสุด เล่าเหตุการณ์เตือนภัยซึ่งเธอระบุว่า เคยอ่านวีรกรรมของป้ารายนี้มาก่อน ทำให้จับไต๋ได้ทัน โดยป้าเล่าว่าตัวเองกระเป๋าโดนกรีดทั้งเงิน โทรศัพท์มือถือหายไปหมด ทำทีว่าจะขอเงิน เธอเลยแนะนำให้ไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้เผื่อคนร้ายเอาบัตรป้าไปทำไม่ดี และตำรวจจะช่วยป้าไปส่งบ้านหรือติดต่อญาติป้าให้ ซึ่งเธอแนะนำอย่างไรไป ป้าคนนี้ก็ไม่ยอมและปฏิเสธตลอด

เมื่อป้ารู้ตัวว่าคงไม่ได้เงินจากหญิงสาวผู้โพสต์ จึงทำท่าเหมือนจะเดินหนี หญิงสาวเลยพูดขึ้นว่าหนูรู้นะป้า ป้ามาหลอกหาเงินแบบนี้ไม่ดีนะ คนเค้าแจ้งเตือนลงเฟซบุ๊ก โดนป้าหลอกมาหลายคน ทำมาเป็นกระเป๋าโดนกรีดทว่าหลังจากนั้นคุณป้ามหาภัยคนนี้ก็จัดการด่ากราดใส่สาวผู้โพสต์ชุดใหญ่

...ภูริส จินตรานันท์ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยกับคมชัดลึกออนไลน์ถึงกรณีป้ามหาภัย หลังจากเข้าไปตรวจสอบห้องพัก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ภายในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ภายในซอยลาดพร้าว 80/2 โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้บุกเข้าไปค้นภายในห้องพัก แต่ได้ขอความร่วมมือกับทางเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ให้นำเอกสารภายในห้องพักของคุณป้าออกมาตรวจสอบ พบว่ามีเอกสาร หนังสือธรรมะ อยู่ภายในห้อง ซึ่งในสมุดโน้ตมีการเขียนคติธรรมะต่างๆ และยังเขียนข้อความเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย คาดว่าคุณป้าเป็นคนมีความรู้สูง สามารถแต่งประโยคเป็นภาษาอังกฤษได้ดี และยังพบลายมือเขียนลงในสมุดโน้ต ถึงคติประจำใจที่ระบุว่า ชีวิตเกิดมาเพื่อแบ่งปัน, คนเราควรจะมีความฝันที่มีคุณค่า

ทั้งนี้ ...ภูริส สันนิษฐานว่า คุณป้าคนดังกล่าวอาจมีอาการป่วย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำผู้ทีได้รับผลกระทบ รวมถึงมีการติดตามพฤติกรรม ซักประวัติคนในครอบครัว

ขณะเดียวกันทางผู้กำกับจึงอยากวอนสังคมอย่าเพิ่งตัดสินป้า เพราะเราต้องตรวจสอบก่อน ว่าก่อนหน้านี้คุณป้าไปอยู่ที่ไหนมา รักษาอาการป่วยอยู่หรือไม่ เพราะทางเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ให้ข้อมูลว่า ป้าเองชอบเก็บตัวอยู่แต่ในห้องมานานถึง 3 ปี ซึ่งวันสุดท้ายที่พบคุณป้าคือวันที่ 14 ตุลาคม 2562

ล่าสุดวันนี้ ทางผู้ที่ได้รับผลกระทบได้รวมตัวไปแจ้งความกับทาง สน.ห้วยขวาง ไว้เรียบร้อยแล้ว .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.ออกแถลงการณ์กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

30 ก.ค.- กองทัพบกออกแถลงการณ์ กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงเป็นครั้งที่สอง บ่อนทำลายการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี ขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบ ย้ำจะดำเนินการอย่างเหมาะสม เด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยไทย ตามที่รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการประกาศหยุดยิง เพื่อยุติการปะทะทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 นาฬิกา ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 นั้น กองทัพบกขอยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด โดยได้ระงับการใช้กำลังทุกรูปแบบ และลดกิจกรรมทางทหารในพื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งสันติภาพ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ตาม กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า ในวันที่ 29 – 30 กรกฎาคม 2568 กองทัพกัมพูชาได้กระทำการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ การกระทำของกองทัพกัมพูชาในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง นับเป็นครั้งที่สองภายหลังจากที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ และสะท้อนถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพต่อพันธกรณีระหว่างประเทศ ตลอดจนเป็นการบ่อนทำลายความพยายามในการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความไว้วางใจที่ควรมีระหว่างสองประเทศ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบของกองทัพกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอแจ้งให้ทราบว่า ฝ่ายไทยจะยังคงดำรงตนอยู่บนหลักแห่งความอดกลั้น สันติภาพ และมนุษยธรรมอย่างสูงสุด อย่างไรก็ดี หากมีการละเมิดต่อเนื่อง กองทัพบกจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมและจำเป็นอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทยโดยไม่ละเว้น จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน -สำนักข่าวไทย

กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เปิดแนวปะทะพื้นที่ “อานม้า-ภูมะเขือ”

30 ก.ค. – กัมพูชากลับกลอก ละเมิดข้อตกลงอีก เปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ “อานม้า และภูมะเขือ” ขณะที่ ทบ.เผยทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็ก สลับระเบิดขว้าง เมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยก่อนอีกแล้ว ละเมิดข้อตกลงถึง 2 ครั้ง โดยเปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ที่ อานม้า และภูมะเขือ ทบ.เปิดเผยว่า ทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็กสลับระเบิดขว้าง โดยเมื่อเวลา 20.45 น. แหล่งข่าวฝ่ายมั่นคงรายงานว่า ช่องอานม้า มีเหตุปะทะ กัมพูชาเปิดฉากยิง หวังยึดพื้นที่ ฝ่ายไทยตอบโต้ ขณะที่ช่วงเวลา 22.19 น. พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบขั้นต้นเกิดเหตุปะทะที่ภูมะเขือ และช่องอานม้า โดยมีปืนเล็กกับระเบิดขว้างเข้ามาที่ฐานฝั่งไทย ประมาณ 30 นาที ขณะที่เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์ไม่ต้องนอน ตามคาด! กัมพูชาละเมิดอีกแล้ว อานม้าปะทะภูมะเขือ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสาน-กลาง-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย