“ภรรยาธนาธร” แจงเหตุขึ้นเช็คค่าหุ้น บ.วี-ลัค มีเดีย ช้า

ศาลรัฐธรรมนูญ 18 ต.ค.-“ภรรยาธนาธร” แจงเหตุขึ้นเช็คค่าหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย ช้า เนื่องจากเป็นแม่ลูกอ่อน มั่นใจเช็คไม่เด้ง ชี้บริษัทแค่รับพิมพ์งานให้นกแอร์ ไม่ได้ทำเนื้อหาเอง ด้าน “หลานธนาธร” เบิกความชัด “สมพร” โอนหุ้นวี-ลัคมีเดีย ให้ฟื้นฟูกิจการ ย้ำชัดสถานะหลานได้หุ้นหลักล้านไม่แปลก หลังจบการไต่สวน ศาลนัดอ่านคำวินิจฉัย 20 พ.ย.นี้ ให้ส่งคำแถลงปิดคดีภายใน 15 วัน ช


ศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ (18 ต.ค.) นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ  ภรรยานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ , น.ส.ลาวัลย์ จันทร์เกษม และ น.ส.กานติ์ฐิตา อ่วมขำ พนักงานบริษัทไทยซัมมิท โอโต้พาร์ค อินดัสตรี จำกัด  ซึ่งเป็นพยานในคดีที่ กกต.ร้องขอให้ศาลรัฐธวรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากถือหุ้นสื่อบริษัทวี –ลัค มีเดีย จำกัด ได้เข้าให้ถ้อยคำต่อศาล

นางรวิพรรณ ชี้แจงว่า การโอนหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย ในวันที่ 8 มกราคม 2562 มีการนัดหมายกันที่บ้าน ทนายมาจัดเตรียมเอกสารในห้องทำงาน จากนั้นนายธนาธร กลับมาจาก จ.บุรีรัมย์ ทักทายกันเสร็จ ก็ไปอาบน้ำ  ซึ่งต่อมาคุณลาวัลย์ กานต์ฐิตา ก็เดินทางมาสมทบ พอนายธนาธรอาบน้ำเสร็จก็มานั่งคุยกันและเซ็นเอกสาร  ซึ่งเอกสารสัญญาทางทนายเป็นคนเตรียมมา โดยในส่วนของตนก็ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน และเมื่อเซ็นเสร็จก็มีการติดอากรแสตมป์ในวันนั้น โดยเจ้าหน้าที่การเงินของบริษัทไทยซัมมิท เตรียมมา หลังเซ็นเสร็จ คุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็มีการเซ็นเช็คจ่ายค่าตอบแทนการโอนหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย ให้คุณธนาธรและตน คนละฉบับ ซึ่งเช็คทั้งสองใบ ตนเองเป็นคนเก็บและนำไปขึ้นเดือนพฤษภาคม 2562 ด้วยตนเอง เหตุที่เว้นหลายเดือน เป็นเรื่องปกติ เพราะที่ผ่านมา จะรวบรวมหลายฉบับแล้วนำไปขึ้นพร้อมกันทีเดียว เช่น ในปี 2560 เคยนำเช็คไปขึ้นทีเดียว 10 ฉบับ เพราะการขึ้นเช็คก็จะไม่มอบให้ใครไปดำเนินการ ขณะเดียวกันช่วงนั้นเพิ่งคลอดลูกคนเล็กเดือนกันยายน จึงต้องเลี้ยงลูก และเห็นว่าเป็นเช็คบริษัทในเครือฯ ไม่มีปัญหาเด้งแน่ จึงไม่ได้รีบนำไปขึ้น แต่ต่อมาเมื่อเกิดกระแสข่าวเรื่องการโอนหุ้น เมื่อได้รับเช็คที่ทนายนำมาแสดงต่อ กกต. คืน จึงรีบนำไปขึ้นเงิน       


ส่วนที่บริษัทจะเลิกกิจการแต่ทำไมจึงทำสัญญากับบริษัทนกแอร์ นางรวิพรรณ ชี้แจงว่า ตอนเข้ามาบริหารปี 2554 นอกจากผลิตนิตยสารฮูแล้ว ก็รับจ้างนกแอร์ผลิตนิตยสาร จิ๊บ จิ๊บ โดยไม่ได้ทำเนื้อหา จนปี 2559 ธุรกิจสิ่งพิมพ์ซบเซา แต่ในส่วนของการผลิตนิตยสารให้กับนกแอร์ ยังมีรายได้ไม่ขาดทุนอยู่และยังมีสัญญาอยู่ จึงมีการปิดกองบรรณาธิการฮูเท่านั้น ส่วนอื่นยังทำหน้าที่ต่อไป ไม่ได้ยุบ                

ด้าน น.ส.ลาวัลย์ จันทร์เกษม ผู้จัดการทั่วไปดูแลสายงานบัญชี บริษัทไทยซัมมิท โอโต้พาร์คอินดัสตรี จำกัด ชี้แจงว่า ทำงานบริษัทนี้มา 15 ปี ซึ่งหลักการ ๆ โอนหุ้น เมื่อมีการโอนหุ้นแล้ว ก็ได้มีการลงในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น และนำเอกสารไปแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่บริษัทเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ตนจึงไม่ได้เป็นผู้นำส่งสำเนาทะเบียนผู้ถือหุ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเรื่องหุ้นที่ผ่านมา มีไม่มาก มีปีที่ผ่านมาค่อนข้างเยอะ ยอมรับว่าตนลงนามเป็นพยานในการโอนหุ้นวันที่ 8 มกราคม 2562 โดยเดินทางไปถึงบ้านนายธนาธร พร้อมกับน.ส.กานต์ฐิตา และได้ร่วมตรวจสอบตราสารการโอนหุ้นว่าการโอนจากผู้โอน ผู้รับโอน ชื่อ มูลค่าหุ้น ถูกต้องหรือไม่ และร่วมลงนามในเอกสารระหว่างผู้โอน ผู้รับโอน โดยไปบ้านนายธนาธรกับ น.ส.กานต์ฐิตา ประมาณเวลา 17.00 น. พร้อม ๆ กับที่นางสมพร เดินทางมาถึง ซึ่งขณะนั้นทนายความรออยู่ภายในบ้านก่อนแล้ว

น.ส.ลาวัลย์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังเป็นพยานในการโอนหุ้นวันที่ 14 มกราคม ระหว่างนางสมพรกับหลานชายทั้งสองคน ที่บ้านนางสมพร ซึ่งมีบ้านอยู่ตรงกับข้ามกับบ้านนายธนาธร ในหมู่บ้านเลคไซด์วิลล่า 2 โดยวันดังกล่าว นางสมพรอยู่ภายในบ้านอยู่แล้ว มีนายพิพัฒน์พงศ์ ทนายความ ตนเอง น.ส.กานติ์ฐิตา และนายทวี นายปิติ จรุงสถิตย์พร หลานชายทั้งสองคนเดินทางมาสมทบตามลำดับ และยังเป็นพยานในการโอนหุ้นคืนระหว่างหลานชายทั้งสองคนกับนายสมพร วันที่ 21 มีนาคม ซึ่งทั้ง 3 ครั้งเมื่อโอนเสร็จ จะมีการลงในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นบริษัท               


ด้าน น.ส.กานติ์ฐิตา อ่วมขำ กล่าวว่า รับผิดชอบงานด้านการเงิน บริษัทไทยซัมมิทโอโต้พาร์ค อินดัสตรี มา 22 ปี การโอนหุ้นในวันที่ 8 มกราคม 2562 ตนอยู่ในเหตุการณ์ โดยเดินทางไปพร้อม น.ส.ลาวัลย์  ถึงบ้านนายธนาธร เวลา 17.00 น. โดยช่วงปลายปี 2561 ทราบข้อมูลว่าจะมีการโอนเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นใน 10 บริษัท รวมถึงบริษัทวี-ลัค มีเดีย ในฐานะฝ่ายการเงินของบริษัท จึงต้องเข้าไปรับทราบ โดยยอมรับว่าได้ลงนามเป็นพยานในตราสารการโอนหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดียว วันที่ 8 มกราคม 2562 และเป็นพยานการโอนหุ้นระหว่างนางสมพร กับหลานชายในวันที่ 14 มกราคม 2562 และการโอนคืนระหว่างหลานชายมายังนางสมพร วันที่ 21 มีนาคม 2562

จากนั้น ศาลฯ เบิกตัวนายปิติ จรุงสถิตพงศ์ (หลานเอ) ขึ้นเบิกความว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับหุ้นวี-ลัค มีเดีย อย่างไร โดยนายปิติ ยืนยัน ว่ามีการโอนหุ้นในวันที่ 14 มกราคม 2562 และโอนคืนในวันที่ 21 มีนาคม หลังการคุยแผนธุรกิจในวันที่ 19 มีนาคม ที่ประสงค์ให้นางสมพร ลงทุนเพิ่ม แต่นางสมพรไม่ตกลง ตนจึงตัดสินใจโอนหุ้นคืน โดยตนและน้องชายไปโอนหุ้นที่บ้านพักของนางสมพร ในวันดังกล่าว มีพนักงานบริษัทไทยซัมมิทและทนายความเป็นพยาน  ส่วนเอกสารเกี่ยวกับการโอนหุ้นนั้น ตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้จัดทำ แต่คิดว่าทางบริษัทไทยซัมมิทเป็นผู้ดำเนินการ โดยในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 19 มีนาคม มีรายละเอียดเรื่องการเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้น 5 คน ทั้งนี้การโอนรับหุ้นในวันที่ 14 มกราคม 2562 และโอนคืนในวันที่ 21 มีนาคม ไม่มีการชำระเงินใด ๆ กับหุ้นตัวนี้

ส่วนนายทวี จรุงสถิตพงศ์  (หลานบี ) เบิกความว่า ตนมีอาชีพประกอบธุรกิจส่วนตัว กรณีบริษัทวี-ลัค มีเดียนั้น ตนเข้าไปเกี่ยวข้องเพราะได้รับหุ้นมาจากนางสมพร โดยในวันที่ 14 มกราคม 2562 ทำสัญญาโอนหุ้นที่บ้านนางสมพร  ซึ่งมีการเตรียมเอกสารไว้พร้อมแล้ว โดยตนรับโอนหุ้นมาเพื่อฟื้นฟูกิจการ นำธุรกิจมาทำใหม่ เนื่องจากตนเรียนจบสาขานิเทศศาสตร์ หลังจากได้รับมอบหมาย ได้ใช้เวลาอยู่สักพักหนึ่งในการวิเคราะห์แผนธุรกิจมานำเสนอ 2 แนวทาง คือ การปรับโครงสร้างจากสื่อสิ่งพิมพ์มาเป็นอีบุ๊ค หรือเพิ่มเป็นผู้พิมพ์ด้วย เนื่องจากมีเทคโนโลยีการพิมพ์แบบใหม่ ๆ แต่ทั้ง 2 แนวทาง นางสมพร ต้องเพิ่มเงินลงทุน ต่อมาเมื่อนางสมพรตัดสินใจไม่ทำธุรกิจต่อ ตนจึงโอนหุ้นคืนให้ในวันที่ 21 มีนาคม ซึ่งในวันดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่บัญชีกับทนายความร่วมเป็นพยาน โดยในการโอนหุ้นไม่มีการชำระเงินค่าหุ้นแต่อย่างใด

หลังเสร็จสิ้นการไต่สวนพยาน 10 ปาก ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ศาลได้แจ้งคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายว่าศาลนัดฟังคำวินิจฉัยคดีนี้ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 เวลา 14.00 น. และให้คู่กรณีส่งคำแถลงปิดคดีภายในเวลา 15 วัน นับจากวันนี้ (18 ต.ค.).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

“ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” ไม่กังวลปมคุณสมบัติ

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” อุบตอบ “กล้าธรรม” ได้กระทรวงอะไรเพิ่ม ไม่กังวลปมคุณสมบัติ เหตุตัวเองเป็น “รมต.” มา 2 รอบแล้ว แย้ม เลขาฯ พรรค ต้องได้เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้นเวลา 16.50 น. นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส เดินลงจากที่ทำการพรรคมายังร้านกาแฟจาริสต้าร์ ซึ่งมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส สั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มาซื้อกาแฟวันนี้ หมายความว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนมารับภรรยา เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมมีการพูดคุยตำแหน่งรัฐมนตรีลงตัวแล้วหรือไม่ […]

พายุไต้ฝุ่น ‘เผ่ย์ผ่า’ ถล่มชิซูโอกะในญี่ปุ่น

โตเกียว 6 พ.ย. – พายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในจังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าลมกระโชกแรงจากพายุลูกนี้ทำลายอาคารไปอย่างน้อย 220 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบกระแสลมแรงใน เขตเทศบาล 4 แห่งของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งรวมถึงเมืองโยชิดะและเมืองมากิโนะฮาระ เจ้าหน้าที่เมืองมากิโนะฮาระระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย ณ เวลา 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ยังรายงานด้วยว่า มีอาคารอย่างน้อย 43 หลังในเมืองมากิโนะฮาระถูกทำลายทั้งหมดหรือเสียหายครึ่งหนึ่งและอีก 184 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน พายุ “เผ่ย์ผ่า” ได้ลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น […]

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ใน กทม.และปริมณฑล-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ใน กทม.-ปริมณฑล และภาคตะวันออก บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอการระบาย กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอการระบาย โดยเฉพาะบริเวณชุมชนเมือง เช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 วอนอย่าหลงเชื่อข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง

7 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 วอนอย่าหลงเชื่อ ข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง ยันทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ชาติ พระมหากษัตริย์ และประชาชน เท่านั้น เมื่อวันที่ 7 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีสื่อโซเชียล นำภาพของตนมาประกอบกับข้อความเรื่องโยงการเมืองว่า ขอพี่น้องประชาชนโปรดอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เป็นการสร้างกระแส ยุยง ปลุกปั่น ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตนพูดชัดอยู่แล้วว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ตนเป็นทหาร ไม่ยุ่งเรื่องการเมืองอยู่แล้ว การเมืองก็ให้เขาว่ากันไป เรามีหน้าที่ดูแลอธิปไตยของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน นี่คือหน้าที่ของทหาร “ถึงผมจะเกษียณอีกไม่กี่วัน แต่ผมก็คือทหาร จะไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมืองอย่างแน่นอน” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

โคลนผุดบนถนนย่านวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นถนนทรุด

กทม. 7 ก.ย. – ดินโคลนผุดใต้พื้นถนนบริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นพื้นทรุดตัว เจ้าหน้าที่เร่งถมยางมะตอย หลังจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน ช่วงบ่ายของวันนี้ บริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ มีโคลนสีเหลือง ผุดขึ้นมาบนพื้นถนนจำนวนมาก จนทำให้การจราจรบริเวณนั้นติดขัด โดยพื้นที่บริเวณดังกล่าวกำลังมีการก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก ) ซึ่งสาเหตุที่มีโคลนสีเหลืองผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก สันนิษฐานว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุทำให้น้ำเข้าไปขังใต้พื้นถนนกลายเป็นดินโคลนที่ผุดขึ้นมา ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่โครงการรถไฟฟ้า ได้นำยางมะตอยเข้ามาถมจุดที่มีโคลนผุดขึ้นมา พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องการทรุดตัวของพื้นถนน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชนที่สัญจรเส้นทางดังกล่าว ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่จะสัญจรเส้นทางดังกล่าว หากไม่มีกรณีเร่งด่วนให้หลีกเลี่ยง หรือเปลี่ยนเส้นทางสัญจร เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน.-สำนักข่าวไทย

เขมรครึ่งร้อยป่วนบ้านหนองจานอีก

สระแก้ว 7 ก.ย. – ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย เกณฑ์เด็ก-ผู้หญิง เข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน สร้างเพิงพักชั่วคราวใกล้แนวชายแดน ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย โดยเกณฑ์เด็กและผู้หญิงเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน ใกล้หลักเขต 46 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ทั้งสร้างเพิงพักชั่วคราวบริเวณใกล้แนวชายแดน สถานการณ์โดยรวมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ปรากฏเหตุการณ์ความวุ่นวาย หรือการกระทบกระทั่งแต่อย่างใด ส่วนบริเวณจุดตรวจ 40 บ้านหนองจาน ผู้กำกับ สภ.โคกสูง ได้จัดกำลังตำรวจเข้าดูแลพื้นที่รักษาความปลอดภัย ช่วงเวลา 11.00 น. มีกลุ่มมวลชนเดินทางเข้ามาในพื้นที่ประมาณ 20 คน เหตุการณ์ทั่วไปยังปกติ.-สำนักข่าวไทย