“ชาดา ไทยเศรษฐ์” ชี้ ก.เกษตรฯต้องปฏิรูปใหม่”

16 ต.ค.-“ชาดา ไทยเศรษฐ์” กระตุ้นกระทรวงเกษตรฯต้องปฏิรูป  พร้อมตำหนิบางหน่วยงานทำตัวเหมือนเซลส์ขายสารเคมี ขณะที่สมาคมการเกษตรฯ 2 แห่ง โต้การแบน 3 สารอาจเสียงบค่าทำลาย 5,000 ล้านบาท และคณะทำงาน 4 ฝ่ายถูกอุปโลกน์ขึ้นมา


นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย โพสต์ Facebook ส่วนตัวว่า ขอพูดเรื่องแบนสาร 3 ตัว ที่ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการอยู่ และมีหลายคนเตือนผมว่า ผลประโยชน์มันเยอะ ทำยากไม่สำเร็จหรอกและอันตราย ซึ่งผมเคยบอกให้เอาเหตุผลมาแต่ขอให้อยู่บนผลประโยชน์สุขภาพของประชาชน ไม่ใช่ผลประโยชน์ของคนกลุ่มเดียว และอย่าใช้วิธีทำลายล้างกัน  “อย่ามาทำอะไรน้องสาวผมนะ!!!


นายชาดาฯ โพสต์ว่า  ดูไปดูมามันฝังผลประโยชน์กับระบบราชการลึกมาก มีนายทุนครอบงำ ทำให้ข้าราชการบางคนทำเหมือนกับว่าถ้าเลิกใช้สาร 3 จะทำให้ประเทศล่มสลาย อีกทั้งข้าราชการกระทรวงเกษตรฯบางคน หน่วยงานบางหน่วยงาน  ทำตัวเป็นเซลส์บริษัทขายสารเคมี เรื่องทั้งหมดเกิดจากกระทรวงเกษตรฯ ขาดสำนึกในการทำหน้าที่เพื่อเกษตกร  และองค์กรนี้ต้องปฏิรูปใหม่

ส่วนความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการแบน 3 สารทั้งคลอร์ไพริฟอส, พาราควอต และ ไกลโฟเซต ล่าสุดนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า เมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) ได้ลงนามหนังสือแจ้งมติคณะทำงาน 4 ฝ่ายที่มีมติเอกฉันท์ให้สารเคมี 3 ชนิดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4  โดยให้มีผล 1 ธันวาคมนี้ ก่อนมอบให้ปลัดกระทรวงฯส่งหนังสือไปยังปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย เสนอให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณา หลังจากนี้จะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่จะประชุมวันที่ 22 ตุลาคมว่า จะบรรจุเรื่องดังกล่าวเข้าสู่วาระหรือไม่ และจะมีมติอย่างไร


ด้านสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย  วันนี้ (16 ต.ค.) มีการแถลงข่าวเรื่อง “แบน 3 สารเคมีเกษตร ถามเกษตรกรหรือยัง?” โดย น.ส.วรณิกา นาควัชระ บีดิงเฮาส์ ผอ.การบริหาร สมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย ระบุว่า สมาคมฯและเกษตรกรกลุ่มพืชเศรษฐกิจหลักขอคัดค้านมติดังกล่าว เพราะคณะทำงานที่พิจารณาเรื่องดังกล่าวมีแต่กรรมการที่คัดค้านการใช้สารเคมี แต่ไม่มีตัวแทนเกษตรกรและตัวแทนผู้นำเข้าร่วม  และการประกาศยกเลิกจะทำให้เกษตรกรไม่มีสารใดมาทดแทน   และสต็อกสาร 3 ชนิดมีปริมาณเหลือ 40,000 ตัน  ในจำนวนนี้อยู่ในมือเกษตรกร 10,000 ตัน ต้องใช้งบรัฐบาลทำลายสารที่คงค้าง 4,000 – 5,000 ล้านบาท  ดังนั้น หากรัฐจะมีมติยกเลิกจริง ควรให้เวลาอย่างน้อย 2 ปี

ด้านนายมนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันฯ กล่าวว่า กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืชอุตสาหกรรม เตรียมยื่นศาลปกครองขอคุ้มครองฉุกเฉิน หากมีการแบนสาร 3 ชนิด ยืนยันว่าข้อมูลเอ็นจีโอที่นำออกมาเผยแพร่เป็นข้อมูลเท็จ  และคณะทำงานที่พิจารณาเรื่องดังกล่าวถูกอุปโลกน์ขึ้นมา เพื่อกดดันคณะกรรมการวัตถุอันตราย  ส่วนสารเคมีที่คาดว่าจะนำมาทดแทนพาราควอตและไกลโฟเซต คือ “กลูโฟซิเนต” ถือเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ราคาสูงกว่า “พาราควอต” จากถังละ 500 เป็นประมาณ 2,500 บาท  และต้องใช้เพิ่มขึ้น 1.5-2 เท่า ทำให้เกษตรกรมีต้นทุนเพิ่ม 12-14 เท่าตัว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้