กกต.ยกคำร้องพรรคเสรีรวมไทย-ปิยบุตร ถูกกล่าวหาใส่ร้ายด้วยความเท็จ

สำนักงาน กกต. 10 ต.ค.- กกต. ยกคำร้อง  “พรรคเสรีรวมไทย-ปิยบุตร” ถูกกล่าวหา  ใส่ร้ายด้วยความเท็จ-จูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม  ในการเลือกตั้งเมื่อ 24 มีนาคม  ชี้เป็นเพียงการวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมือง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.ที่ 130/2562  กรณีก่อนประกาศการเลือกตั้ง กกต. ได้รับคำร้องว่า พรรคเสรีรวมไทย และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่  เป็นผู้ถูกร้องที่ 1-2 ได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (5) กล่าวคือ ผู้ถูกร้องที่ 1-2 ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง

กรณีพรรคเสรีรวมไทย  ซึ่งมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “คนไทยหัวใจเสรี” ลงเผยแพร่ข้อความว่า “การบริหารประเทศที่เต็มไปด้วยการผูกขาด กฎระเบียบที่กดหัวประชาชน มองประชาชนเป็นแหล่งหาเงินส่งให้รัฐ ไม่ให้ประชาชนเรียนรู้ ไม่ส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง ปากก็อ้างว่าเศรษฐกิจพอเพียง ในเมื่อชาวนา พึ่งพาตัวเองได้ด้วยเมล็ดพันธุ์ที่เก็บไว้แล้ว ซึ่งก็ถูกต้องแล้ว พวกเอ็งยังมีหน้ามาดึงเอาสิ่งที่ชาวนาทำกันมาไปเป็นของนายทุน เราต้องบอกคนเฒ่าคนแก่ว่า พวกเผด็จการ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคที่ส่งเสริมประยุทธ์ เป็นนายกฯ กำลังจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนกันทั้งแผ่นดิน เพียงเพราะผลประโยชน์ของตัวเอง” 


และข้อความว่า “มันคืออะไรกัน แอดมินโกรธมาก #xxxx ขายข้าว ต้องผ่านรัฐ ขายเอง จับติดคุก คลอดแล้ว พ.ร.บ.ข้าว เก็บ 17% ชาวนาปวดใจ ปลูกข้าวได้แต่ห้ามขาย ฝืนโทษหนัก 5 ปี ปรับ 5 แสนบาท”  กกต.เห็นว่าเนื้อหาของข้อความเป็นการหยิบยกข่าวสารที่ได้นำเสนอทางสื่อต่าง ๆ มาวิพากษ์วิจารณ์  และแสดงความเห็นทางการเมือง ข้อความที่เผยแพร่ดังกล่าวไม่ถึงขนาดเป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จ  หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง

ส่วนกรณีนายปิยบุตร ได้ลงเผยแพร่ข้อความในเฟซบุ๊กว่า  “…คนอีสานถูกทำให้เชื่อว่าเป็นคนตลก เป็นแรงงาน ไม่มีความรู้ แต่แท้จริงแล้ว คนอีสาน คือ “เดินแดงกำแพงเหล็ก” เป็นดินแดนแห่งนักประชาธิปไตย นักต่อสู้ความอยุติธรรม ขจัดความเหลื่อมล้ำในประเทศนี้ ทำให้รัฐจากส่วนกลาง จับมือกับสื่อมวลชนบางกลุ่มผลิตสื่อเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้คนอีสาน เป็นคนตลก ไม่มีความรู้ นั่นก็เพราะพวกเขากลัวความเป็นนักต่อสู้ นักประชาธิปไตยแห่งแดนอีสาน ดังนั้นพรรคอนาคตใหม่ยืนยันจะเข้ารัฐสภาเพื่อทวงคืนอำนาจให้กับคนอีสาน…”นั้น   

กกต. เห็นว่า ข้อความดังกล่าว ไม่ได้ระบุถึงบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นการเฉพาะ  และเนื้อหาของข้อความเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง  ยังไม่ถึงขนาดเป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง  ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่า พรรคเสรีรวมไทย  และนายปิยบุตร กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (5) ตามคำร้องแต่อย่างใด จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย

โผล่อีก! ผู้เสียหายถูก “หมอดูฮวงจุ้ย” คนดังหลอก

เหยื่อโผล่เพิ่ม ถูกหมอดูฮวงจุ้ยคนดัง หลอกปรับฮวงจุ้ยบ้าน สูญเงิน 350,000 บาท มอบหมายทนายส่งเรื่องฟ้องทั้งคดีแพ่งและอาญา

จนท.รุดช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องขังลูกติดยา

หลายหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องลูกกรง เตรียมขังลูกชายตกเป็นทาสยาเสพติด-พนันออนไลน์ บำบัดนับสิบครั้งไม่หาย พร้อมทำความเข้าใจผิดกฎหมายหน่วงเหนี่ยวกักขัง ขณะที่ รมว.ยุติธรรม เตรียมพิจารณาออกมาตรการบำบัดซ้ำโดยคำสั่งศาล