แนะเยาวชนศึกษา-เรียนรู้ นำมาปรับใช้พัฒนาบ้านเมือง

สโมสรทหารบก 9 ต.ค.-“พล.อ.สุรยุทธ์” เป็นประธานเปิดโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ รุ่นที่ 36 มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการฯ 320 คน ระบุมุ่งหวังเยาวชนแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีชีวิตของครอบครัวอุปถัมภ์ และเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี สร้างสมานฉันท์ในชาติ ยืนยันจะสานต่อโครงการฯ จนกว่าจะหมดแรง


พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ รักษาการประธานองคมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินการโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ เป็นประธานเปิดโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ รุ่นที่ 36 เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีชีวิตของครอบครัวอุปถัมภ์ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ จำนวน 320 คน มีภูมิลำเนาในจังหวัดชายแดนใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา แบ่งเป็น เยาวชนนับถือศาสนาอิสลาม จำนวน 215 คน นับถือศาสนาพุทธ จำนวน 103 คน และนับถือศาสนาคริสต์ จำนวน 2 คน และครอบครัวอุปถัมภ์ 160 ครอบครัว ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน – 1 พฤศจิกายน 2562

พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวให้โอวาทมีใจความตอนหนึ่งว่า สิ่งที่แสดงออกให้เห็นถึงความห่วงใย ความรัก ความเมตตาต่อเยาวชนของภาครัฐ ภาคเอกชน และครอบครัวอุปถัมภ์นั้น ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ยึดโยงความสัมพันธ์กับเยาวชน จะช่วยทำให้คำว่า สานใจไทยสู่ใจใต้ เกิดความสมบูรณ์ขึ้น และหวังว่าเยาวชนที่ได้ร่วมโครงการฯ ครั้งนี้ จะได้ศึกษา เรียนรู้ และนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ และเติบโตขึ้นมาเป็นคนดี เป็นผู้ใหญ่ที่ดีของประเทศ พัฒนาบ้านเมืองให้มีความเจริญก้าวหน้า ทั้งนี้ เยาวชนจะได้ศึกษาเรียนรู้จากครอบครัวอุปถัมภ์ที่มีความแตกต่างในวิถีชีวิต รวมถึงนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และบอกต่อกัน


“ขอขอบคุณครอบครัวอุปถัมภ์ที่ได้รับเยาวชนไปดูแลที่บ้าน และขอให้เยาวชนตระหนักว่าทุกครอบครัวได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ให้เป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของครอบครัวอุปถัมภ์ และขอฝากครอบครัวอุปถัมภ์ ถ้ามีโอกาสให้ไปเยี่ยมครอบครัวของเยาวชนบ้าง และติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ และขอยืนยันว่าจะสานต่อโครงการนี้ต่อไป จนกว่าจะหมดแรง” พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว

โครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ เป็นโครงการที่เกิดจากดำริ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กองทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนภาคเอกชน ที่นำเยาวชนจากจังหวัดชายแดนใต้มาใช้ชีวิตกับครอบครัวอุปถัมภ์ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อแลกเปลี่ยนความเป็นอยู่และวัฒนธรรม และตลอดทั้งโครงการจะได้ร่วมกิจกรรมที่ส่งเสริมความรู้ อาทิ ร่วมค่ายเยาวชนสมานฉันท์ ทัศนศึกษา ศึกษาวิถีชีวิตชุมชนที่อยู่ร่วมกัน และอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม โครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ มุ่งหวังให้เยาวชนได้เพิ่มทักษะ ประสบการณ์ โดยตรงในการเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ในสังคมพหุวัฒนธรรม อยู่ร่วมกันบนความหลากหลายของเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และวัฒนธรรม ที่อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง