กทม.8 ต.ค.-มือชกหลานสาวตำรวจ สารภาพทำเพราะโมโหถูกขับจี้ท้าย อยากขอโทษคู่กรณี ตรวจประวัติพบเคยรักษาเกี่ยวกับจิตเวช ด้านเหยื่อยันดำเนินคดี
จากกรณีผู้เสียหายสาวเข้าแจ้งความ ต่อพนักงานสอบสวน สน.จรเข้น้อย เมื่อช่วงบ่ายวานนี้(7 ต.ค.) หลังถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ และใช้เครื่องมือช่างทุบลายรถยนต์จนได้รับความเสียหาย เหตุเกิดที่ซอยลาดกระบัง 54 และมีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์จนมีการแชร์แพร่หลายในสื่อออนไลน์และมีการนำเสนอในสื่อหลักไปแล้วนั้น
ล่าสุดช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ผู้เสียหายสาว ได้เดินทางมาที่ สน.จรเข้น้อยอีกครั้ง เพื่อนำหลักฐานเป็นเล่มทะเบียนรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มาแสดงต่อพนักงานสอบสวน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในคดีพร้อมให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมต่อสื่อมวลชนที่มาเฝ้าติดตามความคืบหน้าว่า ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาหรือมีเหตุทะเลาะวิวาทกับชายที่ก่อเหตุมาก่อน และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่า ชายที่ก่อเหตุทำไมถึงทำรุนแรงกับตนทั้งๆที่วันนั้น ตนแค่กระพริบไฟเพราะไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุแค่นั้น และนอกจากลงมือทำร้ายร่างกายตน ยังไปนำเครื่องมือช่างกลับมาทุบทำลายทรัพยสินของตนอีก ซึ่งขณะเกิดเหตุเชื่อว่าชายคู่กรณีน่าจะอยู่ในอารมณ์โกรธมาก่อนแล้ว และตนบังเอิญมาเจอในจังหวะนั้น และยังเชื่อว่าชายที่ก่อเหตุมีสติดีเพราะทราบจากพยานว่ว่าหลังก่อเหตุประมาณ 20 นาที ชายคนดังกล่าวยังย้อนกลับมาจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บเอาเศษกระจกออกไปจากจุดเกิดเหตุเพราะอาจมีรอยนิ้วมือที่มาจากการจับขอบกระจกรถตน ส่วนประเด็นที่เพื่อนตนหยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิปเพราะหลังเห็นท่าทีคนร้าย ก็เชื่อว่าน่าจะเกิดเหตุไม่ดีขึ้น จึงถ่ายไว้เป็นหลักฐาน เพราะรถยนต์ของตนยังไม่ได้ติดกล้องหน้ารถ ต่อจากนี้จะดำเนินการติดกล้องหน้ารถเพื่อใช้เป็นหลักฐานหากเกิดเหตขึ้นอีก ส่วนความคืบหน้าทางคดี พนักงานสอบสวนยังไม่ได้มีการแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมแก่ตน แต่ในวันให้ปากคำได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายและทำให้เสียทรัพย์ ส่วนตัวมองว่าน่าจะเข้าข่ายพยายามฆ่า เพราะอาวุธที่คนร้ายใช้หากโดนตนที่นั่งอยู่หลังกระจกเพียงเล็กน้อย หากมีการทุบเข้ามาก็อาจทำให้ได้รับบาดเจ็บหรืออาจเสียชีวิตได้ พร้อมยืนยันว่าจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดแม้คนร้ายจะมาขอโทษ และหากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายมาได้ ก็อยากถามว่าเหตุใดถึงได้มาทำร้ายตนแบบนี้ เพราะตนไม่เคยมีปัญหากันมาก่อนอย่างแน่นอน จึงอยากฝากถึงประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องขับรถกลับในเส้นทางเปลี่ยวตอนกลางคืน ถึงแม้ว่าจะเป็นเส้นทางที่ตนใช้ประจำก็อยากให้ใช้ความระมัดระวัง และหากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นก็ขอให้มีสติ อย่างมาก อย่าตกใจจนขาดสติเพราะอันตรายอาจเกิดขึ้นหนักกว่าเดิม
ต่อมาประมาณ 12.50 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.จรเข้น้อย ได้คุมตัว นายฉัตรชัย หรือเบิร์ด ปรุงสุข อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาในคดีนี้มาสอบปากคำ เบื้องต้นเปิดเผยเพียงเล็กน้อยว่า คนร้ายให้การรับสารภาพ และสามารถจับกุมตัวได้ที่ บ้านพักจากย่านเอื้ออาถร ลาดกระบัง พร้อมหมวกนิรภัย เครื่องแต่งกายและรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ สกู๊ปปี้ ไอ สีน้ำตาลดำ ฬษก 203 กทม ที่ขับขี่ในวันก่อเหตุ
ด้านนายเบิร์ด ระบุว่า สาเหตุที่ลงมือเนื่องจากรู้สึกโมโหที่คู่กรณีขับรถจี้ตาม จึงจอดรถลงมาเพื่อจะสอบถามและพูดคุยแต่คู่กรณีไม่เปิดกระจกลงมาคุยจึงรู้สึกโมโห ชกไป 1 ครั้ง ก่อนจะกลับไปที่รถจักรยานยนต์ และกลับมานำประแจมาทุบที่รถคู่กรณีอีกครั้ง เพราะยังอยู่ในอารมณ์โมโห หลังก่อเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปกินข้าว และกลับมาจุดเกิดเหตุเพื่อดูร่องรอย ไม่ได้จะกลับมาทำลายหลักฐานเพราะหากต้องการทำลายหลักฐาน ก็คงนำประแจที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้ยอมรับว่าการกระทำครั้งนี้รุนแรง เกินไปและอยากขอโทษผู้เสียหาย
มีรายงานอีกว่า สำหรับผู้เสียหายและผู้ต้องหาในคดีนี้ มีความเกี่ยวข้องกับวงการตำรวจโดยผู้เสียหายเป็นหลานสาวอดีตรองผู้กำกับการ สน.จรเข้น้อย และผู้ก่อเหตุ เป็นลูกชายอดีตนายตำรวจ สน.ลาดกระบัง ที่เกษียณอายุราชการไปก่อนหน้านี้ และตัวนายเบิร์ด ยังพบประวัติเคยรักษาตัวเกี่ยวกับจิตเวช ที่โรงพยายาลพระมงกุฏเกล้า ซึ่งสอดคล้องกับการให้การของผู้ต้องหาที่ให้การวกวนและมีอารมณ์รุนแรง.-สำนักข่าวไทย
