คืบหน้าเหตุโจ๋บึงกาฬตีกันในห้องฉุกเฉิน

บึงกาฬ 6 ต.ค.-กรณีสังคมออนไลน์แชร์คลิปวัยรุ่นบึงกาฬตีกันในห้องฉุกเฉิน ตำรวจระบุมีการพูดคุยกันทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ขณะที่ ผอ.สาธารณสุขบึงกาฬ ยอมรับป้องกันได้ยาก


ภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลอำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ จับภาพขณะกลุ่มวัยรุ่นบุกเข้ามาทำร้ายคู่อริในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล โดยกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันจนล้มลงและเตะเข้าใบหน้า จนอีกฝ่ายนอนนิ่ง เจ้าหน้าที่จึงหยิบเอาเสาน้ำเกลือขึ้นมาถือขู่ เป็นจังหวะเดียวกับตำรวจเข้ามาระงับเหตุ ทำให้กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้หนีกระเจิงออกจากโรงพยาบาลไป โดยไม่มีทรัพย์สินโรงพยาบาลเสียหาย หลังเกิดเหตุได้มีการนำภาพมาโพสต์ในสังคมออนไลน์จนเกิดเสียงวิจารณ์อย่างแพร่หลาย เรียกร้องให้ตำรวจจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้เข็ดหลาบ เพื่อให้ไม่เป็นเยี่ยงอย่าง 


หลังเกิดเหตุนายสุริวัฒน์ อายุ 22 ปีได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าเหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้ไปดูคอนเสิร์ตในงานประเพณีแข่งเรือยาวของเทศบาลอำเภอปากคาด มีกลุ่มวัยรุ่นหลายกลุ่มชกต่อยกันขึ้น ตนเองถูกลูกหลงขณะเข้าไปห้ามเพื่อน โดยโดนเตะที่ชายโครงทำให้บาดเจ็บจึงได้ไปพบหมอ ขณะกำลังจะขึ้นเตียงให้หมอดูอาการ ได้มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากกรูกันเข้ามาในห้องฉุกเฉิน ชี้หน้าตนว่าเป็นคนทำร้ายเพื่อนให้ได้รับบาดเจ็บ แต่ตนปฏิเสธจึงถูกชกแต่ไม่โดนเพราะดึงตัวหลบ พร้อมกับเหวี่ยงหมัดชกกลับคืนแต่ก็ไม่ถูกใคร จากนั้นได้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันกับคู่กรณีจนล้มลงที่พื้นห้อง จึงถูกเพื่อนคู่กรณีที่ตามมาด้วยเตะเข้าที่ใบหน้า 2 ที จนเลือดไหลอาบใบหน้า ตนแกล้งสลบ เพราะไม่อยากมีเรื่องทะเลาะวิวาท เนื่องจากรู้ตัวว่าตัวเองมาคนเดียว สู้อีกฝ่ายที่มีจำนวนมากกว่าไม่ไหว ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก ตอนเช้าจึงเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดี


ขณะที่ตำรวจสืบสวนจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุ 2 คน คือนายศิวกร และนายยศพล คนที่เตะใบหน้าผู้เสียหาย 2 ที โดยนายยศพล ให้ผู้ปกครองมาพบพนักงานสอบสวนและผู้เสียหายแทน และจะมามอบตัวภายหลัง ส่วนนายศิวกร เมื่อพบหน้านายสุริวัฒน์ คนเจ็บ จึงรู้ว่าเป็นเพื่อนเก่าที่เคยเรียนหนังสือจบ ม. 6 มาด้วยกัน เมื่อพูดคุยทำความเข้าใจกัน ต่างฝ่ายไม่ติดใจเอาความ พนักงานสอบสวนลงบันทึกประจำวันแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน

ด้าน นพ.ชัชวาลย์ ฤทธิ์ฐิติ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่าปกติ มีตำรวจมาลาดตระเวนตามช่วงเวลาที่กำหนดและมีกล้องวงจรปิดจับเหตุการณ์ที่ไม่ชอบมาพากล แต่คืนวันเกิดเหตุ เป็นช่วงเวลา 24.00 น. เกินเวลาตรวจของตำรวจ แต่โชคดีเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ก็ได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจให้เข้ามาระงับเหตุการณ์ทัน และจับกุมผู้กระทำผิดไปดำเนินคดีได้ จากรายงานของ รพ.ปากคาด คือ มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ถูกยิงเข้ามารับการรักษาในห้องฉุกเฉิน เหตุเกิดขณะช่วงเอกซเรย์เสร็จ และมีผู้ติดตามเข้ามาหลายคน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่แน่ใจว่าเป็นญาติผู้ป่วย   หรือไม่ และเหตุการณ์ทำร้ายกันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ยอมรับว่ามาตรการที่เข้มงวดเด็ดขาดที่จะป้องกันได้ดีที่สุด คือ การป้องกันไม่ให้ญาติผู้ป่วยไม่ว่าใครก็ตามเข้ามาภายในห้องฉุกเฉิน แต่หลายกรณีก็ทำไม่ได้เช่นกรณีนี้ เพราะแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร ทางที่ดีที่สุด คือ การมีกล้องวงจรปิดและคอยประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาระงับเหตุให้เร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สสจ.บึงกาฬ ยอมรับต้องเพิ่มมาตรการเข้มงวดห้ามบุคคลภายนอกเข้าในห้องฉุกเฉินเด็ดขาด

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย ตึกสตง. ถล่ม

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย ตึกสตง. ถล่ม เพราะปฏิบัติหน้าที่ครบ 10 วันแล้ว เป็นปกติของการทำงาน หากปฏิบัติภารกิจต่ออาจจะทำให้บาดเจ็บได้ และการกู้ภัยที่เหลือตอนนี้จำเป็นต้องต้องใช้เครื่องจักรใหญ่เท่านั้น

เชียงรายพบสารหนูเกินมาตรฐานใน “น้ำกก” คาดจากเหมืองเมียนมา

สำนักงานสิ่งแวดล้อมฯ เชียงราย ได้รับร้องเรียนว่า “น้ำกก” มีสีขุ่น เมื่อนำไปตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานหลายเท่า กระทบสุขภาพประชาชน คาดมาจากเหมืองแร่ทองคำในเมียนมา ผู้ว่าฯ เชียงราย เรียกประชุมด่วน