สตูล 4 ต.ค.-พาไปดูชีวิตที่เปลี่ยนไปของ “บังฮาซัน” นักขายสินค้าออนไลน์คนดัง เจ้าของเพจ “อาหารทะเลตากแห้ง จ.สตูล” ที่ปัจจุบันมีคนติดตามกว่า 1 ล้านคน
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา การขายสินค้าผ่านโลกออนไลน์เฟซบุ๊กไลฟ์ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการขายของจนกลายเป็นกรณีศึกษาให้นักการตลาดยุคใหม่ต้องติดตาม คงหนีไม่พ้นชายคนนี้ บังฮาซัน หรือนายอนุรักษ์ สรรฤทัย เจ้าของเพจ “อาหารทะเลตากแห้ง จ.สตูล” ที่ปัจจุบันมีคนติดตามเพจนี้กว่า 1 ล้านคน
เริ่มต้น “บังฮาซัน” เป็นนักขายในวงการทีวีเคเบิ้ล ดูแลลูกค้าในส่วนของภาคใต้ ทำให้มีทักษะการขายติดตัว รู้ว่าจะต้องขายอย่างไร เล่าเรื่องอย่างไรถึงจะขายได้ เริ่มต้นคิดจะขายอาหารทะเลแห้งไปขอทุนจากพ่อ เป็นเงิน 5,000 บาท พ่อก็ไม่ให้เพราะไม่เข้าใจว่า จะขายได้อย่างไร จะไปขอเครดิตจากผู้ผลิตอาหารทะเลตากแห้ง ก็ไม่มีเครดิต ก็ไม่ให้สินค้ามาก่อน จึงต้องตัดสินใจไลฟ์สด ตรงหน้าที่ตากอาหารทะเลเลย ได้ยอดสินค้ามาบ้าง จากนั้นจึงทำเฟซบุ๊กแฟนเพจ นั่งขายสินค้าอย่างจริงจัง เริ่มแรกก็ทำแบบง่ายๆ คนดูไม่ถึง10 แต่ก็ทำ เรียนรู้มาเรื่อยๆ จนยอดการรับชมไลฟ์สดในวันนี้ กว่าแสนคน สร้างรายได้ให้กับตัวเองและชุมชนอย่างต่อเนื่อง “บังฮาซัน” ในตอนนี้ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คน เป็นกรณีศึกษามิติใหม่แห่งการช้อปปิ้งออนไลน์ โด่งดังจนถึงขั้นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเอ่ยถึง
ไปดูบรรยากาศล่าสุดที่บ้าน “บังฮาซัน” อายุ 29 ปี ซึ่งอยู่ห้องแถว 2 ชั้น 3 คูหา หมู่ที่ 4 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งตั้งเป็นสำนักงานขายของทางออนไลน์ “ฮาซันอาหารทะเลตากแห้ง” สำหรับสินค้าที่นำมาขายนั้นเป็นผลิตภัณฑ์จากคนในพื้นที่ จากชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชน ชาวบ้านมีงานทำ สำหรับสินค้าก่อนที่จะนำมาไลฟ์ขายทางออนไลน์นั้น “บังฮาซัน” จะคัดสรรสินค้าที่มีคุณภาพ มีประโยชน์ต่อร่างกาย สะอาด ที่สำคัญ “บังฮาซัน” จะชิมรสชาติอาหารก่อน หากรสชาติไม่ดี จะแนะนำให้ผู้ผลิตที่นำอาหารไปเสนอขายไปปรับปรุงใหม่ก่อน อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการโฆษณาขายสินค้าทางออนไลน์ด้วยการไลฟ์สดจนเป็นที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของ “บังฮาซัน” พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ มีคนรู้จักมากขึ้น มีรายได้ดีขึ้น ทำให้ฐานะการเงินดีขึ้น
นอกจาก “บังฮาซัน” แล้ว พรรคพวก ญาติพี่น้อง ก็มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ตามลำดับ รวมทั้งชาวบ้านที่นำสินค้ามาเสนอให้ “บังฮาซัน” ก็มีรายได้ดีขึ้น ที่สำคัญลูกหลานชาวบ้านในพื้นที่ได้มีงานทำ เพราะในแต่ละวัน “บังฮาซัน” ต้องจ้างคนวันละ 50 คน ซึ่งนอกจากที่ “บังฮาซัน” สร้างรายได้ให้ชาวบ้านแล้วยังสร้างรายได้ให้กับรัฐด้วยการเสียภาษีทุกบาททุกสตางค์ไม่เคยละเว้น ส่วนงานบุญงานกุศล “บังฮาซัน” ก็ช่วยมาตลอด เพราะเห็นว่าชาวบ้านช่วยตน ตนก็ช่วยชาวบ้าน สำหรับชาวบ้านที่ดูการไลฟ์สดแต่ไม่สั่งซื้อสินค้า “บังฮาซัน” บอกว่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง แม้ไม่ซื้อสินค้า แต่ชมการไลฟ์สดก็ถือว่าเป็นการให้กำลังใจ
สำหรับชีวิตหลังจากที่โด่งดังมีคนนำไปเลียนแบบหลายรายและก็มีบริษัทขายสินค้าใหญ่ๆ ของเมืองไทย ติดต่องานโฆษณาสินค้า นอกจากนี้รายการต่างๆ ทางทีวี ก็ติดต่อไปออกรายการ ส่วนละครยังไม่มีใครติดต่อไปแสดง ถึงแม้ติดต่อมาก็คงไม่ไหวเพราะต้องขายสินค้า ทุกวันนี้หากตนหายไป 2 – 3 วัน ชาวบ้านก็ตามหาแล้ว ส่วนเทคนิคการขายสินค้าทางออนไลน์ก็ต้องมีการปรับปรุงต่อไปเรื่อยๆ เดี๋ยวคนจะเบื่อ.-สำนักข่าวไทย
