“พิพัฒน์” เชื่อ 2 มาตรการท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

ก.ท่องเที่ยวฯ 3 ต.ค.-รมว.ท่องเที่ยว เชื่อ 2 มาตรการปลายปีช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้  อัดคนให้ข่าว ‘ชิมช้อปใช้’ เงินเข้ากระเป๋านายทุน เป็นพวกจ้องทำลายรัฐบาล



นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีที่ ครม.มีมติอนุมัติงบกลางในโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวประกอบด้วย 2 มาตรการ คือ1.ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย สามารถซื้อแพ็คเกจการท่องเที่ยว จากสายการบิน โรงแรม ร้านค้า ได้ในราคา 100 บาท และ 2.เที่ยววันธรรมดาราคาช็อคโลก เน้นให้เที่ยวในวันธรรมดา ซึ่งจะมีโปรโมชั่นพิเศษ ทั้งเรื่องตั๋วเครื่องบิน ร้านค้า ร้านอาหาร สปา เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในวันธรรมดา ว่า  ในเรื่องนี้หลัง ครม.มีมติอนุมัติ ได้มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เป็นผู้กำหนดรายละเอียด โครงการร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย ว่าจะต้องดำเนินการลงทะเบียนอย่างไร จะโหลดข้อมูลผ่านทางออฟฟิเชี่ยลไลน์ ของ ททท.ในช่วงเดือนพฤศจิกายน จำนวน 2 ครั้ง และเดือนธันวาคม 2 ครั้ง ครั้งละ 10,000 ราย ส่วนจะเป็นช่วงไหนขอให้ ททท.เป็นผู้กำหนด ทราบว่าขณะนี้มีภาคเอกชนจำนวนมาก ทั้งโรงแรม สปา ห้างร้าน ทั่วประเทศพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้าย


ส่วนจะสามารถช่วยกระตุ้นได้มากขนาดไหนกับโครงการนี้ส่วนตัวไม่สามารถบอก หรือกำหนดตัวเลขออกมาได้ เนื่องจากขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนว่าพร้อมจะออกมาจับจ่าย หรือท่องเที่ยวภายในประเทศตามมาตรการที่กระทรวง รวมถึง ททท.รณรงค์มากขนาดไหน ซึ่งกระทรวงมีหน้าที่ในการออกมาตรการมาสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวออกมาให้คนไทยเลือกอย่างดีที่สุด ขอความร่วมมือคนไทย ใช้เวลาช่วงปลายปีที่มีวันหยุดยาวเดินทางท่องเที่ยวในประเทศแทนที่การเดินทางไปต่างประเทศ 

สำหรับทั้ง2 มาตรการเป็นโครงการต่อเนื่องจากชิมช้อปใช้ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในประเทศได้ โดยจะทำให้เป้าหมายรายได้การท่องเที่ยวเป็นไปตามเป้าหมายที่ 3.3 ล้านล้านบาท และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ 40 ล้านคนได้แน่นอน

สำหรับโครงการชิมช้อปใช้ ที่มีนักวิชาการ และหลายภาคส่วนออกมาระบุว่า เงินที่รัฐบาลใช้จ่ายไป ไม่ตกถึงท้องถิ่น แต่ผลประโยชน์จะไปตกกับห้างร้านใหญ่ๆ หรือกลุ่มนายทุนนั้น นายพิพัฒน์ กล่าว่า เรื่องนี้ตนเองขอค้านอย่างเต็มที่ เพราะได้ให้เจ้าหน้าที่งานทางภาคใต้ลงไปสำรวจตามชุมชน เช่น จ.พัทลุง จ.ตรัง จ.สงขลา รวมถึงภาคใต้ทั้งหมด สำรวจพบว่าแม้แต่ร้านเล็กๆ อย่างร้านข้าวหมูแดง ก๋วยเตี๋ยว ก็สามารถใช้จ่ายจากแอปพลิเคชั่นนี้ได้ มั่นใจว่านโยบายนี้ช่วยกระจายรายได้ลงสู่ท้องถิ่น ชุมชน พี่น้องประชาชนได้มากกว่า และดีกว่าโครงการอื่น อยากให้คนที่ออกมาพูดว่าเงินตรงนี้เข้ากระเป๋านายทุนช่วยกลับไปคิด และลงพื้นที่ไปดูไปสัมผัสพี่น้องตามชุมชนต่างๆตอนนี้เขามีวิวัฒนการในการใช้เทคโนโลยีไปไกลแล้ว ส่วนตัวมั่นใจว่ากลุ่มคนที่ออกมาให้ข่าวแบบนี้ เป็นกลุ่มจ้องทำลายล้างรัฐบาลแน่นอน


“ตอนนี้พวกเราคนไทยเปรียบเสมือนลงเรือลำเดียวกันแล้ว ขณะที่อีกคนกำลังพยายามพายให้ไปข้างหน้า อีกพวกพยายามขัดขวาง ถ้าเราไม่ทำไปพร้อมๆกัน  ประเทศติดบ่วงแน่ เราต้องเดินหน้าไปพร้อมๆกัน ขอฝากไปยังคนที่ให้ข่าวไนทำนองนี้ช่วยทำจิต ทำใจ ให้เป็นกลาง คิดเสียว่าสงสารประเทศชาติเถอะ ตอนนี้ประเทศกำลังจะไปดีแล้ว อย่ามาทำให้ประเทศต้องถอยหลังเลย” นายพิพัฒน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า