กรุงเทพฯ 2 ต.ค.- กองปราบรวบสมาชิก “แก๊งควาย” ระดับต้นๆ อาศัยการเล่นพนันกำถั่วในการหลอกลวงผู้เสียหาย ก่อคดีมาแล้วอย่างโชกโขน
นายพังพะกาญจน์ กาญจนศักดินากุล อายุ ๗๔ ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดภูเก็ตฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” โดยผู้ต้องหา ซึ่งเป็นสมาชิก “แก๊งควาย” ระดับต้น ๆ อาศัยการเล่นพนันกำถั่วในการหลอกลวงผู้เสียหาย
นายพังพะกาญจน์ฯ เล่าถึงพฤติกรรมการหลอกลวงเหยื่อ ๑ ครั้ง จะมีตัวละคร ทั้งหมด ๔ ตัว ได้แก่ ๑.คนชักชวนผู้เสียหาย (คนจีบ) ๒.เจ้ามือ (คนสอนเล่นกำถั่ว) ๓. เสี่ย เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ จากต่างประเทศ คือ ผู้ต้องหา ๔. เหยื่อ
ขั้นตอนในการหลอกลวง เริ่มจาก คนจีบ จะเป็นคนหาเหยื่อมาให้ โดยแกล้งทำเป็นสนใจเกี่ยวกับธุรกิจหรืองานที่เหยื่อทำอยู่ จากนั้น ก็จะชักชวนเหยื่อให้มาหาที่โรงแรมภายในพื้นที่ เพื่อมาคุยเรื่องธุรกิจกันต่อ เมื่อเหยื่อมาถึงที่โรงแรม จะพบเจ้ามือนั่งรออยู่ในห้องของโรงแรม โดยอ้างว่าเป็นเพื่อนกับคนจีบ จากนั้นคนจีบจะชวนคุยเรื่องธุรกิจก่อน เมื่อเหยื่อเริ่มตายใจ เจ้ามือ จะเริ่มพูดถึง เสี่ยคนหนึ่งที่ได้เล่นการพนันกำถั่วกับพวกเขาไปเมื่อวานและเสียเงินไปหลายล้าน และกำลังนำเงินจำนวนมากมาแก้มือคืน ผ่านไปสักพักหนึ่ง ตัวละคร เสี่ย ก็จะเดินเข้ามาในห้องและเปิดเงินภายในกระเป๋าให้เหยื่อดูว่า ตนนั้นมีเงินจำนวนมากและจะมาเล่นกำถั่วเพื่อแก้มือ ซึ่งความจริงแล้ว เงินในกระเป๋านั้นมีเพียงธนบัตรวางไว้ด้านบนเพียงไม่กี่ใบ เมื่อเหยื่อเริ่มหลงเชื่อ ทางเจ้ามือก็จะชักชวนให้เหยื่อร่วมเล่นด้วยและสอนวิธีการเล่นกำถั่วให้
โดยการเล่นกำถั่วจะใช้อุปกรณ์เพียงแค่ ๒ อย่าง คือ ๑.ถั่ว(จะเป็นวัตถุอะไรก็ได้ที่มีลักษณะเป็นเม็ด) ๒.ฝาครอบลักษณะทึบ เมื่อเริ่มเล่น ทางเจ้ามือจะนำฝาครอบไปครอบถั่วไว้ โดยไม่ต้องนับจำนวน จากนั้น จะนำถั่วออกมาจัดเป็นกลุ่มเรื่อย ๆ กลุ่มละ ๖ เม็ด และให้ทางเหยื่อเป็นคนทายว่า เศษที่เหลือนั้นจะเป็นจำนวนคู่ หรือจำนวนคี่ ถ้าหากเหยื่อไม่สนใจทางกลุ่มแก๊งควายก็จะไม่บังคับให้เล่นแต่ถ้าหากเหยื่อเกิดความโลภอยากได้เงิน ทางเจ้ามือก็จะนำ “ชิป” ให้กับเหงื่อเพื่อใช้แทนเงินสด (แก้ปัญหาหากเหยื่อไม่ได้นำเงินมาและทำให้แก๊งควายไม่ต้องใช้เงินจริงด้วย) เมื่อเริ่มเล่นไปประมาณ ๕ เกมส์ แก๊งควายจะให้เหยื่อเป็นคนชนะเกมส์ก่อน เพื่อให้เหยื่อตายใจและอยากเล่นต่อ หลังจากเกมส์ที่ ๖ เป็นต้นไป เจ้ามือจะเริ่มโกง โดยให้เสี่ยชวนคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ กาอนเริ่มกลโกงที่วางเตรียมไว้ จนทำให้เหยื่อติดหนี้แก๊งควาย ต้องเสียเงินทองเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหยื่อบางคน ถึงขนาดนำโฉนดที่ดินของตนไปจำนองเพื่อนำเงินมาให้กับแก๊งควาย เมื่อได้เงินมาแล้วกลุ่มแก๊งควายจะนำมาแบ่งกันตามหน้าที่
นายพังพะกาญจน์ฯ รับสารภาพว่า หลังจากหลอกลวงเหยื่อมามากว่า ๒๐ ปี ตั้งแต่อายุประมาณ ๔๐ ปี มีผู้เสียหายเกินกว่า ๑๐ คน เงินที่ได้จากการกระทำความผิดหลายล้านบาท หมายจับกว่า ๑๒ หมาย ก็ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ประมาณ ๒ เดือน เนื่องจากสุขภาพร่างกายอ่อนแอลง ทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือเหมือนแต่ก่อน จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด ปิดฉากการหลบหนีอย่างยาวนาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ส่งตัวให้ พงส.ฯ สภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กองปราบ อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนว่าให้ระมัดระวังผู้ที่เข้ามาติดต่อธุรกิจซึ่งอาจจะเป็นมิจฉาชีพแฝงตัว เข้ามาในรูปแบบต่างๆ ทั้งซื้อขายบ้าน รถ ที่ดิน หลังจากซื้อขายกันแล้วก็จะชักชวนหรือหลอกไปเล่นการพนัน โดยหลอกให้ตายใจหรือเชื่อมั่นว่าได้แน่ๆ ซึ่งถ้ามีสติ ไม่โลภก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งในรายนี้ถือว่าเคราะห์ที่รู้สึกไม่ดีและแจ้งเจ้าหน้าที่ ไม่คิดเล่นต่อเพื่อถอนทุนคืน ซึ่งอาจจะเสียมากกว่า 1 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย