ศิริราช เตือนประชาชนรับมือฝุ่นละอองPM2.5

รพ.ศิริราช 1 ต.ค.-ศิริราชเตือนประชาชน โดยเฉพาะเด็ก-ผู้สูงอายุ รับมือฝุ่นละออง PM2.5 ที่คาดว่าจะรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ  กระตุ้นภาครัฐจัดการต้นตอก่อฝุ่นพิษ ดำเนินการตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งภาค อุตสาหกรรม คมนาคม และการก่อสร้าง  


รศ.นพ.นิธิพัฒน์  เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล แถลงถึงการเตรียมรับมือคุณภาพอากาศในกรุงเทพฯ ที่ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ  ว่าจากปัญหามลพิษในอากาศของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ที่รุนแรงขึ้นในช่วงปลายปีก่อนตลอดมาจนถึงต้นปีนี้ แล้วจึงค่อย ๆ ดีขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ จนเมื่อเริ่มมีมวลอากาศเย็นแผ่มาปกคลุมประเทศไทยตั้งแต่กลางเดือนที่แล้ว ทำให้เกิดปรากฏ การณ์อุณหภูมิผกผัน (temperature inversion) คุณภาพอากาศจึงแย่ลงเร็วจากมลพิษในอากาศ ที่ไม่สามารถฟุ้งกระจายออกไปได้ตามปกติ สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าเรายังไม่สามารถควบคุมแหล่งการผลิตมลพิษเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นในภาคอุตสาหกรรม การคมนาคม การก่อสร้างและกิจกรรมประจำวันของประชากรกรุงเทพฯ และคาดว่าจะรุนแรงมากขึ้นตามลำดับต่อไป


คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คำนึงถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพของประชาชน จึงขอให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ร่วม มือกันเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์ดังกล่าว คือ 

1.ให้ความรู้กับประชาชนเพื่อให้ตระหนักถึงพิษภัยของมลพิษในอากาศที่มีผลคุกคามต่อทุกคนโดยเฉพาะเยาวชน สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 


2.ให้การศึกษากับประชาชนเพื่อปรับกิจกรรมประจำวันและใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองที่ถูกต้องเหมาะสมตาม คุณภาพอากาศ โดยคำนึงถึงว่า

2.1 การวัดปริมาณ PM2.5 ที่ไม่แยกปริมาณไอน้ำออกไป ด้วยเครื่องมือวัดแบบพกพาหรือแบบที่ไม่ซับซ้อน อาจจะได้ค่าสูงกว่าการวัดด้วยเครื่องมือมาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษถึง 1.5 เท่า

2.2 ระดับการเตือนภัย (ในรูปแบบรหัสสีต่างๆ) ของกรมควบคุมมลพิษ สูงกว่าระดับที่รับรองโดยองค์การอนามัยโลกและประเทศที่ให้ความสำคัญกับปัญหานี้ ดังนั้นจึงควรมีเกณฑ์มาตรฐานในการวัดค่า ฝุ่นพิษ ให้ทุกคนสามารถตระหนักรู้และระหว่างป้องกันได้ทันท่วงที  

3. จัดหาอุปกรณ์ป้องกันสาหรับประชาชนให้เพียงพอ ทั้งหน้ากากอนามัย หน้ากาก N-95 สำหรับใช้กลางแจ้ง  และเครื่องฟอกอากาศหรือแผ่นกรองอากาศ สำหรับใช้ในตัวอาคาร 4. ดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดเมื่อคุณภาพอากาศอยู่ในระดับอันตราย ทั้งการควบคุมปริมาณและคุณภาพยานพาหนะ การจำกัดกระบวนการก่อสร้าง ลดกำลังการผลิตทางอุตสาหกรรม และควบคุมการ เผาในที่โล่งแจ้ง รวมถึงการปิดสถานศึกษาและสถานที่ทำงานของภาครัฐและเอกชน  5.จัดหาสถานที่สาธารณะในแต่ละชุมชนให้เพียงพอ  เพื่อเป็นที่พักอาศัยของประชากรกลุ่มเสี่ยงเมื่อระดับคุณภาพ อากาศอยู่ในระดับอันตรายหรือวิกฤต โดยต้องมีการติดตั้งระบบปรับและฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพในสถานที่นั้นด้วย

นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่าในช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้วจนถึงช่วงกุมภาพันธ์ปีนี้ รพ.ศิริราช รวมถึงหลายโรงพยาบาลในกรุงเทพ  พบข้อมูลผู้ป่วยโรคปอดโรคถุงลมโป่งพองมีจำนวนเพิ่มขึ้น อย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งตรงกับช่วงที่มีภาวะฝุ่น 2.5 PM

ขณะที่ทีมข่าว ได้สำรวจการซื้อหาหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน ฝุ่นละอองPM2.5 พบว่า ยังมีวางจำหน่ายอยู่ตามร้านขายยาทั่วไปและมีประชาชนทยอยมาซื้อ  และสอบถามกับ เจ้าหน้าที่ถึงรูปแบบวิธีการใช้ อยู่ตลอดเวลา  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย