ดีเอสไอยอมรับมีจดหมายแฉพฤติกรรมกลุ่มผู้ต้องสงสัยฆ่า ‘บิลลี่’

กระทรวงยุติธรรม 30 ก.ย.-ดีเอสไอ ยอมรับมีจดหมายแฉพฤติกรรมกลุ่มผู้ต้องสงสัยคดี ‘บิลลี่’ เตรียมแถลงคืบหน้าดคี 7 ต.ค.นี้ ทนายครอบครัวเร่ง ป.ป.ช.ส่งสำนวนให้ดีเอสไอสอบ ขณะที่ชาวบ้านเตือน ‘มึนอ’  ต่อสู้กับ สิ่งไม่ธรรมดา เจ้าตัวไม่ท้อ ลั่นคนผิดต้องไม่ใช่แพะ 


บ่ายวันนี้ (30ก.ย.) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้พบและหารือกับ น.ส.พิณนภา พฤกษพรรณ หรือมึนอ ภรรยาของนายบิลลี่ แม่ของบิลลี่ และทนายความของครอบครัวบิลลี่ ซึ่งเดินทางมารับมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกระทรวงยุติธรรม จากการเสียชีวิตของนายบิลลี่  โดยอธิบดีดีเอสไอได้สอบถามสารทุกข์สุกดิบและความเป็นอยู่ของครอบครัว รวมทั้งให้ความมั่นใจในคลี่คลายคดีและการดูแลความปลอดภัยให้กับครอบครัว


พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ กะเหรี่ยงโป่งลึก-บางกลอย ว่า ที่ผ่านมามีผู้แจ้งเบาะแสจากในพื้นที่เกี่ยวกับคดีเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอที่อยู่ในพื้นที่ก็กำลังสอบสวนอยู่ด้วยเช่นกัน พนักงานสอบสวนทุกคนพยายามทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้คดีมีความชัดเจน ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปแล้วร้อยละ75 โดยจะแถลงความคืบหน้าคดีอีกครั้งในวันที่ 7 ต.ค.นี้ 


ส่วนที่มีหลักฐานเป็นจดหมายเขียนด้วยลายมืออธิบายเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยในลักษณะเป็นซุ้มมือปืนนั้น ยอมรับว่ามีหลักฐานดังกล่าว แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เพราะเป็นข้อต่อสู้ในสำนวน สำหรับการดูแลความปลอดภัยให้กับ น.ส.พิณนภา พฤกษพรรณ หรือมึนอ ภรรยาของนายบิลลี่ ดีเอสไอได้ส่งเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอยู่ตลอด เพราะ น.ส.พิณนภาอยู่ในโครงการคุ้มครองพยานของดีเอสไอ ซึ่งในโอกาสที่ได้เจอกันในวันนี้ก็ได้สอบถามถึงสารทุกข์สุกดิบและความเป็นอยู่ทราบว่าขณะนี้ครอบครัวไม่มีอะไรน่ากังวล แต่หากต้องการความช่วยเหลือก็สามารถติดต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทันที 

ด้าน น.ส.พิณนภา กล่าวว่า ตั้งแต่ครอบครัวเริ่มตามหานายบิลลี่ก็รู้สึกท้อ เพราะเป็นแค่คนตัวเล็กๆ ไม่สามารถส่งเสียงให้ดังออกไปข้างนอกได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่รับแจ้งความ  เพราะไม่ใช่คนไทย แต่ขอขอบคุณดีเอสไอที่ช่วยสอบสวนคดีจนทราบว่านายบิลลี่ได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งครอบครัวยังติดใจมูลเหตุจูงใจที่ทำให้นายบิลลี่เสียชีวิต อยากรู้ว่านายบิลลี่ไปทำอะไรให้ถึงต้องฆ่า  

ทั้งนี้ ขณะนี้ไม่มีสิ่งบอกเหตุถึงความไม่ปลอดภัย เพราะในพื้นที่มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอคุ้มครองความปลอดภัยให้ แต่ยอมรับว่ามีความรู้สึกหวั่นไหวบ้าง และชาวบ้านในพื้นที่ได้เตือนว่าสิ่งที่กำลังต่อสู้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา เป็นเรื่องใหญ่ที่อาจนำอันตรายมาถึงตัวเองและครอบครัว ทำให้บางครั้งรู้สึกกลัว แต่ไม่ท้อ ในตอนนี้สิ่งที่ต้องการคืออยากให้คดีจบเร็วๆ เพื่อให้ได้คำตอบว่าใครฆ่านายบิลลี่ ฆ่าทำไม และผู้ที่ถูกดำเนินคดีต้องไม่ใช่แพะ

ขณะที่นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประสานมูลนิธิประสานวัฒนธรรม ในฐานะทีมกฎหมายคดีชาวบ้านแก่งกระจาน ทนายของครอบครัวนายบิลลี่ กล่าวว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่รัฐยอมรับว่านายบิลลี่เสียชีวิต โดยภายหลังดีเอสไอออกมารับรองการเสียชีวิตของนายบิลลี่แล้ว ทำให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาแสดงให้เห็นว่านายบิลลี่เป็นเหยื่อที่เสียชีวิตจากการกระทำความผิดของผู้อื่น ซึ่งการรับรองของดีเอสไอและกรมคุ้มครองสิทธิฯ จะทำให้ครอบครัวสามารถไปออกใบมรณบัตรเพื่อเป็นหลักฐานในการรับสิทธิอื่นตามกฎหมายต่อไป เนื่องจากนายบิลลี่เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และยังทำประกันชีวิตไว้ด้วย

นายสุรพงษ์ ยังกล่าวถึงความล่าช้าในการทำคดีของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ว่าในส่วนของคดีเบื้องต้นทราบว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้ส่งสำนวนคดีความผิดตามมาตรา 157 กรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานไม่นำตัวนายบิลลี่ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเก็บของป่าให้ป.ป.ช.แล้วตั้งแต่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ป.ป.ช.ก็ยังไม่ส่งสำนวนคดีมาให้ดีเอสไอสอบสวน จึงอยากให้ป.ป.ช.เร่งส่งสำนวนมาให้ดีเอสไอโดยเร็ว เพื่อให้ดีเอสไอออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของบิลลี่ นอกจากนี้ อยากให้ป.ป.ท.เร่งสอบสวนคดีการเผาบ้านของปู่คออี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย