กรุงเททฯ 28 ก.ย.-บอร์ด ปตท. สนับสนุนนโยบายรัฐแบ่งเบาภาระประชาชน หนุน 30 ล้านบาท ลดราคาแอลพีจีหาบเร่แผงลอย 100 บาท/ถัง ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และปันผลระหว่างกาล 90 สตางค์/หุ้น วงเงินรวม 2.6 หมื่นล้านบาท
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) กล่าวว่า ที่ประชุม คณะกรรมการ ปตท. วานนี้ ( 27 ก.ย. )มีมติ สนับสนุนนโยบายภาครัฐในการแบ่งเบาภาระต้นทุน ค่าครองชีพของประชาชน โดยให้ความช่วยเหลือค่าก๊าซหุงต้ม แก่ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 88,189 ราย เป็นจำนวนเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อเดือน สำหรับใช้สิทธิ์ซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าก๊าซที่ลงทะเบียนกับกรมบัญชีกลาง ผ่านอุปกรณ์รับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Capture : EDC) ของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ โดยมีระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือ 3 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงเดือนธันวาคม 2562 ในวงเงินรวม 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการ นำร่องของ ปตท. ร่วมกับกระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลัง ในการปรับฐานข้อมูลผู้สมควรได้รับการสนับสนุนโดยตรง ให้สอดคล้องกับข้อมูลผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในการให้ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ปตท.ยังมีมติ จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2562 ที่อัตรา 0.90 บาท ต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนเงินปันผล (Dividend Payout Ratio) ประมาณร้อยละ 47.1 ของกำไรสุทธิงวดครึ่งแรกของปี 2562 และอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนต่อปี (Dividend Yield) ร้อยละ 4.3 ซึ่งเป็นไปตามความคาดหวังของนักลงทุน โดยกระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ปตท. จะได้รับเงินปันผลคิดทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านกองทุนวายุภักษ์คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 16,000 ล้านบาท โดยผู้ถือหุ้นทั้งสถาบันและ รายย่อยกว่า 100,000 คน จะได้รับเงินปันผลกว่า 10,000 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 26,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ
ทั้งนี้ กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD (Exclude Dividend) วันที่ 10 ตุลาคม 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 ตุลาคม 2562 ในขณะเดียวกัน ปตท. ยังคงเดินหน้าลงทุนในโครงการที่สำคัญตามแผนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนตามกลยุทธ์การสร้างสมดุลใน 3 มิติ (People Planet Prosperity : 3P)
“มติบอร์ด ปตท. แสดงให้เห็นถึงการดูแลประชาชนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้น้อย และกระตุ้นเศรษฐกิจโดยผ่านเงินปันผล 26,000 ล้านบาท เพื่อสร้างการเติบโตและความยั่งยืนของเศรษฐกิจและสังคมไทย โดย ปตท. ยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการในทุกมิติเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มั่นคงต่อไป” นายชาญศิลป์กล่าว-สำนักข่าวไทย