ตำรวจขับกระบะแหกด่าน ลงมาชักปืนขู่

สมุทรปราการ 27 ก.ย.-ตำรวจสำโรงใต้หัวร้อนแหกด่านตรวจ ถูกเจ้าหน้าที่อาสาฯ โยนกรวยขวางหน้ารถ จึงลงมาชักปืนข่มขู่ต่อหน้าตำรวจที่ตั้งด่าน ถูกแจ้ง 3 ข้อหาหนัก พร้อมประสานผู้บังคับบัญชาพามอบตัว


เจ้าหน้าที่อาสาของตำรวจสภ.เมืองสมุทรปราการ บันทึกคลิปนายตำรวจยศร้อยตำรวจเอก ตำแหน่งงานรองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงใต้ มีอาการหัวร้อนชักปืนออกมาขู่เจ้าหน้าที่อาสา ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังตั้งด่านอยู่บริเวณเชิงสะพานตะกาด ถนนพุทธรักษา ตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ กลางดึกวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่นายตำรวจนายนี้พยายามขับกระบะแหกด่านที่ตำรวจ และอาสาของสภ.เมืองสมุทรปราการตั้งด่านตรวจอยู่ เจ้าหน้าที่อาสาจึงโยนกรวยสกัดรถ ทำให้กรวยถูกรถกระบะได้รับความเสียหาย เป็นเหตุให้นายตำรวจรายนี้มีอาการหัวร้อน ลงจากรถมาโวยวายและชักปืนออกมาต่อว่าและข่มขู่เจ้าหน้าที่อาสา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจได้พยายามเข้าเกลี้ยกล่อม จึงทำให้อารมณ์หัวร้อนของนายตำรวจคนดังกล่าวเย็นลง


หลังคลิปถูกเผยแพร่ในโลกโซเชียล ชาวเน็ตก็วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และการชักปืนออกมาขู่เจ้าหน้าที่อาสาต่อหน้าตำรวจเหตุใดจึงไม่มีการจับกุม เพราะว่าผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจหรือไม่จึงปล่อยไป ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามไปยัง พันตำรวจเอกประเสริฐ บัวขาว ผู้กำกับการ สภ.สำโรงใต้ ได้รับการเปิดเผยว่าทราบพฤติกรรมของนายตำรวจรายนี้แล้ว และอยู่ระหว่างรอคำสั่งจากทางผู้บังคับบัญชาว่าจะให้ดำเนินการทางวินัยอย่างไร 

ขณะที่ทางพันตำรวจเอกฐานุพงศ์ แสงซื่อ ผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรปราการ เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ยืนยันว่างานนี้ไม่มีคำว่า มวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน เพราะได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับนายตำรวจที่ก่อเหตุให้ถึงที่สุด ส่วนประเด็นที่โซเชียลสงสัยว่าเหตุใดตำรวจไม่ดำเนินการจับกุมในขณะเกิดเหตุ เป็นเพราะผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืน และอยู่ในสภาวะเครียดจัด หากเข้าชาร์จจับกุมอาจเกิดความสูญเสียเกิดขึ้นใด้ และผู้ปฏิบัติก็มีการถ่ายคลิปและทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครแล้ว จึงใช้วิธีรวบรวมพยานจับกุมในภายหลัง ซึ่งได้ประสานไปทางผู้บังคับบัญชาของผู้ก่อเหตุให้พาเข้ามอบตัวแล้ว โดยแจ้งข้อหาหนัก 3 ข้อหา คือ พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ข่มขู่ผู้อื่นให้ตกใจกลัว และดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่วนกรณีที่ทางผู้เสียหายอ้างว่าทางอาสาไปทุบรถของผู้ก่อเหตุนั้น ต้องแยกแยะเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งทางผู้ก่อเหตุสามารถแจ้งความเรียกค่าเสียหายได้เช่นกัน ตนจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย


นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่านายตำรวจคนนี้ เคยก่อเหตุชกเจ้าหน้าที่อาสาขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ สภ.เมืองสมุทรปราการมาแล้วครั้งหนึ่งด้วย ล่าสุดเมื่อ 20.30 น. พันตำรวจเอกประเสริฐ บัวขาว ผู้กำกับการ สภ.สำโรงใต้ ได้พานายตำรวจคนดังกล่าวเข้ามอบตัวแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง