นักวิชาการ ขอให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ แต่งตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจ

กทม.25ก.ย.-นักวิชาการ ยอมรับการแต่งตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจมีการแทรกแซงจากการเมือง เรียกร้องภาคประชาชนร่วมตรวจสอบกระบวนการสรรหาตามกฎหมายใหม่ 


นักวิชาการ  ตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมเสวนา ในหัวข้อ เรื่อง “มารยาท หรือจรรยาบรรณ ช่วยชาติได้มากกว่า?… กรณีเปลี่ยนบอร์ดรัฐวิสาหกิจกับการเมือง” เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหาแนวทางหรือหลักปฏิบัติที่สร้างสรรค์เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนารัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นกลไกของรัฐในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ รวมทั้งผู้ให้บริการสาธารณะ ในเวทีเสวนา มีการยอมรับว่า แม้ปัจจุบันในการคัดเลือกบอร์ดรัฐวิสาหกิจจะมีกฎหมายใหม่  ตามพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ 2562 ที่มุ่งให้ภาครัฐต้องปฏิรูปการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจที่ดี มีความชัดเจนและโปร่งใส รวมถึงการคัดเลือกกรรมการ หรือบอร์ดรัฐวิสาหกิจด้วย  แต่ในความเป็นจริงต้องยอมรับว่า การแต่งตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจยังคงมีการแทรกแซงทางการเมือง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในขั้นตอนของการ คัดเลือกคณะกรรมการ

เพื่อมาสรรหาบุคคลและแต่งตั้งเป็นบอร์ดรัวิสาหกิจแต่ละแห่ง ซึ่งจะประกอบด้วยข้าราชการ5คนและจากภาคเอกชน จำนวน 3คน ซึ่ง จุดนี้เองทำให้การเมือง มีอำนาจในการชี้ตัวหรือสั่งการให้เลือกตัวบุคคลที่จะนั่งเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งได้ และเมื่อบอร์ดมาจากการเมืองทำให้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองบอร์ดชุดดังกล่าวก็จะต้องเปลี่ยนตามไปด้วยซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาต่อเนื่องมาทุกยุค 


นอกจากนี้ยังพบว่าบอร์ดของรัฐวิสาหกิจของไทย มีความแตกต่างจากบอร์ดของรัฐวิสาหกิจในต่างประเทศ และเป็นคำถามถึงความเหมาะสม โดยเฉพาะ กรณี มีบอร์ดที่มาจากข้าราชการประจำ  /การไม่เปิดคุณสมบัติหรือประสบการณ์ว่ามีความเหมาะสมกับตำแหน่งหรืออยู่ในระดับที่ยอมรับได้หรือไม่  ที่สำคัญค่าตอบแทนของบอร์ดในรัฐวิสาหกิจรวยหลายแห่งอยู่ในระดับสูงมาก หลักหลายล้านต่อปี และมากกว่าค่าตอบแทนของผู้บริหาร 

ทั้งนี้ในวงเสวนาได้หาทางออกในการแก้ปัญหานี้ด้วยการเรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูล และโปร่งใสในขั้นตอนการสรรหาบุคคล รวมทั้งเปิดเผยคุณสมบัติของบุคคลที่จะมาเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจใหม่แต่ละตำแหน่ง ต่อสาธารณะเพื่อให้ภาคเอกชนได้ร่วมในการตรวจสอบ ทั้งในกระบวนการสรรหาและหลังจากทำหน้าที่แล้ว เพื่อรักษารัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นสมบัติของชาติที่ปัจจุบันในประเทศไทยมี 56 แห่งและมีทรัพย์สินรวมมูลราคา 16ล้านล้านบาทหรือเท่ากับจีดีพีของประเทศ  ให้รัฐวิสาหกิจสามารถบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจของประเทศและต่อประชาชนชาวไทย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว