คาดคนกรุงเทพฯท่องเที่ยวปีใหม่ 4.4 หมื่นล้านบาท

 


กรุงเทพฯ 3 พ.ย.-ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินคนกรุงเทพฯ เดินทางท่องเที่ยวช่วงปีใหม่มูลค่าประมาณ 44,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ใช้จ่ายขึ้นต่ำประมาณ 2,500 บาท/ทริป และเชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม

 


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้สำรวจพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของคนกรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 ในลักษณะการสำรวจเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 10 ตุลาคม-18 พฤศจิกายน 2559 (ก่อนภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว ช่วงเดือนธันวาคม) จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนกรุงเทพฯ จำนวน 982 คน ครอบคลุมทุกสาขาอาชีพหลัก ช่วงอายุ และระดับรายได้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของคนกรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ พบว่า กลุ่มตัวอย่างประมาณร้อยละ 66.0 มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ อย่างน้อย 1 ทริป โดยปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 คือ เชียงใหม่ โดยกิจกรรมที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีแผนทำระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว อันดับ 1 คือ  เที่ยวชมความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อย่างภูเขา น้ำตก ทะเล รองลงมา คือ การทำบุญไหว้พระ และการลิ้มลองอาหารท้องถิ่นจากร้านที่มีชื่อเสียง ตามลำดับ

ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีแผนจะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด ส่วนใหญ่มีแผนจะเดินทางไปกับครอบครัว/เพื่อน โดยมีแผนเดินทางท่องเที่ยวจำนวน 1 ทริป คิดเป็นร้อยละ 75.3 และอีกส่วน คือ กลุ่มที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่ 2 ทริปขึ้นไป การสำรวจครั้งนี้ยังสะท้อนพฤติกรรมเกี่ยวกับการสำรองที่พัก พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยมากเลือกที่พักประเภทรีสอร์ทมากเป็นอันดับ 1 รองลงมา ได้แก่ โรงแรม และโฮมสเตย์ รวมถึงบ้านญาติ/เพื่อน ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมที่ส่วนใหญ่มีผู้ร่วมเดินทางอยู่ที่ประมาณ 2-5 คนต่อทริป โดยกลุ่มตัวอย่างเลือกที่จะสำรองที่พักโดยตรงกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ของธุรกิจและการจัดรายการส่งเสริมการขายในงานท่องเที่ยว

ขณะที่ อีกส่วนเลือกสำรองที่พักผ่านออนไลน์แทรเวลเอเจนซี่ (Online Travel Agency: OTA) อย่าง Agoda.com Booking.com และ Expedia.com เป็นต้น ผลการสำรวจครั้งนี้ ช่วยสะท้อนสถานการณ์ปัจจุบันในตลาดที่ภาคธุรกิจได้ปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าเป้าหมาย อย่างธุรกิจสายการบินเพิ่มความถี่ในการนำเสนอโปรโมชั่นด้านราคาเพื่อกระตุ้นตลาดคนรุ่นใหม่ที่มีพฤติกรรมการจองสินค้าท่องเที่ยวแบบนาทีสุดท้าย หรือ Last Minute Bookingการสำรวจครั้งนี้สะท้อนพฤติกรรมการใช้จ่ายของกลุ่มตัวอย่าง โดยพบว่า กลุ่มตัวอย่างประมาณ ร้อยละ 64.7 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ใช้จ่ายระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในต่างจังหวัดด้วยเงินสด รองลงมา คือ ใช้จ่ายด้วยเงินสดและบัตรเครดิตในสัดส่วนใกล้เคียงกัน


ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างมีการใช้จ่ายส่วนใหญ่สำหรับค่าอาหารและเครื่องดื่ม อยู่ที่ประมาณ 1,000-2,000 บาทต่อคนต่อทริป รองลงมา คือ ค่าใช้จ่ายที่พัก ประมาณ 1,000-1,500 บาทต่อคนต่อทริป และค่าใช้จ่ายสำหรับของฝากของที่ระลึก ประมาณ 500-1,000 บาทต่อคนต่อทริป และ ผู้คนส่วนใหญ่ใช้จ่ายด้วยเงินสดระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากร้านค้าที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงร้านจำหน่ายของฝากของที่ระลึก ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายย่อยในท้องถิ่นที่อาจสะดวกรับเป็นเงินสดมากกว่า แต่บางรายมีความพร้อม สามารถบริหารจัดการเรื่องต้นทุนที่อาจเพิ่มขึ้น ก็ยินดีให้ลูกค้าสามารถเลือกชำระค่าสินค้าและบริการได้ทั้งเงินสดและบัตรเครดิต

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 คนกรุงเทพฯ จะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่เดินทางไปพักผ่อนทั้งแบบเช้าไป-เย็นกลับ และกลุ่มที่พักค้างคืน รวมถึงกลุ่มที่แวะเที่ยวระหว่างการเดินทางกลับภูมิลำเนา/เยี่ยมญาติในต่างจังหวัด จำนวนคนกรุงเทพฯ อาจเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 จากช่วงเดียวกันของปี 2558 และก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในพื้นที่ต่างๆ มูลค่าประมาณ 44,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แรงหนุนส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการภาครัฐที่มุ่งหวังกระตุ้นคนไทยเที่ยวในประเทศช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ